Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 383 เขาหาเรื่องท่านหรือครับ
บทที่383 เขาหาเรื่องท่านหรือครับ
“ฮัลโหล?มีอะไร” ลี่จุนถิงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับรับโทรศัพท์ เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อย่างแรกก็คือเมื่อวานเขาลืมเรื่องที่ตัวเองสั่งชิงโม่ไป
อย่างที่สองคือเขาไม่นึกเลยว่าชิงโม่จะโทรมาวันนี้
“นายเป็นอะไรไป? ไม่ใช่ว่าจะรายงานฉันตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่ายแล้วเหรอ แล้วทำไมถึงพึ่งโทรมาวันนี้ล่ะ?” แม้จะรู้ว่าลี่จุนถิงไม่ว่าอะไรหรอก แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความซื่อสัตย์และประสิทธิภาพในการทำงานของเขา
“ต้องขอโทษคุณชายลี่ด้วยครับที่ผมผิดนัด” น้ำเสียงของชิงโม่บ่งบอกได้เลยว่าเขาขอโทษออกมาจากใจจริง
ลี่จุนถิงโบกมือปัด “ช่างมันเถอะ อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย นายบอกเรื่องAnthonyกับฉันมาก่อนดีกว่า”
ถึงขนาดทำให้ชิงโม่ผิดนัด เห็นทีเรื่องของAnthonyคงไม่ง่ายสินะ
“ที่คุณชายลี่สั่งให้ให้ผมไปตรวจสอบตัวตนของAnthonyดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเลย” ชิงโม่สูดหายใจเข้าลึก เขาประเมินอีกฝ่ายต่ำไป
“ดูเหมือนว่า?” ลี่จุนถิงใช้นิ้วมืออันเรียวยาวเคาะลงบนโต้ะเป็นจังหวะ “นายช่วยบอกให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม?”
ชิงโม่ขมวดคิ้วแน่นแล้วก้มมองเอกสารในมือของตัวเอง ตอนที่รวบรวมข้อมูลนั้น ข้อมูลของAnthonyเยอะมากจริงๆ ฉะนั้นการที่จะรวบรวมข้อมูลให้ได้ครบทั้งหมดมันจึงกินพลังงานชิงโม่ไปเยอะพอสมควร
“อิทธิพลอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของAnthonyนั้นค่อนข้างซับซ้อน แม้อิทธิพลในจีนของเขาจะยังมีไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าในต่างประเทศเขากลับมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นแฟ้นและซับซ้อนมากๆด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลี่จุนถิงก็หรี่ตาลง ไม่นึกเลยว่าแค่ตรวจสอบบริษัทที่เล่นงานเขามันจะขุดคุ้ยเรื่องต่างๆออกมาได้มากมายขนาดนี้
“และจากที่ผมไปตรวจสอบมา ครั้งก่อนที่คุณนายถูกจับตัวไปที่โรงงานนั่น ดูเหมือนว่าAnthonyจะมีความเกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายด้วย เพราะผมเจอบันทึกข้อมูลการร่วมมือกันระหว่างพวกเขาทั้งสอง” ชิงโม่พลิกเปิดไปยังหน้าที่มีหลังฐานแสดงถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างAnthonyกับโรงงานนั่น “ผมได้ส่งข้อมูลทั้งหมดไปที่อีเมลของท่านแล้ว ท่านสามารถดูได้เลยครับ”
มิน่าชิงโม่ถึงรู้สึกว่ามันแปลกๆมาตลอด ตอนที่เห็นของในโรงงานครั้งก่อนมันไม่ใช่ของกระจอกๆเลย อีกอย่างถ้าAnthonyเกี่ยวข้องกับองค์กรขนาดใหญ่พวกนั้นจริงๆละก็ เขาก็คงได้สัมผัสเครื่องจักรจำพวกนี้บ่อยๆแน่นอน ฉะนั้นเขาเลยไม่รู้สึกว่ามันแปลกอะไร
“ทำไมท่านถึงอยากให้สืบเรื่องเขาหรอครับ?หรือว่าพวกเขาหาเรื่องพวกเรา?”ชิงโม่รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
แม้ว่าคู่ต่อสู้คนนี้จะไม่อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แต่ถ้าต้องจัดการมันขึ้นมาจริงๆ เห็นทีคงต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร
ลี่จุนถิงไม่ตอบคำถามของชิงโม่ ตอนนี้เขาสนใจแค่เจียงหยุนเอ๋อ
ลี่จุนถิงรู้สึกได้ถึงความร้ายแรงในเรื่องนี้ เขาหรี่ตาลงและถามขึ้น “นี่นายหมายความว่า ที่เจียงหยุนเอ๋อถูกลักพาตัวไปต่างประเทศตอนนั้น เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นคนของAnthonyงั้นเหรอ?”
ชิงโม่พยักหน้าตอบ “ใช่ ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับ เพราะมันค่อนข้างยากที่คนธรรมดาจะเข้าไปในนั้นได้ ถ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน”
ลี่จุนถิงรู้สึกช็อกไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น
ตลอดเวลามานี้ดูเหมือนว่าคนที่อยากจะฆ่าเจียงหยุนเอ๋อให้ตายล้วนเกี่ยวข้องกับส้งหวั่นหวั่นทั้งนั้น
เห็นทีฉันคงจะใจดีกับส้งหวั่นหวั่นมากเกินไปซะแล้ว
เขาเคยคิดว่ากะอีแค่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งเล่นงาน ยังไงก็คงทำอะไรไม่ได้หรอก แต่ไม่นึกเลยว่าหล่อนจะจิตใจอำมหิตถึงขนาดนี้
ฉันประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริงๆ คาดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะรู้จักยืมมือคนอื่นมาช่วยด้วย นี่ฉันถูกเล่ห์เหลี่ยมมารยาของหล่อนหลอกมาตลอดเลยหรอเนี่ย
“คุณชายลี่ พวกเขาหาเรื่องท่านใช่ไหมครับ?” ชิงโม่ถามขึ้นอีกครั้ง
ลี่จุนถิงกัดฟันกรอด นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชังจนอยากจะพุ่งไปต่อยส้งหวั่นหวั่นสักยก
ถึงแม้ว่าผู้ชายต่อยผู้ผู้หญิงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วยว่าล้ำเส้นมามากแค่ไหน
“ใช่ ไม่ผิดแน่ กล้าแตะต้องผู้หญิงของฉัน ?มันคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?” แม้นี่จะเป็นประโยคคำถามของลี่จุนถิง แต่น้ำเสียงของเขากลับบ่งบอกได้เลยว่าชีวิตของAnthonyนับจากนี้ไปจะอยู่ไม่สุขแน่
“ถ้างั้น……” พวกเราจัดการมันเลยไหม
ชิงโม่ยังอยากที่จะถามลี่จุนถิงต่อว่าจะให้เขาจัดการเลยไหม
ถึงแม้คู่ต่อสู้จะไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่อย่างว่าดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับ พวกเขาเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน เพราะงั้นเราก็ต้องสู้กลับ!
ทว่าลี่จุนถิงกลับพูดตัดบทชิงโม่ขึ้นมาก่อน “เอาล่ะ แค่นี้ก่อน ฉันวางล่ะ”
หลังจากวางสายลี่จุนถิงก็นิ่งเงียบจนน่ากลัว ใบหน้าอันหล่อเหลาดูเยือกเย็นมากกว่าเดิม ซู่จี้งยี้ที่มองอยู่ข้างๆเห็นแล้วยังสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ซู่จี้งยี้!” ลี่จุนถิงเอ่ยขึ้น
“ครับ” ซู่จี้งยี้ขานตอบอย่างอึกอัก
แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่โดนดุ แต่เขาก็ตกใจกับรังสีอำนาจที่แผ่ออกมาจากลี่จุนถิงอยู่ดี ไม่เคยเห็นลี่จุนถิงสีหน้าย่ำแย่ขนาดนี้มาก่อนเลย
“ตอนนี้บริษัทอันกื๋อเอ๋อเป็นยังไงบ้าง?” ตั้งแต่เจอเจียงหยุนเอ๋ออารมณ์ของลี่จุนถิงดีขึ้นจริงรึเปล่าเนี่ย
ทุกคนล้วนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เห็นทีคงต้องทำอะไรซักอย่างให้รู้กันซะบ้างแล้วว่าผู้ทรงอิทธิพลของเมืองจิ่งเฉิงแท้จริงแล้วคือใคร?
ซู่จี้งยี้ตอบตามความเป็นจริง “ระบบหมุนเงินทุนทั้งหมดถูกตัดขาด ธนาคารใหญ่หลายแห่งก็ปฏิเสธที่จะให้เงินกู้แล้วค่ะ”
“พวกผู้ลงทุนล่ะ?เป็นยังไง?”
ถ้าต้องการให้บริษัทอยู่ต่อ ผู้ร่วมลงทุนและเงินทุนนั้นล้วนเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไม่มีสองอย่างนี้ แม้แต่เทพเจ้าก็คงช่วยไม่ได้หรอก
“ทางด้านผู้ลงทุนเห็นแล้วว่าโครงการในบริษัทของพวกเขาไปต่อไม่รอด แต่ก็ไม่แน่พวกเขาอาจจะไม่วางมือก็ได้”
“งั้นก็ไปก่อเรื่องสักอย่าง ให้ผู้ลงทุนพวกนั้นไปก่อความวุ่นวายซักหน่อย ฉันชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าถ้าไม่มีพวกผู้ลงทุนคอยสนับสนุน บริษัทพวกเขาจะอยู่ต่อไปยังไง”นัยน์ตาของลี่จุนถิงฉายแววแห่งความชั่วร้ายออกมา
หากโครงการไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ อย่าว่าแต่พวกผู้ลงทุนจะไปก่อความวุ่นวายเลย ถึงตอนนั้นไม่แน่อาจจะต้องจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนมากจนเรื่องอาจจะต้องไปถึงศาลเลยก็ว่าได้
ตอนนี้ลี่จุนถิงคิดแค่ว่าอยากจะก่อเรื่องให้มันวุ่นวายใหญ่โตไปเรื่อยๆยิ่งมากยิ่งดี
“เข้าใจแล้วครับ” ลี่จุนถิงไม่จำเป็นต้องมาอธิบายคำพูดเหล่านี้ ซู่จี้งยี้ช่วยลี่จุนถิงมาตั้งนานหลายปี แน่นอนว่าเขารู้วิธีการจัดการของลี่จุนถิงเป็นอย่างดี เวลาลงมือทีเขาไม่เคยปราณีใครอยู่แล้ว
“ดีมาก ถ้าถึงตอนนั้น เรื่องมันบานปลายใหญ่โตขึ้นมาก็เยี่ยมไปเลย” พอคิดถึงตอนที่บริษัทของอันกื๋อเอ๋อเละเทะไม่มีชิ้นดี ลี่จุนถิงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย “นายกดดันพวกเขาต่อไปเรื่อยๆเลยนะ อย่าให้พวกเขาได้มีเวลาพักหายใจ”
ซู่จี้งยี้พยักหน้ารับ
“แล้วถ้าจัดการเรื่องนี้ได้อย่างดีเยี่ยมละก็ ถึงตอนนั้นฉันจะให้นายลาหยุดพักซักสองสามวัน” ลี่จุนถิงให้ข้อเสนอออกไป
เขากลัวว่าซู่จี้งยี้จะออมมือ อีกอย่างการกดดันครั้งนี้มันก็เพื่อแก้แค้นให้กับเจียงหยุนเอ๋อ เพราะงั้นลี่จุนถิงจะไม่มีวันใจอ่อนเด็ดขาด
การที่บอกว่าจะให้วันหยุดกับซู่จี้งยี้ หนึ่งคือมันสามารถเพิ่มความกระตือรือร้นให้เขาได้ สองคือซู่จี้งยี้ช่วยเขาจัดการเรื่องต่างๆมาโดยตลอดจนเขาแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย
พอซู่จี้งยี้ได้ยินคำนี้ เดิมทีที่กำลังจะก้าวเท้าออกไปเขาก็หยุดกึกลงทันที จากนั้นก็หันขวับมามองลี่จุนถิง “คุณชายลี่พูดจริงหรอครับ?”
“ถ้าไม่เชื่อ งั้นฉันจะกลับคำแล้วนะ” ลี่จุนถิงยักไหล่ขึ้นลง