Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 384 ผมจะปกป้องคุณเอง
บทที่384 ผมจะปกป้องคุณเอง
ซู่จี้งยี้รีบพูดขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน “ผมเชื่อ ผมเชื่อแล้วครับคุณชายลี่ ท่านวางใจได้เลย ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด และจะจัดการให้อย่างงามเลย”
ลี่จุนถิงพยักหน้ารับอย่างพอใจ
ซู่จี้งยี้เดินออกจากห้องทำงานไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เขารอประโยคนี้มานานแล้ว
เพื่อนของเขาแต่ละคนต่างก็มีแฟน มีภรรยาไปหมด เหลือแต่เขาที่ยังโสดอยู่คนเดียว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีพอหรอก เขาเป็นถึงผู้ช่วยของลี่จุนถิงเชียวนะ ฉะนั้นการที่จะหาใครซักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ว่าเขายุ่งมากจนไม่มีวันหยุด เพราะงั้นเรื่องออกไปนัดเดทกับผู้หญิงซักคนนี่ลืมไปได้เลย
ที่จริงก่อนหน้าที่ก็เคยคบมาสองสามคน แต่สุดท้ายก็เพราะไม่มีเวลาถึงได้เลิกรากันไป
นานๆทีลี่จุนถิงจะเห็นใจเขา และเห็นว่ามีผู้ช่วยคนหนึ่งที่ทำงานงกๆเพื่อเขา ครั้งนี้เขาจะต้องจัดการให้ดีที่สุดถึงจะได้ลิ้มรสวันหยุดเพียงครั้งเดียวนี้ได้อย่างเต็มที่
ผ่านไปสองวัน ช่องทีวีข่าวเศรษฐกิจก็รายงานข่าวออกมาข่าวหนึ่ง
“อันกื๋อเอ๋อ บริษัทที่พึ่งเติบโตขึ้นในประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ เกิดปัญหาการจัดการภายในที่ไม่เหมาะสมขึ้น ทำให้ไม่อาจหมุนเวียนเงินทุนได้ทัน ตอนนี้จึงกำลังเผชิญหน้ากับภาวะการล้มละลาย และยังมีรายงานมาจากบริษัทอื่นๆอีกว่าบริษัทนี้เป็บริษัทลวงโลก……”
พอลี่จุนถิงเห็นรายงานข่าวในทีวี เขาก็อารมณ์ดีขึ้นมามากเลยทีเดียว นี่แหละที่เขาต้องการ
เขากำลังคิดเงียบๆในใจว่าครั้งหน้าจะคิดบัญชีกับAnthonyยังไงต่อดี
เนื่องจากบริษัทอันกื๋อเอ๋อมักจะร่วมมือกับบริษัทของAnthony ดังนั้นครั้งนี้บริษัทของAnthonyจึง โดนดึงเอี่ยวเข้าไปด้วย
“ท่านประธาน ครั้งนี้บริษัทเราขาดทุนย่อยยับเลย” ผู้ช่วยรีบปรี่เข้ามาที่ห้องทำงานเพื่อรายงานข่าว
ทว่าพอAnthonyเห็นรายงานข่าวในช่องข่าวเศรษฐกิจ เขาก็เขวี้ยงรีโมทใส่ทีวีด้วยความโมโห
ไม่นึกเลยว่าลี่จุนถึงจะใช้วิธีแบบนี้ ถึงกับถอนรากถอนโคนอันกื๋อเอ๋อเลยหรอ เขาประเมินลี่จุนถิงต่ำไปสินะ
ส้งหวั่นหวั่นที่นั่งอยู่ข้างๆร้อนรนขึ้นมาทันที ในใจก็คิดว่าลี่จุนถึงรู้แล้วเหรอ?
“Anthony ทำยังไงดี?” จู่ๆส้งหวั่นหวั่นก็นึกกลัวขึ้นมา
Anthonyเดินมาด้านข้างส้งหวั่นหวั่น แล้วกอดปลอบเธอเบาๆ จากนั้นก็ยิ้มพูดขึ้น“ถึงเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ แต่คุณไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่ ผมจะปกป้องคุณเอง คุณใช้ชีวิตแบบสบายๆตามปกติไปได้เลย”
“จริงหรอ?” ส้งหวั่นหวั่นกัดริมฝีปากเบาๆ ดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อใจAnthonyมากนัก
เธอรู้จักลี่จุนถิงและรู้วิธีการจัดการของลี่จุนถิงเป็นอย่างดี ถึงแม้Anthonyจะเก่งไม่แพ้กัน แต่บางทีเธออาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ มันเลยทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าลี่จุนถิงมีโอกาสชนะมากกว่า
ตอนนี้Anthonyยังไม่สนใจลี่จุนถิงเลยด้วยซ้ำ พอเขาได้ยินส้งหวั่นหวั่นไต่ถามเขาจึงรู้สึกว่าเธอถามมากเกินไปแล้ว
“จริงสิ คุณไม่ต้องห่วงหรอก เขาจะทำอะไรผมได้” Anthonyยิ้มร่าอย่างไม่ใส่ใจ เขาแทบไม่สนใจด้วยซ้ำว่าส้งหวั่นหวั่นยังคงแสดงสีหน้ากังวลออกมาอยู่เหมือนเดิม
“ก็ได้” สุดท้ายส้งหวั้นหวั่นก็ได้แต่พึมพำออกมาเบาๆ ทว่าในใจก็ยังรู้สึกว่าเขามั่นใจเกินไปอยู่ดี
อย่างไรก็ตามAnthonyคงไม่อยากฟังคำพูดพวกนั้นหรอก ฉะนั้นส้งหวั่นหวั่นจึงไม่พูดอะไรต่อ เธอเก็บคำพูดพวกนั้นไว้ในใจเงียบๆดีกว่า
Anthony ยังคงจมอยู่ในจินตนาการของตัวเองเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็หันมามองส้งหวั่นหวั่นพร้อมกับเลียริมฝีปาก เขาเขยิบเข้าไปใกล้เธอแล้วเอาหัววางไว้ที่ซอกคอของส้งหวั่นหวั่นพลางสูดดมกลิ่นเธอเข้าไปด้วยความหลงใหล
ส้งหวั่นหวั่นขนลุกวาบขึ้นมาทันที เธอขยับตัวหลบไปด้านข้างอย่างไม่รู้ตัว Anthonyจึงขมวดคิ้วแน่น
“เป็นอะไรไป?ไม่อยากให้ผมแตะต้องตัวคุณหรอ?” แม้ว่าAnthonyจะยิ้มอยู่ แต่ทว่าสายตาของเขาเขากลับเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างรวดเร็ว
ส้งหวั่นหวั่นมองเขาอย่างประหม่า เธอไม่อยากให้เขาเข้ามาแตะต้องตัวเธอจริงๆ แต่เธอก็ไม่กล้าพูดออกไปตรงๆ และก็ไม่อยากให้Anthonyรู้ด้วย
ส้งหวั่นหวั่นฝืนยิ้มออกมา “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็แค่รู้สึกไม่ค่อยสบาย คุณอย่าคิดมากไปเลยนะ”
สีหน้าของAnthonyผ่อนคลายลงในพริบตาเดียว เขามีความรู้สึกดีๆต่อส้งหวั่นหวั่นอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นสายตาเขาจึงเปลี่ยนเป็นห่วงใยเธอขึ้นมาทันที
“หืม?ไม่ค่อยสบาย?เป็นอะไรรึเปล่า?”
ส้งหวั่นหวั่นรีบใช้ความคิดรวดเร็ว เธอพูดออกไป “คงเป็นเพราะตอนเช้าไม่ได้ทานข้าวมา ตอนนี้ก็เลยรู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง……”
“ทำไมไม่กินข้าว?” Anthonyมองค้อนส้งหวั่นหวั่นไปหนึ่งที จากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเรียกลูกน้องให้เอาอาหารเข้ามาให้ส้งหวั่นหวั่นทาน
การกระทำทุกอย่างของAnthonyอยู่ในสายตาของเธอ เธอดูออกว่าAnthonyเป็นห่วงเป็นใยเธอจริงๆ
แต่เธอก็ไม่อาจชอบAnthonyได้ แค่แตะตัวก็ยังเป็นเรื่องยากเลย เรื่องของความรู้สึก มันบังคับกันไม่ได้นี่นา แล้วเมื่อกี้เธอก็คิดข้ออ้างอื่นไม่ออกด้วย
ตอนนี้เธอจำเป็นต้องอยู่ข้างAnthony อย่างแรกก็เพราะเธอต้องการความช่วยเหลือจากAnthony อย่างที่สองก็คือดูจากความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของAnthonyแล้ว เธอเลยไม่มีทางเลือกอื่น
ส้งหวั่นหวั่นไม่อยากทำให้Anthonyหัวเสีย ไม่งั้นในอนาคตเธอคงอยู่ไม่สุขแน่
ไม่นานลูกน้องของAnthonyก็ยกอาหารเข้ามา ส้งหวั่นหวั่นยกกล่องกับข้าวขึ้นเตรียมจะเดินออกไปทว่ากลับถูกAnthonyพูดขัดขึ้น
“จะไปไหน?”
ส้งหวั่นหวั่นหันกลับมาแล้วมองไปที่Anthonyด้วยสีหน้าประหลาดใจ “คุณจะทำงานไม่ใช่หรอ?เดี๋ยวฉันออกไปกินข้างนอก ไม่อยากรบกวนคุณน่ะ”
“อย่าถือสาเลย” Anthonyยื่นมือออกมาดึงส้งหวั่นหวั่นเข้าไปกอด “รบกวนอะไรกัน?คุณนั่งกินข้างๆนี่เลย ผมอยากเห็นคุณนานๆ”
“อ่า……”ส้งหวั่นหวั่นฝืนยิ้มออกมา และสุดท้ายก็ตอบตกลง “ได้สิ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรฉันก็ไม่มีปัญหา”
เมื่อนั่งลงข้างๆAnthonyแล้วส้งหวั่นหวั่นก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขึ้นมาทันที สายตาของAnthonyทำให้เธอหายอยากอาหารไปเลย แต่เธอก็ทำได้แค่แสร้งว่าไม่เห็นเขามองอยู่
Anthonyนั่งเฝ้ามองเธออย่างอิ่มอกอิ่มใจอยู่ซักพัก จากนั้นก็เริ่มลงมือทำงานของตัวเอง
เนื่องจากตัวเองก็คอยเฝ้าระวังAnthonyอยู่ตลอด ในที่สุดส้งหวั่นหวั่นก็พบว่าเขาไม่ได้นั่งจ้องเธอแล้ว เธอจึงได้เริ่มกินอาหารด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ทางด้านAnthonyก็กำลังคิดว่าจะจัดการกับลี่จุนถิงยังไงดี เพราะAnthonyค่อนข้างมีความมั่นใจกับเรื่องนี้มาก
แม้ลี่จุนถิงจะเป็นถึงคนในแวดวงธุรกิจโลก แต่ก็อย่าได้มองข้ามคนอย่างAnthonyไป ถึงเขาจะไม่สามารถโค่นล้มลี่จุนถิงลงได้ แต่ถ้าจะให้สู้จนเสมอกันทั้งสองฝ่ายเห็นทีก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก