Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 416 ทำไมถึงยังเขินอายขนาดนี้
บทที่ 416 ทำไมถึงยังเขินอายขนาดนี้
เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้คิดมาก นึกถึงปัญหาด้านร่างกายของเธอ ก็ย้ายที่นั่งโดยไม่พูดอะไรเลย ตัวเองไปนั่งข้างหลังเงียบๆ
และแล้ว เคธี่ก็สามารถย้ายไปข้างข้างๆ ของลี่จุนถิงได้อย่างราบรื่นตามที่หวัง
ฉะนั้นในภาพนี้ ก็เข้าไปในสายตาของเคธี่พอดี เคธี่ที่ไม่รู้ตัว ลำคอของเธอแน่นขึ้นกะทันหัน โหนกแก้มก็แดงกระหน่ำ
จากนั้น ก็หันข้างไปด้วยความอาย
“ที่จริงพูดตามความจริงแล้ว ฉันว่าตามอนาคตของคุณลี่ที่มองจากตอนนี้ ภายหลังต้องประสบความสำเร็จแน่ๆ ทำไมตอนนี้ถึงไม่ลองขายสาขาออกไปก่อนล่ะคะ ฉันหลับรู้สึกว่า หากเป็นแบบนี้ก็จะมีโอกาสขยายให้กว้างใหญ่ได้” เคธี่พูดด้วยน้ำเสียที่อ่อนโยน
“ฉันไม่ขาดแคลนเงิน” ลี่จุนถิงตอบกลับด้วยความเย็นชา ในน้ำเสียงมีความรำคาญแฝงอยู่
ได้ยินคำพูดนี้ของลี่จุนถิงแล้ว หัวใจของเคธี่ก็เต้นเร็วขึ้นกะทันหัน หันกลับมา มองเขา
ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะเย็นชามาก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สำหรับเคธี่แล้ว กลับทำให้เธอรู้สึกชอบในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และความรู้สึกแบบนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรุนแรง ไม่สามารถควบคุมได้เลย
ฉะนั้นสิ่งที่ไม่มีข้อสงสัยเลยก็คือ ในถนนเส้นนี้ ตั้งแต่เริ่มออกรถมาเคธี่ก็หาหัวข้อการสนทนาตลอดเวลา แต่ว่าเวลาในส่วนมาก ลี่จุนถิงต่างก็แสดงให้เห็นถึงสภาพความสูงส่ง ตัวอักษรแต่ละตัวเป็นดั่งทอง
“ถึงแล้ว” มองดูภาพวิวที่คุ้นเคยข้างนอก ลี่จุนถิงกระแอมคอแล้วพูด
เคธี่มองไปทางนอกหน้าต่าง หยักหน้า มีความไม่อยากเดินลงจากรถไป
“เมื่อกี้แขกพึ่งออกไป ฉะนั้นที่นั่งอาจจะแน่นหน่อยค่ะ ตรงนี้มีสี่ที่นั่ง ไม่รู้ว่าจะเหมาะสมไหม หรือว่าฉันให้คนไปแยกที่นั่งออกมาไหมคะ?” เห็นแต่ละคนแล้ว พนักงานก็ถาม
เพราะว่าความใหญ่ของโต๊ะมีประมาณสองเมตรกว่าๆ ฉะนั้นหากนั่งด้วยกันแล้วจะค่อนข้างแน่น จะติดชิดกันเลย
“ไม่ต้องแล้วค่ะ แบบนี้ละกันค่ะ” หลังจากพูดจบ ยังไม่รอให้อีกไม่กี่คนดึงสติกลับมาได้ เคธี่ก็นั่งลงแล้ว
เห็นแบบนี้แล้ว ลี่จุนซินก็ไม่ดีที่จะพูดมาก แค่พยักหน้า แล้วสั่งให้พวกเขามาเสิร์ฟอาหาร
ในตอนที่จัดที่นั่งแล้ว เคธี่นั่งไปยังข้างๆ ของลี่จุนถิงเลย
มีอาหารจานหนึ่งมาเสิร์ฟ ร่างกายของเคธี่ได้พิงไปทางลี่จุนถิงอย่างไม่เป็นธรรมชาติมากๆ
ใส่เสื้อผ้าที่เบาบางตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นการห่อหุ้มที่ใส ข้างหน้ามีภูเขาอันใหญ่ที่ไม่สามารถเทียบได้ ผิวพรรณที่ขาวยิ่งเผยแพร่อยู่ท่ามกลางอากาศ
รู้สึกเหมือนว่าจะมีของอะไรบางอย่างพิงมา ลี่จุนถิงก้มหน้าลงมองไปหนึ่งที จากนั้นก็ขยับเก้าอี้ไปข้างหลังไม่กี่ที
ได้ยินเสียงแล้ว ลี่จุนซินจึงมองตามไปดู กลืนน้ำลายไปหนึ่งที เหมือนจะเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ถึงว่าล่ะ…….
เมื่อกี้ตอนที่ขวดน้ำอุ่นถูกเตะล้ม เธอก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ปกติแล้ว แต่ว่าก็พูดไม่ออก ว่าตรงไหนไม่ปกติ แต่ว่าตอนนี้ เหมือนว่าจะสามารถมองออกแล้ว……
มองดูเคธี่ที่อยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไร ลี่จุนซินถอนหายใจหนึ่งที
ไม่ว่ายังไงเคธี่ก็เป็นเพื่อนของเธอ ตอนนี้ยังอยู่ในที่สาธารณะอีก เธอไม่ดีที่จะเปิดปากพูดอะไรเลย คิดไปคิดไปก็ได้แต่เก็บความคิดทั้งหมดไว้ในใจของตัวเอง
บนโต๊ะอาหาร เคธี่ยังลองที่จะพูดหัวข้อการสนทนาต่างๆ กับลี่จุนถิง แต่ว่าลี่จุนถิงก็ยังแสดงออกถึงความเย็นชาตลอดเวลา
อาจจะเป็นเพราะว่าเคธี่เฟรนลี่ตั้งแต่เกิด ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะไม่สนใจเธอ เธอก็ไม่รู้สึกท้อ
เจียงหยุนเอ๋อมองดูอยู่ข้างๆ ด้วยความเงียบ ถึงแม้ว่าจะมีความรู้สึกไม่สบายใจ แต่ความการตอบสนองที่เย็นชาของลี่จุนถิงก็ทำให้เธอค่อนข้างพอใจ
อยู่ในบรรยากาศที่อึดอัดแบบนี้ อาหารมื้อหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว หลังจากที่จบลง ลี่จุนถิงลุกขึ้น แล้วพูดกับเจียงหยุนเอ๋อว่า “ไปเถอะ ฉันส่งเธอกลับไป”
ได้ยินแล้ว เคธี่ก็พุ่งไปทางลี่จุนถิง แล้วพูดว่า “จุนถิง นายไม่ไปบริษัทหรอ?”
เธอได้ยินมาว่าลี่จุนถิงให้ความสำคัญมางานเป็นอย่างมาก ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลางานแล้ว เขากลับ…..ยังจะส่งผู้หญิงคนนั้นกลับไปด้วยตัวเอง
ลี่จุนถิงค่อยๆ หันไปมองเธอด้วยความเย็นชา แล้วพูดว่า “บริษัทก็ต้องไปอยู่ แต่ว่าส่งหยุนเอ๋อกลับไปสำคัญกว่า”
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้แล้ว ในใจของเคธี่ก็มีไฟแห่งความอิจฉาเร่าร้อนขึ้น เธอมองไม่ออกจริงๆ ว่าเจียงหยุนเอ๋อมีอะไรดีกันแน่ กลับทำให้ลี่จุนถิงมีความสนใจด้วยขนาดนี้
เคธี่เปิดปาก ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลี่จุนซินได้ดึงแขนเสื้อของเขาอยู่ข้างๆ
ทางหนึ่งคือเพื่อนของตัวเอง อีกทางก็เป็นน้องชายของตัวเอง ในใจของลี่จุนซินรู้สึกลำบากใจมากจริงๆ แต่ไม่ว่ายังไงแล้วลี่จุนถิงและเจียงหยุนเอ๋อก็ยังรักกันมาก เธอไม่อยากเห็นเพื่อนของตัวเองเข้าไปแทรก แล้วทำให้เรื่องราวดูแย่
“จุนถิง นายส่งหยุนเอ๋อกลับไปเถอะ ฉันกับเคธี่ไปก่อนนะ” หลังจากพูดจบ ลี่จุนซินก็ดึงมือของเคธี่ขึ้นจะจากไป
เคธี่คัดค้านด้วยความไม่พอใจ แต่ลี่จุนซินกลับดิ้นรนจะพาเธอไป ตลอดทางเคธี่พูดพึมพำอะไรก็ไม่รู้
เห็นว่าข้างหน้าทั้งสองเดินไปได้ไกลแล้ว ลี่จุนถิงจึงจะก้มหน้ามามองเจียงหยุนเอ๋อ “พวกเราก็ไปเถอะ”
“อื้ม” เจียงหยุนเอ๋อหยักหน้า
ในทางที่กลับบ้าน สีหน้าของลี่จุนถิงไม่ค่อยดีเลย เจียงหยุนเอ๋อทนไปนานมาก ในที่สุดก็เปิดปากถาม “จุนถิง นายเป็นอะไร?”
ลี่จุนถิงถอนหายใจ “ตอนเที่ยงอาหารที่เธอทำให้ฉันกับมือ…..น่าเสียดายแล้ว เทียบกับอาหารที่ร้านอาหารแล้ว ฉันชอบอาหารที่เธอทำมากกว่า”
ได้ยินแล้ว ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็อบอุ่นขึ้นทันที ที่จริงเธอเริ่มรู้สึกดีมากๆแล้ว แต่ว่าภายนอกไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นชัดเจน แค่พูดว่า “เรื่องนี้มีอะไรกัน? กลางคืนฉันยังสามารถทำให้เธออีก”
จากนั้นลี่จุนถิงก็ส่ายหัว “ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้เธอยังท้องอยู่ ฉันไม่อยากให้เธอลำบากมาก เธอพักผ่อนอย่างสบายใจก็ได้แล้ว”
เจียงหยุนเอ๋อมองดูใบหน้าข้างของลี่จุนถิง หัวใจของเธออ่อนลงเยอะมากโดยไม่รู้ตัว พูดด้วยเสียงเบาว่า “ฉันไม่เคยรู้สึกลำบากเลย นึกถึงว่าจะทำอาหารให้นายทาน ฉันรู้ได้แต่ความสุข”
ลี่จุนถิงอึ้งไปเลย ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลง สุดท้ายก็จอดอยู่ที่ข้างถนน
“ทำไมหรอ? ทำไมนายถึงจอดรถกะทันหันละ?” เจียงหยุนเอ๋อมองไปทางข้างนอกด้วยความตกใจ คิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
จากนั้นลี่จุนถิงกลับขยับมาตรงหน้าของเธอ กลิ่นอายจมูกที่อุ่นร้อนแพร่กระจายอยู่บนหน้าเธอ “ปิดตา”
พึ่งพูดจบ ก็จูบริมฝีปากของเจียงหยุนเอ๋อแล้ว
การกระทำแบบนี้ของเขาทำให้เจียงหยุนเอ๋อไม่ทันป้องกันไว้ได้ ทันใดนั้นเธอก็ลืมตากว้าง แต่ว่าในไม่ช้าก็ดื่มด่ำอยู่ในจูบที่อ่อนโยนของลี่จุนถิง แล้วค่อยๆ ปิดตา
ผ่านไปสักพัก ทั้งสองหยุดลง ข้างหน้าของเจียงหยุนเอ๋อเบลอไปหมด บนใบหน้าก็แดงกระหน่ำ
มองดูใบหน้าที่น่ารักของเธอ ลี่จุนถิงรู้สึกเพียงแต่ว่าในใจเต็มไปด้วยความนัก อดยิ้มไม่ได้ “เป็นแม่ของเด็กสองคนแล้ว ทำไมยังเขินอายขนาดนี้?”
เจียงหยุนเอ๋อปิดหน้าของตัวเองด้วยความเขิน พูดว่า “งั้นนายอย่างมองสิ”
ลี่จุนถิงกลับนำมือที่อ่อนโยนของเธอออก “ไม่ ฉันชอบหน้าตาที่เขินอายของเธอ