Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 432 ใส่ใจมากเกินความจำเป็น
บทที่432 ใส่ใจมากเกินความจำเป็น
วันนี้ถือเป็นวันที่อากาศดีไม่น้อยเลย คนในคลับที่ถวนจื่ออยู่นั้นเตรียมจะออกมาร่วมรับประทานอาหาร ลี่จุนถิงมีงานเลยทำให้ไปร่วมด้วยไม่ได้ เจียงหยุนเอ๋อเลยมากับคนเหล่านั้น
ก่อนจะออกมา ลี่จุนถิงไม่วางใจเจียงหยุนเอ๋อเลยแม้แต่น้อย เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ท้องอยู่ ถ้าเกิดเป็นไปได้ ลี่จุนถิงก็คงไม่อยากให้เธอออกไปไหน
แต่ว่า การอยู่ในบ้านนานๆ สำหรับเจียงหยุนเอ๋อมันน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นเมื่อมีโอกาสนี้เข้ามาถึง เจียงหยุนเอ๋อเองก็อยากจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์
“คุณวางใจเถอะ ไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก” เจียงหยุนเอ๋อยืนยันกับลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว ก่อนจะคิดอยู่สักพัก พลางพูดขึ้น: “หรือไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันไม่ไปที่บริษัท แล้วไปกินข้าวกับคุณดีไหม”
ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อเองก็ชอบที่จะได้อยู่กับลี่จุนถิง แต่ว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธออยากจะให้ลี่จุนถิงวางงานลงเพื่อตัวเอง มันมีแต่จะทำให้เธอรู้สึกผิดอยู่ในใจ
“คุณไม่วางใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ อีกอย่างมีคนเยอะแยะขนาดนั้น ทำไมคุณยังกังวลขนาดนั้น?ฉันไม่อยากให้คุณเสียการงานเพราะฉัน ถ้าเกิดมีคนปากเปราะแล้วจะทำอย่างไรดี?”
ถึงอย่างไรตอนนี้ลี่จุนถิงก็เป็นคนดูแลบริษัทของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้อยากให้มีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับลี่จุนถิงแพร่ออกไป
เพราะสำหรับพวกเขามันไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่
ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อรู้ดี ว่าตัวเองยังไม่ถูกโม่เสี่ยวฮุ่ยยอมรับเท่าไหร่ ถึงท่านปู่ลี่จะบอกไม่ได้ว่ารู้สึกแย่สักเท่าไหร่ แต่ท่าทีก็ไม่ได้ดูเป็นกันเองเท่าไหร่ สำหรับเจียงหยุนเอ๋อนั้นมันก็ยังถือเป็นปัญหาอยู่ลึกๆ
ถ้าเกิดยังก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก บางที เธออาจจะอยู่ในตระกูลลี่ยากขึ้นก็ได้
ลี่จุนถิงเองก็คิดถึงจุดนี้เหมือนกัน เพียงไม่นานก็รู้ได้ทันทีเลยว่าสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะพูดไปมันไม่ได้ผลขนาดไหน ดังนั้นเลยพูดกับเจียงหยุนเอ๋อว่า: “เห้อ ฉันพูดอย่างไรก็ไม่ชนะคุณอยู่ดี”
เจียงหยุนเอ๋อเผยรอยยิ้มให้ลี่จุนถิง ก่อนจะดึงแขนเสื้อของเขาเล็กน้อย จากนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าลี่จุนถิง แล้วเจียงหยุนเอ๋อจึงแสดงท่าทีของเด็กน้อยออกมา
“อั้ยหยา ฉันแค่ไปกินข้าวกับพวกเขาเท่านั้นเอง ทำไมคุณทำเหมือนฉันกำลังจะไปออกรบเลยล่ะ?”
เจียงหยุนเอ๋อกะพริบตาปริบๆ ใส่ลี่จุนถิง ทำให้อารมณ์ของลี่จุนถิงเริ่มวางใจลงได้เล็กน้อย แถมยังคิดว่าน่าตลกอีกด้วย
เขามองเจียงหยุนเอ๋อด้วยความหมดหนทาง ก่อนจะพูดขึ้น: “ช่วยไม่ได้ ก็แต่ก่อน……”
ก่อนหน้านี้ผ่านเรื่องมากมายมามาก ตอนนี้ลี่จุนถิงเลยเหมือนยังหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา พลางกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจียงหยุนเอ๋ออีก
เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก ไม่อยากเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเลยอดไม่ได้ที่จะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเลย
“ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลอะไร” จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อก็จับมือของลี่จุนถิง พลางมีสีหน้าที่จริงจังขึ้น “แต่ว่าเรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว อีกอย่าง ฉันก็อยู่ที่บ้านตลอดชีวิตไม่ได้หรอก อย่างไรก็ต้องออกไปสักวัน จริงไหม?”
ลี่จุนถิงจ้องมองเจียงหยุนเอ๋ออยู่นาน จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาเหมือนเดิม
จริงด้วย เขากำลังกังวลอะไรกันแน่เนี่ย?เหมือนที่เจียงหยุนเอ๋อพูดไม่มีผิด ว่าครั้งนี้เขาไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อออกไป แต่จะไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อออกไปไหนเลยตลอดชีวิตงั้นเหรอ?มันไม่ตรงกับความเป็นจริงเป็นอย่างมากเลยล่ะ
ดูๆ ไปแล้ว ครั้งนี้เขาคงกังวลมากเกินความจำเป็นไปจริงๆ
“นั่นสิ” ลี่จุนถิงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “ดังนั้นคุณดูสิ ฉันก็สัญญากับคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ก่อนหน้านี้ ท่าทีของลี่จุนถิงนั้นไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเขาเริ่มยอมวางใจลงบ้างแล้ว เจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่าแปลกใจอะไร แต่ก็ยินดีอยู่ไม่น้อย
ลี่จุนถิงไม่อยากให้เธอเจอเรื่องอันตรายๆ อะไร เธอเองก็ไม่อยากให้ลี่จุนถิงกังวลมากขนาดนั้น
อันที่จริงเจียงหยุนเอ๋อก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าเรื่องร้ายๆ ที่ตัวเองเจอนั้น ถึงลี่จุนถิงจะไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ในใจ ดังนั้นตอนนี้เลยระมัดระวังขนาดนั้น
แต่ทว่า เจียงหยุนเอ๋อก็ยังหวังว่าลี่จุนถิงจะปล่อยวางเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ความผิดของเขา
ทั้งสองคนยังคงพูดคุยอย่างไม่อยากจากกันไป จู่ๆ ถวนจื่อกลับวิ่งเข้ามาจากด้านนอก
“หม่ามี้ พวกเขาเร่งให้พวกเราไปแล้วล่ะ” ถวนจื่อพูดด้วยความยิ้มแย้ม โดยที่ไม่ได้สังเกตสีหน้าท่าทีของลี่จุนถิงเลย
ถ้าเกิดเขาสนใจสักหน่อย ก็น่าจะรู้ได้ ว่าลี่จุนถิงไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อจากไปเร็วขนาดนี้
เจียงหยุนเอ๋อเลยหันไปยิ้มให้ถวนจื่อ จากนั้นก็มองไปทางลี่จุนถิง พลางพูดขึ้นเสียงเบา: “งั้นฉันไปกับถวนจื่อก่อนนะ คุณเองก็ระวังตัวด้วยนะ”
ลี่จุนถิงขยับปากเล็กน้อย ตอนแรกเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้แต่พยักหน้าเบาๆ : “อือ พวกคุณกินข้าวเสร็จแล้วจะไปรับพวกคุณนะ”
เมื่อรู้ว่าลี่จุนถิงเองก็หวังดี เจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่ได้รีบปฏิเสธในทันที เพียงแค่พูดขึ้น: “เดี๋ยวรอคุณทำงานเสร็จค่อยมาก็แล้วกัน”
จากนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็จูงมือถวนจื่อก่อนจะเดินออกไป
ลี่จุนถิงส่งพวกเขาขึ้นรถไป ก่อนจะเรียกคนขับรถ แล้วเดินทางไปที่บริษัท
ในโรงแรม เจียงหยุนเอ๋อเข้าไปร่วมกับคนในคลับอย่างรวดเร็ว
“ถวนจื่อ วันนี้พ่อคุณไม่มาเหรอ?”
มีคนหนึ่งในนั้นพูดหยอกล้อกับถวนจื่อ
ถวนจื่อเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว: “แด๊ดดี้ยังมีงานต้องทำ วันนี้หม่ามี้เลยมากับฉัน”
บรรยากาศของหลายๆ คนในนั้นเข้ากันได้ดี ช่วงนี้ไม่ได้มีการแข่งขันอะไรที่สำคัญ ทุกคนเองก็มารวมตัวกัน ดังนั้นบรรยากาศเลยค่อนข้างผ่อนคลาย เลยทำให้เจียงหยุนเอ๋ออารมณ์ดีขึ้นไม่น้อยเลย
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ แววตาของเธอก็มองไปทางเงาของคนคนหนึ่ง เมื่อมองจนชัดเจน ก็รู้ว่าที่แท้เป็นลี่หุย
ข้างๆ ลี่หุยยังมีชายอีกคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนคนต่างชาติ แต่เจียงหยุนเอ๋อค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองไม่รู้จัก
เมื่อคิดถึงครั้งก่อนที่ลี่หุยมายุ่มย่ามกับตัวเอง เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เลยไม่อยากให้ลี่หุยเห็นตัวเอง ดังนั้นเลยพยายามหลบให้เนียนที่สุด
ขณะที่ลี่หุยยังตั้งใจคุยกับอันซีหนีอยู่ เลยไม่ได้สังเกตว่าเจียงหยุนเอ๋อเองก็อยู่ที่โรงแรมนี้เหมือนกัน
ลี่หุยกับอันซีหนีหายไปจากสายตาของเจียงหยุนเอ๋ออย่างรวดเร็ว เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้สนใจว่าลี่หุยมาทำอะไรกันแน่ ดังนั้นเลยไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ก่อนจะทิ้งเรื่องนี้ไปจากสมอง
หลังจากที่กินข้าวแล้ว ทุกคนก็ยังไม่แยกย้ายกันไปไหน แต่เลือกที่จะไปเที่ยวเล่นด้วยกันต่อที่หนึ่ง
คิดไปพลางว่าลี่จุนถิงคงจะไม่มารับตัวเองเร็วสักเท่าไหร่ เจียงหยุนเอ๋อเลยไม่ได้ปฏิเสธพวกเขา ก่อนจะออกไปด้วยกัน
ถวนจื่อเล่นอย่างสนุกสนาน รวมไปกับความปากหวานและความเชื่อฟังของเขา ก็ยิ่งได้รับความรักจากคนมากมาย