Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 493 เป็นห่วงมาก
เนื่องจากการหายตัวไปของลี่จุนถิง บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปเองก็ได้ท่านปู่ลี่มารักษาการแทน แต่ก็ยังมีหลายคนที่แอบซุ่มเคลื่อนไหวอยู่เงียบๆ
ทุกคนต่างต้องการที่จะมีอำนาจในลี่ซื่อกรุ๊ป แม้ภายนอกจะไม่แสดงออกอะไร แต่ลับหลังก็แอบเคลื่อนไหวอยู่เงียบๆ
“เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวของลี่จุนถิงหรือยัง ? อย่าให้เขากลับมาได้เป็นอันขาด เจอตัวแล้ว ก็ทำตามที่บอกไว้ได้เลย ต้องตัดรากถอนโคน ไม่อย่างนั้นที่ลงทุนทำไปก็จะสูญเปล่า !”
ลี่หุยมองไปยังตึกสูงนอกหน้าต่างแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมไปในโทรศัพท์
พอวางสายไป ลี่หุยก็ถอนหายใจ ถึงแม้ลี่จุนถิงจะยังไม่กลับมาในตอนนี้ แต่ท่านปู่ลี่ก็กุมอำนาจของลี่ซื่อกรุ๊ปทุกอย่าง ไม่ยอมให้ตัวเองและคนรอบข้างเข้ามามีบทบาท ดังนั้นสถานการณ์ของเขาในตอนนี้จึงไม่เอื้ออำนวยนัก
มีเพียงให้ลี่จุนถิงหายตัวไปจากโลกนี้ ทุกอย่างถึงจะเป็นไปได้
แน่นอนว่า ลี่หุยก็รู้เช่นกันว่าลุงรองคงต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะก็ถูกกดขี่มานานหลายปี ในที่สุดก็ได้ลืมตาอ้าปาก เขาไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปแน่ ไม่แน่บางทีอาจจะส่งคนไปตามฆ่าลี่จุนถิงแล้วก็เป็นได้
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ สีหน้าของลี่หุยก็เคร่งเครียดขึ้นมา ดวงตาลึกล้ำสุดจะหยั่ง ท่าทีนิ่งเงียบไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่ ทันใดนั้น มุมปากหยักก็ยกยิ้ม แฝงเร้นไปด้วยเลศนัย ใบหน้าแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในชัยชนะ
……
คฤหาสน์ลี่
หลังจากที่รู้เรื่องการหายตัวไปของลี่จุนถิง โม่เสี่ยวฮุ่ยก็เอาแต่ร้องไห้เสียใจ พร่ำพรรณนาความคิดถึงและเป็นกังวลของเธอที่มีต่อลี่จุนถิง ในตอนแรกท่านปู่ลี่ก็ยังเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่เมื่อเห็นเธอมีอาการแบบนี้ทุกวัน ก็เริ่มที่จะเหนื่อยหน่ายกับมัน
หลังจากที่เคธี่รู้เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับลี่จุนถิง เธอตกใจมาก เดินทางมาหาโม่เสี่ยวฮุ่ยเพื่อสอบถามเหตุการณ์ทันที และโม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็เหมือนมีที่พึ่งทางใจ พร่ำพรรณนาพูดความในใจกับเคธี่ทุกวัน
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เอาใจโม่เสี่ยวฮุ่ย และเคธี่ไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปแน่
ดังนั้น เธอจึงได้เทียวไปเทียวมา เพื่อมาพูดคุยกับโม่เสี่ยวฮุ่ยทุกวัน เธอเองก็ต้องการที่จะทราบข่าวคราวของลี่จุนถิง และต้องการที่จะทำให้โม่เสี่ยวฮุ่ยรักและเอ็นดูเธอด้วย
เคธี่ปอกส้มให้โม่เสี่ยวฮุ่ย เธอยกยิ้ม รอยยิ้มปรากฏชัดเจน แล้วพูดอย่างอ่อนโยนไปว่า “คุณป้า จุนถิงต้องไม่เป็นอะไรคะ อีกอย่างคุณปู่เองก็ส่งคนออกไปตามหาอยู่แล้วนี่คะ ? คุณป้าทำใจให้สบายแล้วรอจุนถิงกลับมาเถอะค่ะ กินส้มเติมพลังสักหน่อยนะคะ !”
เธอค่อยๆเอื้อมมือหยิบส้มจากเคธี่ โม่เสี่ยวฮุ่ยตีเบาๆไปที่มือของเคธี่ ดวงตาฉายแววเป็นกังวล “เฮ้อ แม้จะส่งคนออกไปตามหา แต่ก็ไม่มีวี่แวว แล้วฉันจะสบายใจอยู่ได้ยังไง ? แม้ว่าช่วงนี้ท่านปู่ลี่จะดูแลบริหารลี่ซื่อกรุ๊ปให้ชั่วคราว แต่ลูกนอกสมรสนั้นกับเหล่าเอ้อต้องจ้องอยู่แน่!ฉันเป็นห่วงจริงๆ !”
เมื่อคิดถึงความทะเยอทะยานของลี่หุย เคธี่ก็คิดว่าความกังวลของโม่เสี่ยวฮุ่ยนั้นเป็นเรื่องปกติ
เธอถอนหายใจเล็กน้อย เงียบอยู่นานแต่แล้วก็เอ่ยพูดว่า:“ คุณปู่ก็ยังให้ความสำคัญกับจุนถิงไม่ใช่หรือคะ ? ครั้งที่แล้วก็เป็นคุณปู่ที่ไม่เห็นด้วยที่จะให้พวกเขามาดูแลบริหารลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ใช่เหรอคะ ? หนูคิดว่ายังไงคงไม่ให้โอกาสลี่หุยแน่นอนค่ะ ”
“แต่คุณปู่ก็คงจะนั่งรักษาการณ์ตำแหน่งนี้ได้ไม่นานนัก!หากถึงตอนนั้นยังไม่มีวี่แววของจุนถิงอีก แล้วพวกเขาเข้ายึดอำนาจ ลี่ซื่อกรุ๊ปคงได้มีการเปลี่ยนแปลงแน่ !”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“คุณป้าวางใจเถอะค่ะ หนูจะพูดกับพ่ออีกแรงให้พ่อช่วยจุนถิง จะไม่ปล่อยให้ลี่หุยกับลุงรองขึ้นรับตำแหน่งนี้แน่นอนค่ะ !”
เมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าโศกและไร้ความสุขของโม่เสี่ยวฮุ่ย เคธี่กะพริบตาปริบๆ แล้วยิ้มให้หลังจากที่พูดจบไป
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยิ้มอย่างพอใจ มองเคธี่ก็ยิ่งนึกรักและเอ็นดูหญิงสาวมากขึ้นไปอีก อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมไปว่า :“เคธี่ หนูดีกับฉันจริงๆ!ฉันคิดมาตลอดว่าหนูเหมาะสมกับจุนถิงที่สุด ไม่เหมือนเจียงหยุนเอ๋อผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์คนนั้น วันๆเอาแต่เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ช่วยอะไรไม่ได้เลย!”
เมื่อพูดถึงเจียงหยุนเอ๋อ ใบหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะระบายความอึดอัดไม่พอใจที่มี :“เจียงหยุนเอ๋อนี่ก็ช่างปะไร พูดตลอดว่าเคารพฉันนับถือฉัน ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น หล่อนไม่เคยมาเยี่ยมฉันเลยสักครั้ง ได้หนูนี่แหละที่คอยแวะเวียนมาดูแล ถามไถ่อาการ ไม่อย่างนั้นฉันคงเป็นกังวลไปมากกว่านี้ !”
เมื่อเห็นว่าความสัมพันธ์ของโม่เสี่ยวฮุ่ยกับเจียงหยุนเอ๋อนับวันก็ยิ่งจะแย่ลงไปเรื่อยๆ เคธี่ก็รู้สึกเบาใจ แต่ภายนอกเธอก็ยังคงแสดงออกถึงความหวังดี :“คุณป้า หนูคิดว่าเจียงหยุนเอ๋อก็คงเป็นห่วงจุนถิงอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ถูกหามส่งไปที่โรงพยาบาลหรอกค่ะ ยังไงเสีย ตอนนี้เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องของเธอจะดีกว่า คุยเรื่องอื่นเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณป้าจะหงุดหงิดขึ้นมาอีก !”
“หนูพูดถูก เราอย่าเอ่ยถึงตัวซวยนั้นเลย!”
โม่เสี่ยวฮุ่ยเบะปาก แล้วจึงชวนเคธี่พูดคุยกันเรื่องอื่น
……
เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ว่าในสายตาโม่เสี่ยวฮุ่ยเธอได้มีคะแนนที่ติดลบมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่หลายวัน เธอเข้าใจทุกอย่างมากขึ้น
แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้ข่าวคราวของลี่จุนถิง แต่เธอจะมานั่งซึมเศร้าแบบนี้ต่อไปไม่ได้
หากลี่จุนถิงกลับมาแล้วเห็นสภาพครอบครัวเป็นแบบนี้ เขาคงตำหนิและกล่าวโทษตัวเอง
ในฐานะภรรยาของเขา เธอรู้ว่าเธอต้องเข้มแข็ง และต้องแบกรับกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
เมื่อคิดไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็ขอออกจากโรงพยาบาลทันที หมอเจ้าของไข้ของเธอคือหลันเยว่เฉินที่เป็นเพื่อนกับลี่จุนถิงเอ่ยคัดค้าน เขาวางมือจากงานที่ทำอยู่แล้วมุ่งตรงไปหาเธอทันที
“หมอหลัน ฉันรู้ว่าคุณหวังดี แต่ตอนนี้สภาพร่างกายของฉันดีขึ้นมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ ฉันคิดว่าฉันออกจากโรงพยาบาลน่าจะดีที่สุด!”
เมื่อเห็นหลันเยว่เฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับใบหน้าที่จริงจังเจียงหยุนเอ๋อก็ส่งยิ้มให้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลันเยว่เฉินก็ขมวดคิ้ว เขาเงยหน้าขึ้น “ไม่ได้ ตอนนี้คุณยังท้องอยู่ สภาวะจิตใจก็ไม่คงที่ และช่วงนี้ร่างกายคุณก็ขาดอาหาร ยังไงก็อยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลไปก่อน อีกอย่างจุนถิงเขาเป็นเพื่อนผม หากเขากลับมาแล้วเห็นสภาพคุณเป็นแบบนี้ จะมาตำหนิผมเอาได้ !”
“วางใจได้ค่ะ ร่างกายของฉันฉันรู้ตัวเองดี และตอนนี้ฉันเองก็เข้าใจอะไรหลายๆอย่างแล้ว ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันต้องเข้มแข็งให้ได้ รอจุนถิงกลับมา เพราะฉะนั้นฉันจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เรื่องอาหารการกินฉันจะบำรุงให้มากขึ้น อีกอย่างมีแม่ฉันคอยดูแลอยู่ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้แน่นอนค่ะ !”
เจียงหยุนเอ๋อโบกมือ ยังคงยืนยันหนักแน่น
หลันเยว่เฉินมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างเหนื่อยใจ นิ่งเงียบไปพักใหญ่ สุดท้ายก็พยักหน้ายินยอม
“เอางั้นก็ได้ ในเมื่อคุณยืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาล ผมก็คงต้องยอมให้คุณไป แต่ยังไงคุณก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี และต้องมาตรวจเช็คสุขภาพตามนัดทุกครั้ง รู้ใช่ไหมครับ ? ”
“ฉันรู้แล้วค่ะ คุณวางใจได้ นี่เป็นลูกของฉันกับจุนถิง ฉันไม่ปล่อยให้ลูกเป็นอะไรไปแน่นอนค่ะ ”
เมื่อได้รับการยินยอมจากหลันเยว่เฉิน เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกโล่งใจ บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มชัดเจน
บ่ายวันนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วเดินทางกลับบ้านทันที