Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 502 หมดหวังแล้ว
“ระยะนี้เรื่องที่แกทำ มันทำให้ฉันผิดหวังมากจริง ๆ ฉันจะถอดตำแหน่งของแกออกก่อน แกคิดทบทวนดูแล้วกัน” ท่านปู่ลี่เอ่ยพูดกับลี่เจี้ยนหวา
“พ่อ มีสิทธิ์อะไร?” ลี่เจี้ยนหวารู้สึกไม่ยุติธรรม ตัวเองเพียงแค่เลือกความสุขของตัวเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับงานด้วย
“สิทธิ์อะไรงั้นเหรอ? ก็ตอนนี้แกสติเลอะเลือนแล้วไงล่ะ” ท่านปู่ลี่จ้องเขม็งลี่เจี้ยนหวา “แกถูกยัยผู้หญิงข้างนอกคนนั้นทำให้สับสนเลอะเลือนแล้วหรือไง? ยัยนั่นยุแยงแกใช่ไหม?”
ท่านปู่ลี่คิดว่าลูกชายคนโตของตัวเองค่อนข้างฉลาดมาโดยตลอด แต่ช่วงนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่มีเหตุผลเข้าเรื่อยแล้ว
“พ่อครับ เฟยเฟยไม่ใช่คนแบบนั้น” ลี่เจี้ยนหวาหน้านิ่วคิ้วขมวด อธิบายให้ท่านปู่ลี่ฟัง
“เหอะ” ท่านปู่ลี่สบถออกมา “ฉันไม่เคยคิดว่ามือที่สามที่ทำลายครอบครัวคนอื่นเป็นคนดี โม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นภรรยาที่ดีขนาดนี้แกปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านไม่สนใจไยดี แต่กลับไปหาผู้หญิงข้างนอกนั่น ตอนนี้เป็นไงล่ะ ไม่เหลืออะไรแล้ว? แกดีใจไหม? ในบ้านวุ่นวายไปหมด จุนถิงก็ไม่อยู่ บริษัทเกิดเรื่องขึ้นแกดีใจไหมล่ะ?”
“แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมหวังจะให้มันเกิดขึ้นนี่ครับ” ลี่เจี้ยนหวารู้สึกว่าทั้งหมดนี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น
“เหอะ แกนี่มันยิ่งแก่ยิ่งไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครซะแล้ว” ท่านปู่ลี่รู้สึกว่าลูกชายของตัวเองยังสู้หลานชายไม่ได้เลย
อย่างน้อยหลานชายยังรู้สึกเลือกผู้หญิงได้ดี
“พ่อครับ จุนถิงหายตัวไป เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้หวังให้มันเกิดขึ้น แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พวกเราก็ต้องทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นน้อยที่สุด ฉะนั้นผมคิดว่ามอบหมายให้ลี่หุยจะดีที่สุดครับ” ลี่เจี้ยนหวายังคิดออกปากช่วยลี่หุย
ท่านปู่ลี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ : “ตอนนี้ฉันหมดหนทางพูดกับแกแล้ว แกไปคิดทบทวนดูให้ดีเถอะ”
ท่านปู่ลี่ถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วจากไป
สีหน้าของลี่เจี้ยนหวาดูแย่ ไม่รู้ทำไมพ่อของตัวเองถึงไม่เข้าใจตัวเอง แต่ตอนนี้หุ้นของตัวเองน้อยลงแล้ว และตัวเองไม่มีตำแหน่งอะไรแล้วด้วย ลี่เจี้ยนหวาจึงรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย
ถ้าตอนนั้นเขาไม่วู่วามพูดว่าต้องการหย่า ตอนนี้ก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ลี่เจี้ยนหวาคิด ๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าอาจจะมีโอกาสเปลี่ยนแปลง เขายังสามารถเจรจากับโม่เสี่ยวฮุ่ยได้
ดังนั้น ลี่เจี้ยนหวาจึงกดโทรไปหาโม่เสี่ยวฮุ่ยในทันที
โม่เสี่ยวฮุ่ยกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่กับลี่จุนซิน
สำหรับผู้หญิงแล้ว วิธีที่จะระบายอารมณ์อกหักได้ดีที่สุดก็คือการได้จ่ายเงิน
เมื่อเห็นสายโทรเข้าจากลี่เจี้ยนหวา โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ขมวดคิ้ว แล้วเลือกตัดสายทิ้ง
“ใครคะ?” ลี่จุนซินเห็นสีหน้าโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ค่อยดี จึงเอ่ยถาม
“พ่อของแก”
ลี่จุนซินได้ยินก็เงียบไป กับพ่อของตัวเองนั้น พูดได้ว่าลี่จุนซินรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก : “ไปกันเถอะ พวกเราไปดูร้านนั้นกัน”
ลี่จุนซินรู้ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยเหนื่อยใจและไม่สบายใจ เลยอยากเบี่ยงเบนความสนใจของโม่เสี่ยวฮุ่ย
แต่ว่าทั้งสองคนเพิ่งเดินไปได้ไม่ไกล โทรศัพท์ของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ดังขึ้นอีกครั้ง
โม่เสี่ยวฮุ่ยขมวดคิ้ว รับสายด้วยความหงุดหงิด : “ลี่เจี้ยนหวา ต้องการอะไรกันแน่?”
“เสี่ยวฮุ่ย” ลี่เจี้ยนหวาเอ่ยเรียกเบา ๆ น้ำเสียงค่อนข้างอ่อนโยน
“มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ” น้ำเสียงของโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่เป็นมิตรอย่างมาก
ลี่เจี้ยนหวาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยพูด : “เธอมีเวลาไหม ฉันอยากนัดเธอมาคุยธุระหน่อยน่ะ”
“ฉันว่าพวกเราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก” ท่าทีของโม่เสี่ยวฮุ่ยเย็นชา ต่างจากท่าทีที่มีต่อลี่เจี้ยนหวาในเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ที่ลี่เจี้ยนหวาพูดว่าต้องการให้ลี่หุยมาดูแลบริษัท โม่เสี่ยวฮุ่ยก็รู้สึกหมดหวังแล้ว
“เสี่ยวฮุ่ย ฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดกับเธอจริง ๆ เธอให้เวลาทานข้าวกับฉันสักมื้อเถอะนะ” ในความคาดหวังของลี่เจี้ยนหวามีการขอร้องปนอยู่
โม่เสี่ยวฮุ่ยเม้มปาก สุดท้ายก็ใจอ่อนตอบตกลง : “ก็ได้ ฉันกับจุนซินช้อปปิ้งอยู่ที่ห้างฯ จะรอคุณที่ที่นั่งขันพิเศษเลข365ที่จ้ายส่วยอี้ฟาง”
ลี่เจี้ยนหวาได้ฟัง ก็ตอบกลับด้วยความดีใจ : “ตกลง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
การตอบตกลงของโม่เสี่ยวฮุ่ยทำให้ลี่เจี้ยนหวาคิดว่าเรื่องนี้มีโอกาสเปลี่ยนแปลง จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปยังห้างสรรพสินค้า
เมื่อลี่เจี้ยนหวามาถึงห้องอาหารส่วนตัว เห็นว่าลูกสาวก็อยู่ด้วย จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้คุยกันต่อหน้าลูกสาวคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยเอ่ยปากพูดว่า : “จุนซิน แกออกไปก่อน ฉันมีเรื่องต้องพูดกับแม่แก”
ลี่จุนซินมองโม่เสี่ยวฮุ่ย ก็เห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยพยักหน้า
ลี่จุนซินไม่กลัวว่าลี่เจี้ยนหวาจะทำเรื่องอะไรที่เกินเลย จึงได้เดินออกไปด้านนอก
เพียงแต่ตอนที่เดินออกไปกลับไปปรายตามองลี่เจี้ยนหวาแม้แต่น้อย
ตอนนี้เวลาเธอเห็นลี่เจี้ยนหวาเหมือนกับเห็นศัตรูยังไงยังงั้น เป็นเพราะพ่อตัวเองทำเรื่องบ้าบอครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของตัวเองกลายสภาพเป็นอย่างเช่นตอนนี้
“เอาล่ะ คุณพูดมาเถอะ มาหาฉันมีเรื่องอะไรกันแน่” ตอนนี้ในสายตาของโม่เสี่ยวฮุ่ยที่มองลี่เจี้ยนหวามีแต่ความเกลียดชัง
เมื่ออยู่ต่อหน้าโม่เสี่ยวฮุ่ย จู่ ๆ ลี่เจี้ยนหวาก็ลังเลไม่รู้ว่าควรเอ่ยพูดยังไงดี
ก้มหน้าอยู่เงียบ ๆ ครู่หนึ่ง ก็ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับสายตาเกลียดชังของโม่เสี่ยวฮุ่ย : “เสี่ยวฮุ่ย พวกเราแต่งงานกันใหม่อีกครั้งเถอะ”
โม่เสี่ยวฮุ่ยอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง มองลี่เจี้ยนหวาด้วยใบหน้าที่แทบไม่อยากเชื่อ ในใจได้ทลายความคิดของลี่เจี้ยนหวาลงทันที
“คุณกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม?” จากนั้นโม่เสี่ยวฮุ่ยก็แสยะยิ้มออกมา
ลี่เจี้ยนหวาสีหน้าจริงจัง : “ไม่นะ ฉันจริงจัง”
โม่เสี่ยวฮุ่ยลุกจากเก้าอี้ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองดวงตาของลี่เจี้ยนหวา เพื่ออยากดูความหลอกลวงที่แฝงอยู่
“ลี่เจี้ยนหวา คุณไม่รู้สึกว่ามันน่าขันเหรอ?” การหย่าร้างเป็นคุณที่เอ่ยขึ้นมา ฉันก็ตอบตกลงแล้ว นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันคุณก็มาขอฉันแต่งงานใหม่อีก?” โม่เสี่ยวฮุ่ยหัวเราะเยาะ “ใช้ชีวิตอยู่กับคุณมานานหลายปี ฉันเพิ่งได้รู้ ว่าที่แท้คุณมันก็แค่ผู้ชายใจโลเลกลับคำไปมาคนหนึ่งเท่านั้น”
ตอนนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่รู้เลยว่าตอนตัวเองยังสาวตาบอดไปหรือเปล่า ถึงได้มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ออกว่าตกลงเป็นคนแบบไหนกันแน่
“เสี่ยวฮุ่ย ทำไมเธอถึงได้ว่าฉันอย่างนี้?” ลี่เจี้ยนหวาขมวดคิ้ว ใบหน้าแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย
โม่เสี่ยวฮุ่ยในเมื่อก่อนไม่มีทางว่าตัวเองแบบนี้
“ทำไมฉันถึงว่าไม่ได้? วันนี้ฉันจะพูดให้คุณฟัง” โม่เสี่ยวฮุ่ยกัดฟัน เต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยามลี่เจี้ยนหวา “ฉันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคุณจะเป็นผู้ชายที่เสแสร้งจอมปลอมอย่างนี้ หลายปีที่ผ่านมา ฉันก็คิดแล้วเชียวว่าทำไมคุณถึงได้เฉยเมยต่อฉัน ที่แท้ก็แอบมีคนอื่นนี่เอง และปีนี้ฉันถึงได้รู้จักคุณอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ตอนนี้ฉันผิดหวังในตัวคุณมากเลยเกิน คุณอยากแต่งงานใหม่กับฉันงั้นเหรอ? ฉันจะบอกคุณเอาไว้นะ ไม่มีทาง!”
“เธอ!” ลี่เจี้ยนหวาถูกโม่เสี่ยวฮุ่ยว่าจนพูดอะไรไม่ออก
“เหอะ” โม่เสี่ยวฮุ่ยแสยะยิ้มออกมา “ฉันแทบอยากจะให้คุณหย่ากับฉัน ตอนนี้แค่ฉันเห็นคุณฉันก็รู้สึกขยะแขยง ฉันบอกไว้ก่อนว่าต่อไปถ้าคุณไม่มีธุระอะไรก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก การพบหน้ากันอย่างวันนี้ ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย”
โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดจบก็เลื่อนประตูห้องอาหารส่วนตัวออกแล้วจากไปด้วยความโมโห