Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 463 มีตรงไหนที่ฉวยโอกาสสร้างประโยชน์ได้
“งั้นคุณก็เอาเอกสารนี้กลับไปอ่านดูแล้วกันครับ ถ้าคิดว่าเหมาะสม ผมจะให้ซาติงส่งรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือไปให้คุณ ถึงตอนนั้นถ้าคุณคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร พวกเราก็เซ็นสัญญากันต่อหน้า” อันซีหนีเชื่อว่าโครงการของตัวเองสามารถดึงดูดใจลี่หุยได้
ลี่หุยพยักหน้า รับเอาแฟ้มเอกสารมาใส่ในกระเป๋าตัวเอง
แต่ที่ทำให้ลี่หุยไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อยก็คือ : “คุณอันซีหนี ผมอยากรู้ว่า ทำไมอยู่ ๆ คุณถึงได้มาร่วมมือกับผม ผมคิดว่าคุณดูถูกตัวตนและความสามารถของผมด้วยซ้ำ”
ประโยคนี้ลี่หุยพูดได้ไม่ผิดเลยสักนิด
หลังจากกลับไปลี่หุยก็ได้ไปตรวจสอบเรื่องของอันซีหนี จนได้รู้ถึงตัวตนและฐานะของอันซีหนี และได้รู้ว่าคนคนนี้เย่อหยิ่งจองหอง ถ้าไม่มีความจำเป็น ไม่มีทางที่จะมาร่วมมือกับคนตัวเล็ก ๆ อย่างตัวเองหรอก
อีกอย่างโครงการที่ร่วมมือกันถึงแม้พูดว่าไม่ได้ดีเลิศเลออะไร แต่ถ้ารู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
อันซีหนีหัวเราะออกมา : “คุณลี่เฉลียวฉลาดจริง ๆ ผมแค่ต้องการที่จะช่วยน้องชายเลยต้องทำแบบนี้”
ลี่หุยได้ฟัง ในใจก็ดูเหมือนได้คำตอบแล้ว
ตามที่ลี่หุยเข้าใจ อันซีหนียังมีน้องชายอีกหนึ่งคนชื่อAnthony เรียกได้ว่าเขารักน้องชายคนนี้มาก ตอนอยู่ที่อังกฤษ ตามใจน้องชายเป็นอย่างมาก ทำเรื่องร้ายแรงมากแค่ไหน เขาที่เป็นพี่ชายก็คอยตามเช็ดตามล้างให้ทุกอย่าง
“ไม่รู้ว่าน้องชายของคุณ……” ลี่หุยมองตาอันซีหนี
เมื่อพูดถึงสภาพที่น่าเวทนาในตอนนี้ของน้องชาย นัยน์ตาของอันซีหนีก็มีความเกลียดชังแฝงอยู่เล็กน้อย : “น้องชายของฉันตอนนี้ถูกลี่จุนถิงจับขังคุกอยู่ ดูเหมือนว่าลี่จุนถิงจงใจกำชับเอาไว้ ว่าไม่ให้สถานีตำรวจปล่อยคนออกมา ไม่ว่าจะทำยังไงผมก็ช่วยน้องชายออกมาไม่ได้ เห็นเขาอยู่ในนั้นด้วยความลำบาก ผมรู้สึกทุกข์ใจจริง ๆ”
ลี่หุยทอดถอนใจเล็กน้อย ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะลี่จุนถิงกับอันซีหนีถึงได้ดูห่างเหินกันนัก มีความแค้นกันนี่เอง
แต่ลี่หุยก็ได้ยินมาว่าหลายวันก่อนลี่จุนถิงได้ทำลายบริษัทแห่งหนึ่งลง ประธานบริษัทแห่งนั้นเหมือนจะชื่อAnthony
เป็นแบบนี้นี่เอง ลี่หุยก็รู้แล้วล่ะ
“ดังนั้น ตอนนี้ผมหวังว่าจะสามารถดำเนินการพร้อมกันได้สองวิธี โจมตีทั้งภายในและภายนอก เบี่ยงเบนความสนใจของลี่จุนถิง เพื่อให้ผมช่วยAnthonyออกมาได้” หลังจากนั้นควรทำอย่างไรอันซีหนีได้คิดไว้หมดแล้ว
“ผมรู้แล้วล่ะครับ!” ลี่หุยตบโต๊ะ “น้องชายของคุณคงไปทำอะไรผู้หญิงของลี่จุนถิงแน่นอนถึงได้รับผลแบบนี้”
ลี่หุยคิดอย่างละเอียดดูแล้ว ก็พอจะเข้าใจต้นสายปลายเหตุได้ ถ้าตัวเองไม่ได้เดาผิดล่ะก็ Anthonyต้องไปทำอะไรเจียงหยุนเอ๋อแน่ ๆ ถึงได้มีจุดจบแบบนี้
“หืม?” อันซีหนีก็ไม่แน่ใจนักว่าเพราะอะไรน้องชายของตัวเองกับลี่จุนถิงถึงได้โกรธแค้นชิงชังกัน
เพราะเมื่อก่อนเวลาAnthonyก่อเรื่อง อันซีหนีไม่เคยถามหาเหตุผล ได้แต่ช่วยเขาจัดการปัญหาเท่านั้น
“ลี่จุนถิงมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เรียกได้ว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มาก ถึงขั้นไหนผมไม่พูดแล้วกัน เอาเป็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือชีวิตของเขา น้องชายของคุณคงไปทำร้ายผู้หญิงคนนั้นแน่นอนถึงได้รับผลแบบนี้”
อันซีหนีนึกขึ้นมาได้ทันที : “ผู้หญิงคนนั้น……”
“ผู้หญิงคนนั้นชื่อเจียงหยุนเอ๋อ คุณสามารถไปตรวจสอบดูได้” การที่ลี่หุยพูดถึงเจียงหยุนเอ๋อให้อันซีหนีฟังเพราะมีแผนชั่วในใจ
ถ้ามีคนช่วยตัวเองจัดการเจียงหยุนเอ๋อเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง ตัวเองก็ยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้นน่ะสิ เมื่อเป็นอย่างนี้ ลี่หุยก็ยิ่งเข้าใกล้เป้าหมายตัวเองมากขึ้นแล้ว
“คุณพูดขนาดนี้แล้วผมต้องไปไตร่ตรองดูหน่อยแล้วล่ะ” อันซีหนีคิดว่าตัวเองต้องรู้ถึงสาเหตุก่อน ว่าตกลงน้องชายตัวเองไปทำอะไรไว้กันแน่ ถึงได้ทำให้ลี่จุนถิงไม่ยอมปล่อยอย่างนี้
“ในเมื่อคุยกันพอประมาณแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ยังมีธุระต้องทำ” ลี่หุยพูดพลางลุกขึ้นยืน “เอกสารนี้ผมจะอ่านดูอย่างละเอียด ส่วนที่คุณพูดว่าโจมตีทั้งภายนอกภายในนั้น ผมสามารถทำเรื่องหลายเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของลี่จุนถิงได้”
อันซีหนีได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่เดิมทีดูเคร่งขรึม ก็ค่อย ๆ ดูเบาใจขึ้นมาเล็กน้อย
“งั้นก็ขอบคุณคุณลี่มากนะครับ”
อันซีหนีคิดในใจ หรือที่จริงแล้วตัวเองจะไม่ได้มาหาผิดคน
ผ่านไปไม่กี่วันลี่จุนถิงก็ได้รับรายงานจากซู่จี้งยี้
“คุณชายลี่ แย่แล้วครับ ไม่รู้ว่าลี่หุยไปได้โครงการมาจากไหนโครงการหนึ่ง และไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รับการยินยอมจากท่านปู่ ตอนนี้กลายเป็นโครงการหนึ่งของบริษัทพวกเราแล้วครับ ตอนนี้เขามีอำนาจรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
สีหน้าของซู่จี้งยี้ดูแย่มาก ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ให้ลี่หุยฉวยโอกาสได้
และที่ทำให้ตกใจก็คือ ไม่มีลูกน้องคนไหนรายงานเรื่องนี้กับตัวเองก่อนเลย จนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ซู่จี้งยี้ถึงเพิ่งจะได้รู้
ลี่จุนถิงเงยหน้ามอง แต่ไม่ได้ตกใจเท่าไหร่ เพียงแต่พูดอย่างเรียบ ๆ ว่า : “เอาเอกสารมาให้ฉันดูหน่อย”
ซู่จี้งยี้เอาเอกสารที่ลูกน้องส่งมาให้ยื่นให้ลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงเปิดดูครู่หนึ่ง ก็ขมวดคิ้ว
ตอนนี้ลี่หุยคบเพื่อนได้กว้างขวางขนาดนี้แล้วเหรอ? สามารถหาความร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศได้แล้ว?
แต่ว่าเรื่องเล็กแค่นี้ ลี่จุนถิงไม่กลัวสักนิด : “ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาดิ้นรนไปสักสองวัน โครงการของเขานายส่งคนที่เชื่อใจได้ไปคอยตามดูนะ ถ้ามีตรงไหนที่ฉวยโอกาสสร้างประโยชน์ได้ ให้บอกฉัน”
สิ่งที่ลี่จุนถิงชอบมากที่สุดก็คือปล่อยให้คนคนหนึ่งปีนขึ้นไปให้สูง ๆ หลังจากนั้นค่อยปล่อยให้มันตกลงมาอย่างอนาถ
“ครับ” ซู่จี้งยี้คิดแล้วคิดอีก ก็เอ่ยพูดว่า “ช่วงนี้มีหลายบริษัทดูเหมือนจงใจหาเรื่อง มักจะอยากแบ่งผลประโยชน์จากพวกเรา”
“อ๋อเหรอ?” ลี่จุนถิงยื่นมือออกไป
ซู่จี้งยี้ยื่นรายงานสรุปผลให้ลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงอ่านดูสักครู่ ก็แสยะยิ้มออกมา : “จี้งยี้ นายว่าช่วงนี้ฉันอ่อนโยนเกินไปหรือเปล่า บริษัทเล็ก ๆ พวกนี้ถึงได้อยากเป็นศัตรูกับฉัน?”
ซู่จี้งยี้ก้มหน้าไม่ตอบอะไร : “จริงสิ คุณชายลี่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับ เรื่องAnthony จากที่คนในสถานีตำรวจรายงานมา พี่ชายของเขามาประเทศจีนแล้ว ไปเยี่ยมเขาแทบจะทุกวันเลยครับ”
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วขึ้น : “อืม จับตาดูต่อไป”
ลี่จุนถิงไม่ได้เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้เชื่อมโยงกัน เพียงแต่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็เท่านั้น
ผ่านไปอีกหลายวัน ซู่จี้งยี้รีบร้อนเข้ามาในห้องทำงาน บอกว่ามีโครงการหนึ่งในบริษัทเกิดปัญหาขึ้นมากะทันหัน
“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้ายังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้เป็นแบบนี้?” แววตาของลี่จุนถิงดูโหดร้าย
“คุณชายลี่ครับ โครงการพวกนี้ดูเหมือนว่าพวกบริษัทเล็ก ๆ เหล่านั้นที่ผมให้คุณเมื่อหลายวันก่อนดูจงใจขัดขวางครับ”
“คิดไม่ถึงว่าพวกกระจอกพวกนี้ปีกกล้าขาแข็งกันแล้ว นายให้ฉันดูสถานการณ์หน่อยสิ” ลี่จุนถิงหยิบเอกสารมา พบว่าบริษัทเล็ก ๆ พวกนี้ได้แทรกแซงเรื่องนี้
“นายออกไปก่อนเถอะ ฉันขอดูก่อน” ลี่จุนถิงไม่เชื่อว่าบริษัทเล็ก ๆ เหล่านี้จะมีความสามารถเหมือนอย่างตอนนี้ ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน
ถ้าไม่ดูก็ไม่รู้ เมื่อดูแล้วถึงกับตกใจเลยทีเดียว
ลี่จุนถิงพบว่าบริษัทเล็ก ๆ เหล่านี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับโครงการของลี่หุย ถึงแม้จะอำพรางไว้อย่างดี แต่เมื่อลี่จุนถิงวิเคราะห์ภาพรวมดูแล้ว พฤติกรรมของบริษัทเล็ก ๆ เหล่านี้ เอื้อผลประโยชน์ต่อโครงการของลี่หุยอย่างมาก ทั้งหมดนี้จะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า?