Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 466 อดทนไว้ก่อนเถอะ
ได้ยินดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็เงยหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ จ้องเขม็งอันซีหนีอย่างดุเดือด : “แกอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะกลัวแกนะ ไม่ว่ายังไง ฉันก็ไม่มีทางยอมให้แกทำร้ายจุนถิงได้หรอก แกยอมแพ้ซะเถอะ! ฉันไม่มีทางยอมช่วยคนชั่ว ๆ อย่างแกเด็ดขาด!”
คำพูดของเจียงหยุนเอ๋อทำให้สีหน้าของอันซีหนีถมึงทึงขึ้น เขายิ้มอย่างเย็นชา สบถเสียงออกมา แล้วชี้นิ้วไปทางเจียงหยุนเอ๋อที่อยู่บนพื้นพูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อคุณเจียงอยากลองฝีมือพวกเรา งั้นพวกแกก็ตั้งใจสั่งสอนคุณเจียงให้ฉันหน่อยสิ ให้เธอรู้ถึงความเก่งกาจของพวกเรา!”
พูดจบ ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ยิ้มมุมปาก แสยะยิ้มอย่างโรคจิตให้กับเจียงหยุนเอ๋อ เมื่อเขากระดิกมือ ผู้ชายร่างกำยำหลายคนก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว พวกเขาล้อมเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ ต่างคนต่างทำท่าหักนิ้วมือกำหมัด บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่ยากจะอธิบาย จนทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา
เธอถอยไปด้านหลังไม่หยุด น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย : “พวกแก……พวกแกจะทำอะไรน่ะ? อย่าเข้ามานะ! อยู่ให้ห่างจากฉันนะ!”
ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงรอยยิ้มชั่วร้ายของคนพวกนั้น จากนั้น ผู้ชายที่อยู่ใกล้เจียงหยุนเอ๋อมากที่สุดได้เข้ามาตบเธออย่างแรง จนทำให้เจียงหยุนเอ๋อที่ทำท่าจะลุกขึ้นยืนล้มลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง “นังแพศยา ในเมื่อแกพูดดี ๆ ไม่ยอมฟัง ก็อย่าหาว่าพวกฉันโหดร้ายแล้วกัน!”
ลูบหน้าด้านที่ถูกตบของตัวเองไปมา เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบจากตรงนั้น เธอเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากออกไปแรง ๆ แล้วเงยหน้าจ้องเขม็งกลับไปอย่างไม่กลัวตาย
“พวกแกนอกจากใช้วิธีรุนแรงเหล่านี้ก็ทำอะไรไม่เป็นแล้วใช่ไหมล่ะ? ฉันรู้สึกสมเพชพวกแกจริง ๆ!”
พวกนั้นเมื่อได้ยินก็ยิ่งพับแขนเสื้อขึ้น บนใบหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความโกรธในแววตาแทบจะทะลักออกมา “นังแพศยา ในเมื่อแกยืนกรานต่อต้านพวกฉัน งั้นพวกฉันก็จะไม่ออมมืออีกแล้ว! พวกเราไม่ต้องสงสารแล้ว! ทำให้มันเห็นความเก่งกาจของพวกเราสักหน่อย!”
จากนั้น คนพวกนั้นก็ทั้งเตะทั้งต่อยเจียงหยุนเอ๋อ เจียงหยุนเอ๋อป้องกันท้องน้อยของตัวเองเอาไว้อย่างดี กลัวว่าลูกของตัวเองจะเป็นอะไรขึ้นมา ขณะเดียวกันก็กัดฟันเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องออกมา ได้แต่อดทนอดกลั้นเอาไว้
พวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อตั้งท้อง เมื่อเห็นว่าเธอกุมบริเวณท้องเอาไว้ตลอด ก็ยิ่งออกแรงเตะต่อยเข้าไปที่ตรงนั้น เจียงหยุนเอ๋อทำได้แค่หลบหลีกการโจมตีของพวกเขา แล้วเธอก็ค่อย ๆ รู้สึกเลือนราง จากนั้นก็สลบไป
เมื่อเห็นอย่างนั้น คนพวกนั้นก็รีบไปรายงานอันซีหนี เมื่อรู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อสลบไปแล้ว เขาก็ขมวดคิ้ว เงียบอยู่นานถึงได้โบกปัดมือ “เอาเธอไปขังในห้องใต้ดินไว้ก่อน! ให้คนเฝ้าเธอไว้ให้ดีล่ะ อย่าให้เธอหนีไปได้เด็ดขาด ฉันเก็บเธอไว้เพราะยังมีประโยชน์อีกมาก!”
……
ณ บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
“ปัง!”
มีเสียงดังออกมาจากห้องทำงานของท่านประธาน มองข้อความในโทรศัพท์ที่อันซีหนีส่งมา ความโกรธแค้นลุกโชนขึ้นในดวงตาของลี่จุนถิง มือที่จับโทรศัพท์อยู่นั้นบีบแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนจะบีบโทรศัพท์ในมือให้แหลกเป็นชิ้น ๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงหยุนเอ๋อจะถูกพวกมันจับตัวไป เมื่อนึกถึงสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้ สีหน้าลี่จุนถิงก็ยิ่งดุดันขึ้นมา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบเสื้อคลุมที่พาดอยู่ตรงพนักพิงเก้าอี้เดินก้าวยาว ๆ ออกไปจากห้องทำงาน รีบตรงไปยังสถานที่ที่อันซีหนีนัดไว้
เมื่อถึงที่นั่น อันซีหนีก็ได้นั่งรอประจำที่อยู่แล้ว เห็นลี่จุนถิงรีบเดินเข้ามา เขาก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ แล้วค่อย ๆ เอ่ยพูดว่า “ประธานลี่มาสายนะครับ! ถ้าคุณมาช้ากว่านี้อีกนิด ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของคุณ!”
“แกกล้าเหรอ! แกอย่าลืมนะ ว่าAnthonyยังอยู่ในกำมือฉัน! ถ้าแกกล้าแตะต้องหยุนเอ๋อ ฉันจะกำจัดAnthonyซะ!” ได้ยินเขาเอ่ยถึงเจียงหยุนเอ๋อ สีหน้าของลี่จุนถิงก็ยิ่งถมึงทึงมากขึ้น เงียบไปครู่หนึ่ง ก็พยายามให้ตัวเองสงบนิ่งลง แล้วก็เอ่ยพูดอย่างเคร่งขรึม “พูดมา ว่าที่แกลักพาตัวหยุนเอ๋อไป คิดจะทำอะไรกันแน่?”
“ประธานลี่ฉลาดขนาดนี้น่าจะรู้อยู่แล้วว่าผมต้องการอะไร ผมก็แค่อยากให้คุณปล่อยAnthony ขอแค่คุณปล่อยAnthony ผมก็จะปล่อยเจียงหยุนเอ๋อทันที เป็นไง?” อันซีหนีเลิกคิ้ว หัวเราะออกมาเบา ๆ
ได้ยินดังนั้น ก็ทุบโต๊ะขึ้นมา ลี่จุนถิงยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง แล้วพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน : “เท่าที่ฉันรู้ คงจะไม่ง่ายดายขนาดนั้นมั้ง? ฉันได้ยินมาว่า แกอยากตีตลาดภายในประเทศ อีกทั้งคอยแย่งชิงตลาดของเมืองเมืองซิงกับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาโดยตลอด มีอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ เลยสิ”
ถูกลี่จุนถิงมองออกจนหมด อันซีหนีก็ไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป เขาเลิกคิ้วขึ้น พยักหน้ายอมรับอย่างไม่เสแสร้ง : “ดูท่าปิดบังอะไรประธานลี่ไม่ได้เลยสินะ ถูกต้อง นอกจากปล่อยAnthonyแล้ว ผมต้องการตลาดของเมืองซิงครึ่งหนึ่ง เป็นไง? ได้ยินมาว่าคุณเจียงเป็นแก้วตาดวงใจของประธานลี่ คุณคงจะไม่ปฏิเสธใช่ไหม?”
ลี่จุนถิงเม้มปากอย่างเย็นชา ตอนนี้สภาพร่างกายของเจียงหยุนเอ๋อเป็นยังไงเขารู้ดี เธอกำลังตั้งท้องอยู่ จะให้เกิดอะไรขึ้นกับเด็กในท้องของเธอไม่ได้เด็ดขาด แต่ว่าถ้าตอบตกลงพี่ชายของAnthonyไปอย่างนี้ เขาก็รู้สึกไม่พอใจมาก เขาก้มหน้าครุ่นคิดอยู่นาน แล้วเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่นึกสนุกขึ้นมา
“ได้สิ ฉันยอมรับข้อเสนอของแก ตอนนี้แกปล่อยหยุนเอ๋อได้หรือยัง?” สายตาที่ดุดันของลี่จุนถิงกวาดมองอันซีหนีที่อยู่ตรงข้าม แล้วแสยะยิ้มออกมา
ลี่จุนถิงตอบรับข้อเสนออย่างง่ายดายขนาดนี้ อันซีหนีรู้สึกไม่ค่อยเชื่อใจสักเท่าไหร่ เขาหยิบเอาเอกสารการโอนที่เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้ายื่นไปตรงหน้าลี่จุนถิง แล้วเอ่ยพูดอย่างระมัดระวัง “ในเมื่อประธานลี่ยินยอมแล้ว งั้นก็เซ็นเอกสารนี้เถอะครับ ผมจะได้ส่งตัวคุณเจียงกลับไปให้คุณ”
เห็นเอกสารการโอนที่วางอยู่ตรงหน้า ลี่จุนถิงชำเลืองมองผ่าน ๆ ในแววตาแฝงไปด้วยการวางแผนอะไรสักอย่างอยู่แวบหนึ่ง เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงได้หยิบปากกาที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาแล้วเซ็นชื่อลงไป : “เรียบร้อย Anthonyน่ะฉันจะยอมปล่อยให้แก ตอนนี้แกปล่อยหยุนเอ๋อได้แล้วมั้ง?”
มองเอกสารการโอนที่อยู่ในมืออย่างสมใจปรารถนา ใบหน้าของอันซีหนีก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “มันแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมจะให้คนส่งคุณเจียงกลับไป และแน่นอน ผมหวังว่าจะได้เจอกับAnthonyเร็ว ๆ เช่นกัน!”
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว รอให้หยุนเอ๋อกลับมา แล้วฉันจะปล่อยAnthony!”
ไม่นาน เจียงหยุนเอ๋อที่สภาพสะบักสะบอมไปทั้งตัวก็ถูกส่งกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลลี่ และในขณะเดียวกัน Anthonyก็ถูกลี่จุนถิงสั่งให้คนพามาส่งที่ตระกูลอัน แต่วินาทีที่อันซีหนีเห็นเขา ความสุขที่เต็มใบหน้าก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้น
Anthonyที่อยู่ตรงหน้าไม่เหลือเค้าโครงเดิมที่ดูฮึกเหิมเลยสักนิด เขาถูกลี่จุนถิงทำร้ายจนพิการมือและเท้าทั้งสองข้าง ตอนนี้ได้แต่นอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง แววตาไร้ซึ่งความสดใสเหมือนอย่างที่ผ่านมา ดูหมดสภาพอย่างมาก
“ลี่จุนถิง แกกล้าทำAnthonyขนาดนี้เลยเหรอ ฉันจะสู้กับแกให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!” อันซีหนีพูดพลางจะไปแก้แค้นลี่จุนถิง แต่กลับถูกมือของคนที่อยู่ข้าง ๆ รั้งเอาไว้ ลูกน้องพูดเกลี้ยกล่อมว่า “ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้อยู่ในกำมือพวกเราแล้ว ไม่มีเครื่องมือที่จะไปบังคับลี่จุนถิงแล้ว พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา คุณอดทนไว้ก่อนเถอะครับ!”
ได้ยินดังนั้น อันซีหนีก็จ้องเขม็งเขา รู้ดีว่าที่เขาพูดนั้นถูกต้อง จึงได้แต่มองAnthonyที่อยู่ข้าง ๆ อย่างรู้สึกผิด แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่