Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 509 ไร้ยางอายสิ้นดี
หลังจากที่ซื้อหุ้นได้จำนวนมากเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสองคนก็แอบยักยอกเงินกองกลางของบริษัทไปใช้ส่วนตัว พวกเขาแอบทำเรื่องทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ ไม่เพียงแต่เจียงหยุนเอ๋อเท่านั้นที่ไม่พบสิ่งผิดปกติ แม้แต่ท่านปู่ลี่เองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเช่นกัน
เนื่องจากลี่หุยมีคนของตัวเองอยู่ในบริษัท ดังนั้นเมื่อทำเรื่องพวกนี้จึงง่ายเหมือนปลาได้น้ำ ไม่ได้ถูกขัดขวางอะไรทั้งสิ้น
ในห้องทำงาน
มองไปยังเอกสารกองโตเท่าภูเขาที่อยู่ตรงหน้า เจียงหยุนเอ๋อก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ไม่ว่าเธอพยายามจัดการเคลียร์เอกสารพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก็มักจะมีเอกสารแบบนั้นแบบนี้โผล่มาให้ตัวเองจัดการอยู่เรื่อย ๆ ทำให้บางครั้งเธอถึงกับรู้สึกปวดหัว
เธอก็รู้ดีว่าคนพวกนั้นในบริษัทที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเธอว่าสามารถดูแลบริษัทได้ จงใจหาเรื่องพวกนี้มากลั่นแกล้งเธอ แต่เจียงหยุนเอ๋อที่เป็นคนสู้ไม่ถอยจึงไม่คิดจะยอมแพ้ง่าย ๆ อยู่แล้ว
เธอต้องการให้คนพวกนั้นรู้เอาไว้ว่า ถึงแม้ตัวเองจะเป็นผู้หญิง แต่ก็สามารถจัดการเรื่องภายในบริษัทได้เป็นอย่างดี
ลี่จุนซินมาส่งเอกสารพอดี จึงเห็นเจียงหยุนเอ๋อมีสีหน้าท่าทางกลัดกลุ้มใจ เธอรู้ดีว่าหลายวันนี้งานเยอะมากเหลือเกิน เธอจึงเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปสงบนิ่ง แววตาเต็มไปด้วยความกังวล
“หยุนเอ๋อ ฉันว่าสีหน้าเธอดูไม่ดีเลยนะ เกิดอะไรขึ้นกับลูกในท้องหรือเปล่า? เธอต้องพักผ่อนให้มาก ๆ นะ!”
ได้ยินเสียงของลี่จุนซิน เจียงหยุนเอ๋อก็สลัดความเหนื่อยล้าบนใบหน้าออกไป แล้วยิ้มอย่างเรียบ ๆ “พี่คะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่ต้องจัดการเรื่องเอกสารมากไปหน่อย ดวงตาเลยรู้สึกล้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ฉันยังไหวอยู่ ถ้าตอนนี้ฉันเป็นอะไรไป ก็คงจะสมใจคนพวกนั้นที่คอยหัวเราะเยาะฉันอยู่”
“เธอเนี่ยนะ นิสัยเหมือนจุนถิงไม่มีผิดเลยจริง ๆ ทำอะไรมักจะทำเป็นเข้มแข็งเสมอ ฉันไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงแล้ว แต่เอาเป็นว่าเธอต้องระวังสุขภาพให้ดี ๆ นะ อย่าลืมล่ะว่าในท้องของเธอยังมีลูกอยู่คนหนึ่ง!”
ลี่จุนซินถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดโน้มน้าวอย่างช้า ๆ
ได้ยินลี่จุนซินเอ่ยถึงลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็ชะงัก แล้วรีบดึงมือลี่จุนซินมาถาม “จริงสิคะพี่ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว มีข่าวคราวของจุนถิงบ้างไหมคะ? หรือว่ายังหาตัวเขาไม่เจอ?”
ลี่จุนซินส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
“ยังไม่มีข่าวของจุนถิงเลย แต่คุณปู่ส่งคนไปตามหาตลอด อีกไม่นานก็คงได้รู้ผลแล้วล่ะ สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ตอนนี้ ก็คือรออยู่เงียบ ๆ จุนถิงน่ะวาสนาดีมาตั้งแต่เด็กแล้ว ครั้งนี้ก็ต้องสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างแน่นอน”
“ขอให้เป็นอย่างที่พี่พูดเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้วจริง ๆ แต่แน่นอนว่าฉันจะต่อสู้เพื่อบริษัทต่อไป จนกว่าจุนถิงจะปลอดภัยกลับมา” เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย
……
หลังจากที่ลี่หยูนห่วนและลี่หุยร่วมมือกันกว้านซื้อหุ้นของบริษัทได้จำนวนหนึ่งแล้วก็เริ่มแยกย้ายกันลงมือ ลี่หุยรับผิดชอบโยกย้ายเงินของบริษัท ส่วนลี่หยูนห่วนก็รับผิดชอบเรื่องท่านปู่ลี่
ฉีเฉิงมองลีหยูนห่วนที่ยืนยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่ตรงหน้าตัวเอง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีไม่ได้คิดจะสนใจ แต่ก็คิดว่ายังไงลี่หยูนห่วนก็เป็นญาติของท่านปู่ลี่ ดังนั้นจึงได้เอ่ยทักอย่างเรียบ ๆ “คุณลี่ มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ?”
“คุณเป็นหมอประจำตัวของคุณปู่ ผมมาหาคุณก็ต้องมีธุระอยู่แล้วน่ะสิ! พูดมาสิ ช่วงนี้สุขภาพของคุณปู่เป็นยังไงบ้าง?” ลี่หยูนห่วนยกมุมปากขึ้น มองฉีเฉิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างยิ้ม ๆ
“ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง! ตอนนี้ท่านประธานสุขภาพแข็งแรงดีครับ ขอแค่ทานยาตรงเวลา ตรวจสุขภาพตามนัด หลีกเลี่ยงไม่ให้โมโห ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งไปกว่านั้นมีผมคอยดูแลรักษาอยู่ตลอด คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” ฉีเฉิงยิ้มอย่างเป็นทางการ
คิดไม่ถึงเลยว่าสุขภาพของท่านปู่ลี่ในตอนนี้ยังแข็งแรงดีอยู่ ลี่หยูนห่วนหน้าขรึมลงเล็กน้อย “คุณปู่อายุมากขนาดนี้แล้ว ร่างกายยังแข็งแรงดีอยู่อีกเหรอ? หมอฉี คุณเป็นหมอประจำตัวของคุณปู่ ทำอะไรก็น่าจะสะดวกใช่ไหม?”
“คุณลี่ คุณหมายความว่ายังไงครับ?” ฉีเฉิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เอ่ยถามอย่างเรียบ ๆ
“ความหมายของผมนั้นง่ายมาก และเข้าใจได้ง่ายมากด้วย! ผมอยากให้คุณวางยาคุณปู่ ยาที่จะทำให้เขาตายในไม่ช้า สำหรับคุณ น่าจะทำเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ ใช่ไหม?”
ลี่หยูนห่วนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยปากช้า ๆ ชัด ๆ ทีละคำ
“อะไรนะ? คุณจะให้ผมลอบทำร้ายท่านประธานเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง? ผมไม่มีทางทำเด็ดขาด! ท่านประธานเป็นคุณปู่แท้ ๆ ของคุณนะ ผมว่าคุณรีบล้มเลิกความคิดนี้เถอะ ถ้าถูกท่านประธานจับได้ขึ้นมา ไม่มีผลดีอะไรกับคุณแน่นอน!”
ฉีเฉิงตบโต๊ะ ตำหนิเสียงแข็ง
“หมอฉี ผมยังพูดไม่จบเลยนะ คุณรีบร้อนทำไมกัน! บอกมา ว่าคุณต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันสามารถให้คุณได้ทั้งนั้นแหละ ขอแค่คุณช่วยผมวางยาตาแก่นั่น! ผมบอกความจริงคุณไว้แล้วกัน บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปน่ะต่อไปต้องเป็นของผม คุณคิดให้ดีนะ!”
ลี่หยูนห่วนไม่โกรธแต่กลับหัวเราะออกมา
ฉีเฉิงหนักแน่นในจุดยืนของตัวเองมาก : “คุณลี่ นี่เป็นเรื่องของจรรยาบรรณ ผมไม่มีทางให้ยาที่เป็นอันตรายต่อร่างกายคนไข้ของผมเด็ดขาด อีกอย่างท่านประธานก็ดีกับผมมากมาโดยตลอด ในเรื่องของคุณธรรมผมก็ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน คุณล้มเลิกความคิดนี้ซะเถอะ!”
ไม่ว่าตัวเองจะพูดยังไงเขาก็ยังมีทิฐิไม่ยอมรับฟัง สีหน้าของลี่หยูนห่วนจึงดูขึงขังขึ้นมา
“ในเมื่อฉีไม่ให้ความร่วมมือกับผม ต้องการให้ผมบังคับคุณใช่ไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็ งั้นผมก็คงต้องทำแบบนี้สินะ ใครใช้ให้คุณไม่ยอมเชื่อฟังแต่โดยดีล่ะ?”
“คุณหมายความว่ายังไง? คุณคิดจะทำอะไร!” ฉีเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา
ลี่หยูนห่วนหัวเราะแล้วหยิบเอารูปถ่ายหลายใบออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ โยนไปตรงหน้าของฉีเฉิง
“คุณดูเอาเองนะ ถ้าคุณไม่ยอมทำตาที่ผมบอก งั้นผมก็คงต้องจัดการพวกเขาแล้วสินะ ใครทำให้ผมต้องเสียอารมณ์กันล่ะ!”
ฉีเฉิงหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดู ก็หน้าซีด แล้วตบโต๊ะด้วยความโมโห : “ลี่หยูนห่วน นี่กล้าเอาคนในครอบครัวผมมาข่มขู่ผมเลยเหรอ! ไร้ยางอายสิ้นดี!”
“มียางอายหรือไร้ยางอายก็ปลอมทั้งนั้นแหละ ขอแค่บรรลุเป้าหมายสุดท้าย อะไรก็ดีทั้งนั้น ดังนั้นหมอฉี ได้ยินมาว่าคุณเป็นลูกที่กตัญญูมากเลยนี่ น่าจะยอมร่วมมือกับผมใช่ไหม?” ลี่หยูนห่วนยิ้มกว้าง แล้วใช้มือเคาะโต๊ะไปเรื่อย
เสียงที่ดังขึ้นแต่ละครั้งนั้นเหมือนเคาะลงไปบนหัวใจของฉีเฉิงไม่หยุด สุดท้ายเขาจึงได้แต่จำยอม : “ก็ได้ ขอแค่คุณไม่ทำร้ายคนในครอบครัวผม ผมก็จะทำตามที่คุณสั่ง!”
ได้ยินดังนั้น ลี่หยูนห่วนก็พยักหน้าด้วยความพอใจ : “ดีมาก สำหรับพันธมิตรของผม ผมให้ความเคารพเสมอ”
เพราะท่านปู่ลี่สุขภาพไม่ได้ดีมากนัก ดังนั้นหมอประจำตัวจึงต้องไปตรวจดูอาการบ่อย ๆ ท่านปู่ลี่จึงไม่เคยคิดระแวงเลยสักนิด ได้แต่เชื่อคำพูดของหมอทุกอย่าง
การไปตรวจร่างกายท่านปู่ลี่ครั้งนี้ทำให้ฉีเฉิงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของคนในครอบครัว เขาก็ได้แต่กัดฟัน มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลลี่อย่างไม่กลัวตาย