Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 680 ลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เพื่อที่จะเอาโปรเจกต์ของพวกเบอร์เทอร์เสมาน ลี่หุยเสียแรงไปเยอะมากจริงๆ หาคนที่เก่งที่สุดในทีมของตัวเองออกมา
ในเวลาเดียวกัน ลี่หุยก็ส่งข้อความตอบกลับอีเมลไปยังบริษัทพวกนี้ทันที แสดงให้เห็นว่าสามารถร่วมมือกับพวกเขาได้ ถือว่ามีเกียรติมากจริงๆ
พวกเบอร์เทอร์เสมานและอิงรังตะ เมื่อคนที่ดูแลได้รับอีเมลแล้ว ต่างก็หัวเราะไม่หยุด แต่ละคนยังเปิดวิดีโอคอลล์คุยกันด้วย จากนั้นก็ดึงลี่จุนถิงเข้ามา
แต่ละคนพูดคุยกันอย่างมีความสุข ลี่จุนถิงเองก็ไม่พูดอะไร แค่มองดูพวกเขาอย่างเงียบๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกนายยังไม่เห็นอีเมลที่ลูกของชู้ส่งมา ฉันขำมาก ข้างในมีคำพูดเพี้ยนๆ เยอะมาก ฉันหาคนในบริษัทของฉันที่อยู่ในประเทศของนาย มาอ่านประโยคของเขา ปรากฏว่าคนนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจ”
“ฉันดูไปนานมากจึงจะมองออกว่าเขาพูดอะไร พวกนายสองคนเป็นพ่อคนเดียวกันจริงเหรอ? ฉันจะขำตายอยู่แล้ว?”
ลี่จุนถิงมองหน้าพวกเขาด้วยความข่มขู่ แต่ว่าตอนนี้ลี่จุนถิงกำลังขอความช่วยเหลือจากพวกเขา เวลานี้พวกเขาไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้เพื่อที่จะกลั่นแกล้งลี่จุนถิงหรอก
“หากพวกนายยังหัวเราะอีก ฉันไม่มีความเห็นที่จะหยุดการดำเนินโปรเจกต์ก่อนหน้านี้นะ” ลี่จุนถิงพูดข่มขู่
แต่ละคนต่างก็หยุดลง เพราะว่าพวกเขามีโปรเจกต์อีกมากมายที่อยู่บนมือของลี่จุนถิง ขอแค่หยุดลง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสียหายไม่เท่าไร แต่ว่าโปรเจกต์พวกนี้ต่างก็เป็นการร่วมมือกับรัฐบาลในพื้นที่ แบบนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งได้
แต่ละคนต่างก็ไม่พูดออกเสียงแล้ว ลี่จุนถิงฮึ้มด้วยความเย็นชาไปหนึ่งที จากนั้นก็วางสายวิดีโอคอลลง คนที่เหลือต่างก็ “เกลียด” จนคันปากไปหมด
“หากไม่รู้ว่าลี่จุนถิงมีนิสัยแย่ๆ แบบนี้อยู่แล้ว ฉันต่อยเขาไปตั้งนานแล้ว”
“นั่นสิ คำว่าเพื่อนที่พูดไว้ล่ะ มิตรภาพของเราอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอ”
แต่ละคนต่างก็กำลังพูดนินทา “ด่า” เขาอยู่ข้างหลัง ลี่จุนถิงเองก็รู้ เพราะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันถึงหลายปี นิสัยเป็นยังไงบ้างเขาจะไม่รู้เลย
ทางลี่หุยก็เริ่มเตรียมด้านโปรเจกต์ต่างๆ อย่างเร่งรีบแล้ว มีเพียงแค่กองทุนที่ยังมาไม่ถึง ลี่หุยกระวนกระวายมาก จึงให้ผู้ช่วยไปถามดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ในตอนที่ฝ้ายการเงินได้รับใบร้องขอ ก็เห็นแล้ว แต่ว่าพวกเขาไม่อยากขอให้ลี่หุย ลี่หุยก็เร่งแล้วเร่งอีก ฝ่ายการเงินถึงได้พูดความจริงไปกับเขา
“ขอโทษนะ ประธานลี่ กองทุนของบริษัทเราไม่พอให้กับโปรเจกต์นี้ของท่านแล้ว”
คนคนนี้เป็นคนของลี่จุนซินอยู่แล้วตั้งแต่แรก หลังจากที่ลี่จุนซินไปแล้ว ก็ไม่ชอบหน้าลี่หุยมาก ลี่หุยเองก็รู้ แต่ไม่สามารถไล่คนคนนี้ออกได้
เพราะว่าก่อนหน้านี้ เขาไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นคนของลี่จุนซิน ดังนั้นจึงทำบัญชีปลอมผ่านมือของเขาไปเยอะมาก หากคนๆ ถูกไล่ออก และโมโหขึ้นมา จะต้องประกาศเรื่องพวกนี้ที่เขาทำแน่นอน
ก่อนหน้านี้ ภาพที่เข้าไปในคุก ยังอยู่ในสายตาของเขา เขาไม่อยากเข้าไปอีกครั้ง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นประธานของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป แต่ว่าก็ยังค่อนข้างที่จะกลัวคนคนนี้อยู่
ลี่หุยได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว ก็โมโหมาก รีบไล่เขาออกไป แล้วเรียกคนของตัวเองเข้ามา
“ประธานลี่ เมื่อกี้หัวหน้าจางพูดไม่ผิดครับ กองทุนของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้หมุนไม่ทันจริงๆ ครับ โปรเจกต์งานก่อนหน้านี้ของท่านยังไม่มีทุนกลับมาเลย ตอนนี้ไม่มีเงินที่จะดำเนินโปรเจกต์ใหม่จริงๆ ครับ”
“อีกอย่าง ตามการหมุนเวียนของกองทุนก่อนหน้านี้ในบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป รวมถึงกองทุนที่อยู่ต่างประเทศด้วยครับ แต่เป็นเพราะว่าบริษัทที่อยู่ต่างประเทศยังมีกองทุนที่เป็นลี่จุนซินดูแลควบคุมทั้งหมด อำนาจเงินเดือนที่เธอควบคุมกับอำนาจที่ลี่จุนถิงควบคุมนั้นแบ่งแยกกันครับ”
“ก่อนหน้านี้ ท่านไม่ได้คิดหาวิธีเข้าร่วมกับบริษัทของพวกเขา กองทุนต่างประเทศในตอนนี้ก็ไม่สามารถหมุนเวียนได้ครับ ถ้าหากทางลี่จุนซินไม่ปล่อยปาก ก็ไม่มีวิธีอื่นเลยครับ”
ลี่หุยท้อแท้มาก ด่าทอลี่จุนซินไม่หยุดเลย
“ลี่จุนซินยัยผู้หญิงบ้า ไปแล้วยังทำเรื่องแบบนี้กับฉันอีก ทำไมตอนที่เธอไปไม่มีใครบอกเรื่องพวกนี้กับฉันเลย พวกนายก็เป็นเหมือนตัวไร้สาระ ไม่ใช่ให้พวกนายไปทำความเข้าใจกับสินทรัพย์ของพวกเขาให้ชัดเจนเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ลี่หุยได้ให้คนของตัวเองไปตรวจสอบทรัพย์สินของบ้านพวกเขา ปรากฏว่าจนถึงตอนนี้ยังตรวจสอบไม่ชัดเจน ลี่หุยสงสัยมากว่าภายใต้ชื่อของลี่จุนซินยังมีทรัพย์สินและบริษัทอื่นๆ อีก
ที่จริงแล้วมีจุดหนึ่งที่ลี่หุยคิดถูกแล้ว ภายใต้ชื่อของลี่จุนซินยังมีของอีกมากมายที่เยอะกว่าที่เขาคิด เพราะว่าอยู่ในประเทศลี่จุนซินถูกลี่หุยกดทับในทุกๆที่ แต่ว่าอำนาจนอกประเทศนั้น ใหญ่กว่าลี่หุยเยอะมาก แม้กระทั่งลี่จุนถิงก็สู้ไม่ไหว ดังนั้นอำนาจของลี่หุยที่อยู่ต่างประเทศ อยู่ต่อหน้าลี่จุนซินก็เป็นเพียงแค่ชิ้นเล็กๆ
ไม่ว่ายังไงแล้ว ลี่จุนซินก็จบจากเอกการเงินและเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง ยังจบด้วยผลการเรียนที่ดีเยี่ยม อีกอย่างพอเธอจบแล้วก็ช่วยลี่จุนถิงจัดการกับธุรกิจที่อยู่ต่างประเทศมาโดยตลอด
หลังจากที่ลี่จุนถิงสามารถยืนนิ่งในประเทศแล้ว ก็เริ่มเปิดธุรกิจที่ต่างประเทศ ในตอนแรก ลี่จุนถิงอยู่ต่างประเทศไม่ได้มีเส้นสายอะไร ก็ยังเป็นลี่จุนซินที่ช่วยเหลือเขาสร้างบริษัทต่างประเทศขึ้นมา
ต่อมาลี่จุนถิงใช้ชื่อของตัวเองสร้างบริษัทไปหลายบริษัทมาก เพื่อที่จะขอบคุณลี่จุนซินที่ช่วยเหลือเขา ดังนั้นจึงโอนย้ายสองสามบริษัทไปให้เขา ต่อ เพราะว่าลี่จุนซินคิดถึงบ้าน ก็เลยกลับมาที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป แต่ว่าธุรกิจต่างๆ และกองทุนต่างๆ ที่ต่างประเทศต่างก็เป็นเธอที่ควบคุม
ดังนั้น ตอนนี้ลี่จุนซินออกจากบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ลี่หุยก็ไม่มีวิธีอื่น ถึงแม้ว่าลี่จุนซินจะอยู่ ก็ไม่มีช่วยเหลือเขา
ลี่หุยคิดไปคิดมา ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เขาหาผู้ช่วยมาปรึกษาแผนการ ผู้ช่วยก็ไม่มีวิธีอื่น
“ปกติเธอมีความคิดเห็นเยอะที่สุดแล้ว รีบคิดให้ฉันหน่อยว่าตอนนี้ยังมีวิธีอะไรอีก” ลี่หุยคิดไปคิดมาจนหงุดหงิด
ผู้ช่วยคิดหน้าคิดหลัง เครียดมากเช่นกัน แต่ว่าเวลานี้ในเมื่อเจ้านายถามเขาแล้ว เขาก็ได้แต่หน้าด้านออกความเห็นไป
“หรือว่าเราไปกู้เงินกับธนาคารไหมครับ?”
“พวกเรายืมมามากมายขนาดนั้นแล้ว ยังยืมได้อีกเหรอ?”
“ถึงแม้ว่าเราจะยืมมาเยอะขนาดนั้น แต่ว่าก็คืนไปส่วนหนึ่งแล้วนิครับ น่าจะสามารถกู้ได้อีกนะครับ แต่ก็อาจจะเสียแรงหน่อย ประธานลี่ ท่านรู้จักผู้คนมากมายขนาดนั้น ต้องมีวิธีแก้ไขแน่นอนครับ”
ลี่หุยพยักหน้า แต่ว่าในใจก็กำลังลังเลอยู่ จากนั้นก็ให้ลี่หยูนห่วนไปถามธนาคารดู
ในตอนที่ลี่หยูนห่วนกลับมา สีหน้าหนักแน่นมาก
“ผมลองไปถามคนรู้จักมาแล้ว พวกเขาบอกว่าตอนนี้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปยืมไปเยอะมาก ถึงแม้ว่าจะคืนไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ว่ายังไม่พอ ดังนั้นธนาคารไม่มีทางกู้ให้เราแล้วครับ”
“แต่ว่า เขาบอกว่า ตอนนี้ตอนนี้เราสามารถใช้ทรัพย์สินส่วนตัวของเราในการจำนองได้เท่านั้น จึงจะสามารถช่วยเหลือในการกู้เงินได้ ดังนั้น ท่านว่า……”
ลี่หุยยิ้มเลย ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วหมุนรอบตัวลี่หยูนห่วนไปทีหนึ่ง
“ลี่หยูนห่วน นี่คงจะเป็นนายที่ต้องช่วยบริษัทออกแรงแล้วแหละ”
จู่ๆ ลี่หยูนห่วนก็รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี