Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 475 เกลียดผู้หญิงคนนั้นมากที่สุด
โม่เสี่ยวฮุ่ยดุด่าว่ากล่าวเจียงหยุนเอ๋อ เธอยื่นอยู่ที่นั้นด้วยความงุนงง แล้วมองโม่เสี่ยวฮุ่ยที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เธออยากพูดแทรกขึ้นมาแต่เธอก็พูดไม่ได้ เธอทำได้เพียงยื่นอยู่แล้วยอมรับคำดุด่าของโม่เสี่ยวฮุ่ยอย่างไม่หยุดหย่อน
“เจียงหยุนเอ๋อ ผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรกับลี่จุนถิง!นอกจากจะฉุดให้ลี่จุนถิงล้าหลังแล้วก็ทำอะไรไม่ได้เลย!บางครั้งฉันก็คิดจะถามเธอไปตรงๆนะว่า ทำไมเธอไม่มีความละอายใจบ้างเลยเหรอ?เธอไม่รู้เลยเหรอว่าฉันเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก!”
เมื่อได้ยินหล่อนพูดอย่างนั้น ดูเหมือนว่าเจียงหยุนเอ๋อจะเข้าใจอะไรบ้างอย่างขึ้น เธอมองโม่เสี่ยวฮุ่ยด้วยความประหลาดใจ เมื่อหล่อนพูดจบก็รีบและอธิบาย
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว ความจริงมันไม่ใช่เป็นอย่างนั้นเลย หนูไม่รู้ว่าหล่อนเป็นใคร แต่หล่อนบอกว่ารู้จักหนู อีกอย่างถวนจื่อก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรพวกเราก็เลยไปเที่ยวด้วยกัน!”
“เธอไม่ต้องมาโกหกฉัน เธอคิดว่าฉันหลอกง่ายๆเหมือนลี่จุนถิงเหรอ?เจียงหยุนเอ๋อ เธอมองหน้าฉันไม่ติดและคิดจะทำให้ฉันโมโหตาย เธอมีความสุขมากใช่ไหมที่เห็นฉันเป็นทุกข์!ไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้!”โม่เสี่ยวฮุ่ยกลืนน้ำลายเท้าสะเอวแล้วพูดต่อ
“ลูกฉันยังไงเหรอ?เธอเป็นคนแบบไหน?ช่วยบอกให้ฉันรู้หน่อยสิ!”
ทันใดนั้น น้ำเสียงที่ไม่พอใจก็ดังขึ้นมา ซูม่านลียื่นอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วมองไปที่ แม่ลี่ที่ยื่นเท้าสะเอวด้วยความเยือกเย็น คำพูดเหล่านั้นหล่อนได้ยินหมด เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อขายหน้าก็รู้สึกไม่พอใจ
เมื่อเห็นซูม่านลีมา เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกเศร้าใจอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าคนที่ใกล้ชิดสนิทกับตัวเองที่สุด เธออดไม่ได้ที่จะระบายอารมณ์ออกมา ตาแดงแล้วสำลัก พูดขึ้นว่า“แม่คะ แม่มาได้ไงคะ?”
“แม่ก็ต้องรีบมาสิ !ไม่อย่างนั้นแม่จะเห็นความเย่อหยิ่งอีกด้านของคุณนายลี่ได้อย่างไร แม่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธออยู่ในตระกูลลี่จะต้องไม่มีความสุข เด็กโง่ยังโกหกแม่อีก ถ้าวันนี้แม่ไม่มา ไม่รู้เลยว่าลูกจะใช้ชีวิตสิ้นหวังถึงเพียงนี้
เมื่อพูดจบ ซูม่านลีขมวดคิ้วและเหลือบไปมอง แม่ลี่ที่อยู่ข้างๆด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจ
ทันใดนั้นสีหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยมืดมนหลังจากถูกซูม่านลีด่าอย่างไม่มีชิ้นดีอย่างนั้น หล่อนถอนหายใจออกมาและเสียงฉุนเฉียวก็ดังขึ้น“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่คนบ้านเดียวกันห้ามเข้า ดูจากลูกก็รู้แล้วว่าคุณก็ไม่ได้รับการศึกษามาเหมือนกัน มิน่าล่ะถึงได้พูดจาเรื่อยเปลือยไม่แยกแยะถูกผิด !”
“ทำไมฉันจะไม่แยะแยะถูกผิดละ!คุณเองไม่ใช่เหรอที่ค่อยแต่จะดุด่าเจียงหยุนเอ๋อลูกของฉัน?ลูกที่น่าส่งสารของฉัน ไม่รู้ว่าเธอทนมาได้อย่างไร ลี่จุนถิงบอกว่าจะดูแลเป็นอย่างดีไม่ใช่เหรอ?เขาทนให้ลูกถูกคนอื่นรังแกได้อย่าไร?” ซูม่านลีพูดด้วยความโมโหคิ้วชนกัน
เมื่อได้ยินดังนั้น โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับหัวเราะแทนที่จะโมโห หล่อนนั่งบนโซฟาอย่างสง่างาม จิบชาอย่างไม่เร่งรีบ ชี้ไปที่ เจียงหยุนเอ๋อและพูดนุ่มนวลว่า:“คุณบอกว่าฉันทำผิดต่อ เจียงหยุนเอ๋อคุณความหมายแบบนี้ใช่ไหม?แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเธอทำอะไรลงไป?เธอคบหากับผู้หญิงสาระเลวอย่างจ้าวเฟยเฟยนี้ไม่ใช่เป็นการตบหน้าฉันเหรอ?”
ซูม่านลีเคยได้ยินความขุ่นเคืองระหว่าง โม่เสี่ยวฮุ่ยกับจ้าวเฟยเฟยมาบ้าง หล่อนโอบกอดเธอด้วยสองมือแล้วตบหลังมือเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ เพื่อปลอบใจเธอ หล่อนหยุดดูถูกแล้วยิ้มถามว่า : “คุณไม่เคยยอมรับ เจียงหยุนเอ๋อเป็นลูกสะใภ้ แต่ตอนนี้กลับให้เธอยอมรับหน้าทีว่าเป็นลูกสะใภ้ของคุณ ผู้หญิงแบบคุณจะเอาแต่ใจมากเกินไปแล้ว!”
“แม่คะ แม่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หนูไม่เป็นไร เรื่องนี้หนูผิดเองจริงๆ หนูไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ยิ่งไม่รู้ความสัมพันธ์ของหล่อนกับลี่จุนถิงหลังจากนี้หนูจะไม่สนใจพวกเขา แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วละมั่ง?”
ด้วยความกลัวว่าคนทั้งสองจะทะเลาะกันเจียงหยุนเอ๋อจึงรีบดึงแขนเสื้อของซูม่านลีและหัวเราะแห้งๆออกมา
แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับไม่เห็นคุณค่าความตั้งใจของ เจียงหยุนเอ๋อ หล่อนก้มหัวลงแล้วพูดด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจว่า:
“แม้ว่าฉันจะไม่ยอมรับว่า เจียงหยุนเอ๋อ เป็นลูกสะใภ้ของฉัน แต่เธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าอยู่กินกับ ลี่จุนถิงแล้ว อย่างน้อยเธอก็ต้องให้ความเคารพฉัน ไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของ โม่เสี่ยวฮุ่ยทำให้ ซูม่านลีตัดสินใจที่จะไม่โต้เถียงกับหล่อนต่อไป เธอโกรธขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเธอมืดมนและเต็มไปด้วยความโกรธ ราวกับว่ามันจะพุ่งออกมาในวินาทีได้ “ถ้าคุณคิดว่าอย่างนั้น ฉันอยากจะบอกคุณสักหนึ่งคำว่า ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพซึ่งกันและกัน ถ้าคุณไม่เคารพ เจียงหยุนเอ๋อ ก็อย่าหวังให้ เจียงหยุนเอ๋อเคารพคุณ!”
เมื่อเห็นว่าคนทั้งสองกำลังจะทะเลาะกันอีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อที่ยืนอยู่ที่นั่นมองไปที่แม่ทั้งสองคนด้วยความปวดหัว เธอถอนหายใจแรง และหวังว่าจะมีใครซักคนสามารถช่วยเธอได้ออกจากความวุ่นวายเหล่านี้
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”
บางทีเขาอาจรับรู้ได้ถึงการขอความช่วยเหลือของเจียงหยุนเอ๋อก็เป็นได้ และลี่จุนถิงก็เดินเข้ามา มองไปที่ ซูม่านลี กับ โม่เสี่ยวฮุ่ย ต่างก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดี เขาทนไม่ได้ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
เมื่อ ลี่จุนถิง มา โม่เสี่ยวฮุ่ย เหมือนเห็นผู้ที่จะมาช่วย และสีหน้าหล่อนก็เปลี่ยนในทีทันใด พูดด้วยท่าทางเศร้าโศกว่า: “ลี่จุนถิงในที่สุดลูกก็กลับมา แม่คิดว่าแม่จะตายเพราะคำพูดของสองแม่ลูกนี้ก่อนที่ถ้าเจ้าไม่กลับมาเสียแล้ว พวกหล่อนสองคนร่วมมือกันรังแกแม่ ลูกต้องให้ความเป็นธรรมกับแม่นะ!”
ลี่จุนถิงรู้จักนิสัยของโม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นอย่างดี เขารู้ว่าแม่ลี่เป็นคนก่อเรื่องขึ้นก่อน และสร้างความเดือดร้อนให้พวกเธอ ซูม่านลีอดไม่ได้จึงเถียงหล่อนไป แต่อย่างไรก็ตามหล่อนก็เป็นแม่ และลี่จุนถิงก็ไม่ต้องการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหล่อนแข็งกระด้างไปมากกว่านี้ เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
เจียงหยุนเอ๋อเห็นทุกอย่าง และรู้ดีว่า ลี่จุนถิงก็ลำบากใจไม่น้อย และเธอไม่ยินดีที่จะทำให้ ลี่จุนถิงต้องอับอาย เธอกัดฟันและกำลังจะพูดแต่เธอถูก ซูม่านลีที่อยู่ข้างๆห้ามไว้
หล่อนส่ายหัวแล้วขยับมือบอก เจียงหยุนเอ๋อว่าไม่ต้องพูดอะไร
บรรยากาศบึ้งตึงอึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง ทุกคนยืนนิ่งเงียบพูดอะไร ได้แต่จ้องมองกันไปมา
แต่ท้ายที่สุดก็เป็นลี่จุนถิงที่ทนไม่ได้ เขาก้มหัวเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดขึ้นทำลายความเงียบงันว่า :“ผมคิดว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนล้วนไม่มีความสุขแปลว่าต้องมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของใคร ผมต้องขอโทษแทนเธอด้วย แล้วให้ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้ได้ผ่านไปแล้วได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของ ซูม่านลีก็ผ่อนคลายลงมาก อย่างน้อย ลี่จุนถิงก็ไม่เชื่อคำพูดของ แม่ลี่ ทุกอย่าง ซึ่งทำให้รู้ว่าเขายังคงยืนข้าง เจียงหยุนเอ๋อเมื่อเห็นเขาลำบากใจก็รู้สึกเป็นห่วงเขา หล่อนถอนหายใจเล็กน้อย
หล่อนจ้องไปที่ โม่เสี่ยวฮุ่ยอย่างหงุดหงิดก่อนจะพูดอย่างสบายๆว่า:“เรื่องนี้ฉันเองก็ผิดส่วนผิดด้วย ฉันไม่ควรทะเลาะกับแม่ของอีฝ่าย ได้โปรดให้ขออภัยด้วย”
ในขณะพูด หล่อนระงับอารมณ์ไม่พอของตัวเอง และมองไปที่โม่เสี่ยวฮุ่ยด้วยความนิ่งเฉย แล้วหันหน้าไปข้างๆ
เมื่อซูม่านลียอมถอยเปิดทางให้ก่อนลี่จุนถิงจึงรีบวางมือ แล้วยิ้มเล็กๆขึ้นมา
“ทุกคนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน จะหาว่าใครผิดใครถูกไปทำไมกัน หลังจากนี้ครอบครัวรักใคร่ปรองดองทุกสิ่งเจริญรุ่งเรือง