Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 591 ให้เธอเชื่อใจผมมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ลี่จุนซินเสนอคำถามแล้ว ได้ให้คนข้างล่างปรึกษาหารือกันเอง แล้วเสนอความคิดเห็นของตัวเองออกมา
มาตรการส่วนใหญ่ที่เสนอมาล้วนเป็นทฤษฎีธุรกิจแบบเก่า ไม่มีข้อเสนอไหนที่ลี่จุนซินฟังแล้วรู้สึกว่าสามารถนำมาใช้ได้
จนกระทั่งกู้เฟยหลิน ซึ่งลี่จุนซินคาดหวังกับเธอไว้ค่อนข้างมากในตอนแรกอยู่แล้ว หลังจากที่กู้เฟยหลินพูดจบ ลี่จุนซินยิ่งชื่นชมเธอมากขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้กู้เฟยหลินเคยรับผิดชอบโปรเจคแบบนี้มาก่อน และโปรเจคนี้ก็เป็นโปรเจคที่เธอถนัดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถนำเสนอความคิดเห็นทั้งชุดออกมาได้ทันที
“เพราะว่าเมื่อก่อนตอนที่ฉันอยู่ต่างประเทศนั้น เคยไปดูโรงเหล้าจริงของโรงบ่มไวน์ลาหร์มาก่อน และเคยสัมผัสกระบวนการการหมักไวน์มาด้วยตัวเอง ดังนั้น ฉันรู้ว่าโรงบ่มไวน์ลาหร์เข้มงวดเกี่ยวกับผลผลิตขององุ่นและคุณภาพขององุ่นมาก และในช่วงที่ผลผลิตขององุ่นไม่ดี หลังจากที่เด็ดองุ่นมาแล้ว โรงบ่มไวน์ลาหร์ยังต้องผ่านการคัดด้วยมืออย่างเคร่งครัดอีกครั้ง แค่จุดนี้ ก็ถือว่าดีกว่าโรงบ่มไวน์อื่นๆ ในโลกนี้แล้ว ”
“เท่าที่ฉันรู้ ไวน์ขาวและสุราของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ขั้นตอนและกระบวนการผลิตของพวกเขาซับซ้อนมาก และการเลือกวัตถุดิบกับขั้นตอนการผลิตก็เข้มงวดมากเช่นกัน ดังนั้น คุณภาพและผลผลิตของสุรากับไวน์ขาวของลี่ซื่อเองก็ควบคุมเข้มงวดมากเช่นกัน”
“พวกเราสามารถส่งตัวอย่างไวน์ขาวกับสุราไปที่โรงบ่มไวน์ลาหร์ จากนั้นให้พนักงานที่ชำนาญเฉพาะด้านไปอธิบายเกี่ยวกับวัตถุดิบของไวน์ขาวและสุราให้ และความรู้ด้านการผลิตต่างๆ ให้ เพื่อให้พวกเขาได้รู้ว่าเหล้าของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปกับของโรงบ่มไวน์ลาหร์มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเหมือนเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนี้จะยิ่งทำให้โรงบ่มไวน์ลาหร์ ไว้วางใจบริษัทเรา”
“ก่อนหน้านั้น ฉันได้ยินข่าวจากเพื่อนที่ฝรั่งเศส ว่าตอนนี้ดินของโรงบ่มไวน์ลาหร์เหมือนมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย สภาพดินมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย พื้นผิวดินของโรงบ่มไวน์ลาหร์เริ่มต้นจากธารน้ำแข็งควอเทอร์นารี เมื่อน้ำแข็งละลายจะเกิดกรวดทรายขึ้นมา ทำให้ดินผสมกับกรวดทรายเหล่านี้ และเป็นเพราะโครงสร้างที่พิเศษของดินที่ทำให้ไวน์ของโรงบ่มไวน์ลาหร์มีรสชาติโดดเด่นไม่เหมือนคนอื่น”
“ตอนนี้เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของดิน ทำให้ปริมาณขององุ่นลดลงเป็นจำนวนมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงองุ่นที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นจึงทำให้ปริมาณไวน์ของโรงบ่มไวน์ลาหร์ลดลงเยอะมาก ถึงแม้จะมีการพูดว่ายิ่งน้อยยิ่งมีค่า และเมื่อไวน์ของโรงบ่มไวน์ลาหร์จำนวนขายน้อยลง คนที่ต้องการยิ่งเพิ่มมากขึ้น เลยทำให้ยอดขายด้านการตลาดของพวกเขาน้อยลงมาก เพื่อรักษายอดขายการด้านตลาดไว้จึงจำเป็นต้องผลิตไวน์ที่มีคุณภาพต่ำขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้คนดื่มไวน์ไม่พอใจอย่างมาก”
“ดังนั้น ปัญหาหลักของพวกเขาอยู่ที่คุณภาพดิน ตามข้อมูลที่ฉันรู้ ประธานบริษัทของเราลี่จีถองเป็นคนกว้างขวาง น่าจะสามารถหาผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยแก้ปัญหาสภาพของดินนี้ได้”
“ถ้าเป็นแบบนี้ โรงบ่มไวน์ลาหร์ก็จะเป็นหนี้บุญคุณบริษัทเรา เวลานี้พวกเราก็สามารถเปลี่ยนจากการถอยเป็นการเดินหน้าได้ และบอกกับโรงบ่มไวน์ลาหร์ว่า ที่ช่วยเหลือพวกเขาเพราะไม่อยากให้เหล้าที่มีคุณภาพของโรงบ่มไวน์ลาหร์ลดน้อยลงในตลาด ในฐานะบริษัทที่ชื่นชมโรงบ่มไวน์ลาหร์ ก็หวังว่าโรงกลั่นเหล้าไวน์ที่มีอนาคตแบบนี้จะไม่สูญสิ้นไป ”
“จากนั้นบอกกับพวกเขาว่าไม่ได้อยากให้พวกเขาติดหนี้บุญคุณเรา แค่อยากช่วยเหลือพวกเขาเท่านั้น ถึงแม้พวกเขาจะร่วมธุรกิจกับบริษัทอื่นพวกเราก็จะไม่ว่าอะไร แต่ถ้าร่วมทำธุรกิจกับเราได้ก็จะดีที่สุด”
“เมื่อเป็นแบบนี้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปก็จะสร้างความน่าเชื่อถือให้โรงบ่มไวน์ลาหร์เป็นอย่างมาก สุดท้าย ยอดขายในประเทศของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป และทรัพยากรทางการตลาดกับเงินทุน พวกเขาต้องตรวจสอบก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว และด้านนี้ ในประเทศมีกี่บริษัทที่เทียบกับลี่ซื่อได้”
“เมื่อเป็นแบบนี้ การทำธุรกิจร่วมกันก็จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ”
หลังจากที่กู้เฟยหลินพูดจบ เสียงปรบมือดังขึ้นจากด้านล่าง ส่วนลี่จุนซินนั้นลุกขึ้นมา และพูดชื่นชมออกมาอย่างเปิดเผยว่าความคิดของกู้เฟยหลินนั้นเพอร์เฟคมาก
พนักงานทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครไม่รู้สึกทึ่งในตัวของกู้เฟยหลิน ช่วงเช้าสำหรับคนที่ชื่นชมเธอหรืออิจฉาเธอเพราะหน้าตานั้นต่างรู้สึกละอายใจ เนื่องจากไปวิจารณ์เกี่ยวกับความสามารถของบุคคลคนหนึ่งเพียงเพราะรูปร่างหน้าตาของเขา
ลี่จุนซินชื่นชมกู้เฟยหลินมาก รู้สึกว่ากู้เฟยหลินเป็นคนที่มีศักยภาพสูง ดังนี้จึงประกาศออกมาว่าโปรเจคนี้มอบให้กู้เฟยหลินกับพนักงานเก่าแก่อีกคนรับผิดชอบร่วมกัน จากนั้นได้คัดสรรคนเพิ่มอีกสามสี่คนเข้าร่วมด้วย
กู้เฟยหลินยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ แสดงให้เห็นว่าเธอต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จแน่นอน
คืนนั้น กู้เฟยหลินชวนอลันกินข้าวด้วยกัน เพื่อรายงานอลันเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป
“ลี่จุนซินได้มอบโปรเจคที่จะทำงานร่วมกับโรงบ่มไวน์ลาหร์ให้ฉันแล้ว ถึงแม้จะทำร่วมกับอีกคน แต่ด้วยความสามารถของฉันแล้ว ฉันต้องได้เป็นหัวหน้าแน่นอน”
“อีกอย่าง ฉันมีข้อเสนอให้คุณอย่ามาแย่งโปรเจคนี้กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เพราะว่านี่เป็นโปรเจคแรกที่ฉันได้ทำในบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ฉันต้องใช้โปรเจคนี้ เพื่อยืนได้อย่างมั่งคงในลี่ซื่อ และเพื่อให้ลี่จุนซินเชื่อใจฉันมากยิ่งขึ้น
อลันพยักหน้า ตอบตกลง
คืนนี้ลี่จุนซินกับเวียร์ไปกินข้าวที่บ้านของลี่จีถอง และเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตกใจเล็กน้อย คิดว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ จึงรู้สึกเป็นห่วงมาก
“พี่ โปรเจคนี้สำคัญมาก ทำไมพี่ให้โปรเจคนี้กับคนใหม่อย่างรวดเร็ว ฉันรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ พี่ชื่นชมเธอ สามารถให้เธอทำงานในทีมได้ แต่ไม่ควรให้เธอรับผิดชอบโดยตรง”
ลี่จุนซินพยักหน้า “ฉันรู้ที่ฉันทำแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสม แต่ตอนนี้เป็นช่วงที่เราต้องการใช้คน และวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด”
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกเห็นด้วย แต่ก็ยังรู้สึกเป็นห่วงมากเช่นเคย
“แต่ว่า พี่ ถ้าหากว่าเธอ……”
ลี่จีถองคีบปีกไก่ใส่เข้าไปในปากของเจียงหยุนเอ๋อ เพื่อห้ามให้เธอหยุดพูด เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าตัวว่าใช้คำพูดผิดไป หยิบปีกไก่ออกมาจากปาก แล้วขอโทษลี่จุนซิน
“พี่ ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ว่าสายตาของพี่มีปัญหา แต่ฉันแค่เป็นห่วง。”
“ขอโทษอะไรกัน ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าเธอหวังดี”
“หยุนเอ๋อ เธอไม่ต้องเป็นกังวลมาก หน้าที่ของเธอตอนนี้คือกินข้าว และดูแลตัวเองดีๆ”
ลี่จีถองรีบพูดแทรกขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศตึงเครียดนั้น
เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจ แล้วพูดว่า:
“เฮ้อ ช่วยไม่ได้ ชีวิตฉันเกิดมาเพื่อทำงานโดยเฉพาะ ฉันชอบเป็นกังวล โดยเฉพาะหลังจากที่อยู่กับจีถองแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถเกิดขึ้นกับฉันได้”
เมื่อลี่จุนซินได้ยิน หัวเราะฮ่าๆ ออกมา “มันก็จริง ตั้งแต่ที่เธอแต่งงานกับจีถอง มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย มีแต่คนจะทำร้ายเธอหรือไม่ก็ทำร้ายจีถอง”
ลี่จีถองรู้สึกเสียใจ จึงจับมือของเจียงหยุนเอ๋อไว้ และพูดกับเจียงหยุนเอ๋ออย่างเสียใจว่า:
“หยุนเอ๋อ ขอโทษด้วย ที่ทำให้คุณต้องลำบากไปกับผมด้วย เป็นเพราะผมดูแลคุณไม่ดี ต้องโทษผม ที่ปล่อยให้คนชั่วมีโอกาส คุณวางใจได้ ต่อไปนี้ผมจะปกป้องคุณและลูกทั้งสามคนให้เป็นอย่างดีเลย”
เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย กุมมือของลี่จีถองไว้ แล้วปลอบใจเขา
“ฉันไม่สนใจหรอกจีถอง ขอแค่ได้อยู่กับคุณ ไม่ว่าอะไรก็คุ้ม ฉันเชื่อว่าคุณสามารถดูแลพวกเราแม่สามคนแม่ลูกได้”