Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 495 เห็นว่าเป็นผู้หญิง จึงคิดรังแก
เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้ทำตัวเองขายหน้านัก หลังกลับจากคฤหาสน์ตระกูลลี่ เธอเตรียมพร้อมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ เพื่อเข้าไปเรียนรู้งานในส่วนต่างๆของบริษัท
ลี่จุนซินก็ติดต่อไปหาเจียงหยุนเอ๋อ ให้เธอพร้อมเริ่มงานในวันรุ่งขึ้น
วันรุ่งขึ้น เจียงหยุนเอ๋อก็ปรากฏตัวในบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
พนักงานหลายคนเห็นหญิงสาวท้องโตเข้ามาที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปต่างก็ประหลาดใจ บางคนถึงขั้นเข้าไปสอบถาม ว่าเธอมาหาคนในครอบครัวใช่หรือเปล่า
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มแล้วส่ายหัวไปมา
“เจียงหยุนเอ๋อ”ขณะนั้นเองลี่จุนซินก็เดินเข้ามาหา
เมื่อเห็นว่าเป็นคุณหนูลี่ ทุกคนก็แยกย้ายกันไป ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของคุณหนูลี่นี่เอง
“พี่ค่ะ”เจียงหยุนเอ๋อยกยิ้ม
“พร้อมแล้วใช่ไหม?”ลี่จุนซินรู้ว่าในตอนที่ลี่จุนถิงยังไม่กลับมานั้น พวกเขายังมีศึกใหญ่ที่ต้องรับมือ
เจียงหยุนเอ๋อสูดหายใจเข้าลึก ๆ:“ค่ะ หนูพร้อมแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามพี่มา”ลี่จุนซินพูดจบก็เดินเข้าไปในลิฟต์
เจียงหยุนเอ๋อก็เดินตามหลังมาติดๆ
“วันนี้เบื้องต้นพี่จะแนะนำบริษัทให้เธอได้รู้จักคร่าวๆไปก่อน นี่เป็นโครงการสำคัญที่สุดในตอนนี้ เธอลองดู หากมีตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามพี่ได้ หลังจากนี้อาจจะมีเรื่องอีกมากมาย ไม่รู้ว่าสภาพร่างกายของเธอจะรับไหวไหม” ลี่จุนซินยื่นแฟ้มเอกสารจำนวนหนึ่งให้กับเจียงหยุนเอ๋อ
ไม่ว่ายังไง ลูกในท้องของเจียงหยุนเอ๋อก็สำคัญที่สุด หากเกิดอะไรขึ้น ลี่จุนซินก็ไม่รู้จะพูดแก้ตัวกับลี่จุนถิงยังไง
เจียงหยุนเอ๋อให้กำลังใจตัวเอง ในเมื่อตัดสินใจแล้ว เธอก็จะมุ่งมั่นตั้งใจ :“วางใจเถอะค่ะ หนูจะทำมันให้ดีที่สุด”
“อืม หากไม่ไหวยังไงห้ามฝืนตัวเองเด็ดขาด พี่จะปฏิบัติกับเธอเหมือนพนักงานคนหนึ่งของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป”
การทำงานของลี่จุนซินกับลี่จุนถิงนั้นมีความคล้ายคลึงและชัดเจนพอกัน
“ได้ค่ะ”
ทั้งสองคุยกันจนมาถึงที่ห้องทำงานของลี่จุนซิน
ตลอดการทำงาน เจียงหยุนเอ๋อก็คอยเดินตามลี่จุนซินไม่ห่าง เวลาลี่จุนซินพูดอะไรเธอก็จะคอยจดบันทึกมันไว้ทุกอย่าง เรื่องไหนที่ลี่จุนซินไหว้วานให้เธอจัดการ เธอก็จะทำมันออกมาได้ละเอียดรอบคอบเป็นอย่างดี
ผ่านไปหลายวัน เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มคุ้นเคยกับกิจการงานของบริษัทมากขึ้น อีกทั้งยังได้เรียนรู้ระบบการจัดการมากมายจากลี่จุนซิน
ตำแหน่งผู้จัดการก่อนหน้านั้นของเธอ ดูเหมือนเป็นเพียงเปลือกเท่านั้น มีเพียงบริษัทใหญ่ๆอย่างลี่ซื่อกรุ๊ป ถึงจะทำให้ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆมากมายอย่างแท้จริง
แต่ที่เจียงหยุนเอ๋อโชคดีกว่านั้นก็คือ ที่บอกว่าผู้หญิงคลอดลูกครั้งหนึ่งจะโง่ไปสามปี ไม่คิดว่าสมองการเรียนรู้ของเธอจะยังใช้การได้อยู่ ทำให้ลี่จุนซินถึงขั้นเอ่ยพูดชมเธออยู่บ่อยๆ
ท่านปู่ลี่เองก็ได้ทราบข่าว ยิ้มจนหน้าบาน ดูท่าผู้หญิงคนนี้จะเพียบพร้อมไปทั้งภายในและภายนอก ที่ดูเหมือนอ่อนแอ แต่เธอก็มีความอดทน การที่เขาตัดสินใจให้โอกาสเธอนั้นเขาทำถูกต้องแล้ว
ได้รับการชื่นชมจากทุกคน เจียงหยุนเอ๋อก็มุ่งมั่นตั้งใจทำงานมากขึ้นไปอีก
ในวันนี้เอง ลี่หยูนห่วนกับลี่เจี้ยนเย่ก็มาที่บริษัท
“รองประธานลี่ครับ คุณชายรองลี่กับลูกชายมาครับ ”ผู้ช่วยเคาะประตูแล้วแจ้งกับลี่จุนซิน
ลี่จุนซินกำลังพูดคุยเรื่องโครงการกับเจียงหยุนเอ๋ออยู่
“ทำไมถึงเป็นพวกเขาอีก?”เมื่อได้ยินว่าเป็นลี่หยูนห่วนกับลี่เจี้ยนเย่ ลี่จุนซินใบหน้าถอดสีทันที
“ลุงรองกับลี่หยูนห่วนทำไมเหรอคะ?” เจียงหยุนเอ๋อรับรู้ได้ว่าลี่จุนซินมีท่าทีไม่พอใจ จึงได้เอ่ยถามไป
“ลุงรองไม่ยอมรามือ พาลี่หยูนห่วนมาด้วย ให้พี่มอบสิทธิ์อำนาจการจัดการของบริษัทสาขา xx คงเห็นว่าพี่เป็นผู้หญิง และลี่จุนถิงก็ไม่อยู่ ถึงได้คิดจะมาบีบบังคับพี่” ในเวลานี้ลี่จุนซินรู้ซึ้งแล้วกับคำที่ว่าแมวไม่อยู่ หนูร่าเริง
พอลี่จุนถิงไม่อยู่คนพวกนี้ก็เผยธาตุแท้ตัวเอง
“เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกันคะ?”ตั้งแต่ที่ลี่หยูนห่วนคิดแผนปองร้ายเธอ และยังใส่ร้ายป้ายสีเธอ หลังจากนั้นเจียงหยุนเอ๋อก็เคยมีความรู้สึกดีๆให้กับคนบ้านลี่หยูนห่วนอีก
“ก็ราวๆอาทิตย์หนึ่งเห็นจะได้ ”ลี่จุนซินถอนหายใจ
“พี่ค่ะ แล้วทำไมพี่ไม่บอกฉัน”คงจะเป็นตอนที่เจียงหยุนเอ๋อเข้ามาใหม่ๆ ตัวเธอเองถึงไม่รู้เรื่อง
“บอกเธอไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร ลุงรองคงเห็นว่าพี่เป็นผู้หญิงรังแกง่าย”
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกคุณปู่”
“ที่บ้านก็วุ่นวายพออยู่แล้ว พี่ไม่อยากให้คุณปู่รู้ มันจะยิ่งเพิ่มปัญหาให้กับที่บ้านมากขึ้นไปอีก” ลี่จุนซินรู้ว่าสุขภาพร่างกายของท่านปู่ลี่นับวันก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ อะไรที่ตัวเองพอจะแบ่งเบามาได้ก็อยากจะแบ่งเบา
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ เราต้องไม่กลัวพวกเขา”
ลี่จุนซินเม้มปากแล้วยิ้ม คิดเพียงว่าเจียงหยุนเอ๋อคงกำลังปลอบใจตัวเองอยู่
“ให้พวกเขาเข้ามา”ลี่จุนซินรู้ว่าการหนีไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา
หลังจากที่ลี่เจี้ยนเย่กับลี่หยูนห่วนเข้าไปในห้องทำงาน ทั้งคู่ดูหยิ่งผยองมั่นใจเหมือนไก่ชนสองตัว
“พี่จุนซินครับ ผมกับพ่อมาที่นี่ทำไมคิดว่าพี่เองก็น่าจะรู้ ?”เมื่อลี่หยูนห่วนเห็นว่าภายในห้องมีเพียงเจียงหยุนเอ๋อกับลี่จุนซินอยู่จึงได้เอ่ยพูดออกไป
“ฝันไปเถอะถ้าคิดจะให้ฉันยกสิทธิ์อำนาจในการบริหารให้ นี่คือบริษัทที่จุนถิงทุ่มเททั้งหยาดเหงื่อแรงกาย ฉันจะไม่ปล่อยให้แกทำลายมันไปแน่”
ท่าทีของลี่จุนซินขึงขังและจริงจังขึ้นมา
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อได้ยินว่าเป็นหยาดเหงื่อแรงกายของลี่จุนถิง ก็ยิ่งมุ่งมั่นไม่ยอมให้กรรมสิทธิ์ต่างๆถูกถ่ายโอนไปได้อย่างเด็ดขาด
“ลี่จุนซิน เธอพูดไม่ถูกนะ ตอนนี้ลี่จุนถิงก็หายตัวไปแล้ว ? เราแค่กลัวว่าผู้หญิงตัวคนเดียวแบบเธอจะดูแลบริหารจัดการมันไม่ได้ จึงคิดที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลก็เท่านั้น”
ใบหน้าของลี่เจี้ยนเย่ เผยให้เห็นรอยยิ้ม
บริษัทนั้นลี่จุนถิงลงทุนลงแรงไปมาก และก็เป็นบริษัทที่สร้างกำไรผลประโยชน์มากที่สุด หากพวกเขาสามารถเข้ามาดูแลบริหารจัดการได้ คงสร้างเม็ดเงินได้จำนวนไม่น้อย ?
“ลุงรองค่ะ ลุงกำลังคิดอะไรอยู่ตัวลุงเองจะไม่รู้เลยเชียวเหรอ ?”ลี่จุนซินหัวเราะเยาะ
“พี่จุนซินครับ ผมแนะนำให้พี่คิดให้ดี หากพี่ยังดื้อรั้นอยู่อีก อย่าหาว่าเราไม่เตือนนะครับ” ลี่หยูนห่วนไม่อยากจะเสียเวลากับลี่จุนซิน เพราะจุดประสงค์การมาของเขาในวันนี้ก็คือมารับโอนมอบสิทธิ์อำนาจการบริหาร
“ฝันไปเถอะ!”เจียงหยุนเอ๋อทนฟังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ลี่หยูนห่วนกับลี่เจี้ยนเย่ไม่คิดว่าเจียงหยุนเอ๋อจะกล้ามีปากมีเสียง พวกเขาหันมองไปที่เธอด้วยความสงสัย และไม่ได้เก็บคำพูดเธอมาใส่ใจ แต่กลับพูดต่อไปว่า :“พี่จุนซิน ตอนนี้พี่จุนถิงก็ไม่อยู่แล้ว พี่ต้องรู้ว่ามีเพียงผมคนเดียวที่จะแบกรับภาระนี้มาดูแลรับผิดชอบต่อได้ ”
“เป็นไปไม่ได้”เจียงหยุนเอ๋ออุ้มท้องแล้วเดินก้าวเข้ามา“พวกคุณอย่าฝันเฟื่องไปเลย”
ลี่หยูนห่วนทนไม่ได้อีกต่อไป :“เรากำลังคุยธุระกันอยู่มันไม่ใช่กงการอะไรที่เธอจะพูดแทรกเข้ามา?”
“ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์ คุณปู่อนุญาตให้ฉันจัดการทุกอย่างในบริษัทได้ ”เจียงหยุนเอ๋อเชิดหน้าขึ้น
“อะไรนะ?”ลี่เจี้ยนเย่นิ่งอึ้งไป แต่แล้วก็หัวเราะออกมา “นี่เธอกำลังล้อเล่นอะไรอยู่”
ช่างน่าขำ ท่านปู่ลี่จะปล่อยให้ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาดูแลบริหารบริษัทได้ยังไงกัน ?
“ใช่ค่ะ คุณปู่ให้ฉันมาคอยช่วยเหลือเจียงหยุนเอ๋อดูแลบริการจัดการบริษัท”ลี่จุนซินไม่คิดว่าเจียงหยุนเอ๋อจะออกหน้าในตอนนี้ เธอจึงพูดสนับสนุนเจียงหยุนเอ๋อไป“ หากลุงรองไม่เชื่อ ก็ลองไปถามคุณปู่ได้ ”
เมื่อลี่เจี้ยนเย่เห็นลี่จุนซินก็พูดแบบเดียวกัน จึงไม่กล้าที่จะสงสัย หากเขาโทรไปแล้วเกิดท่านปู่ลี่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่พ้นคงถูกท่านปู่ลี่ดุด่าว่ากล่าวเป็นแน่