Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 693 โกรธเจียนตายเพราะเขา
ในประเทศ พวกลี่หุยเห็นว่าลี่เจี้ยนหวาทำอะไรลี่จุนซินไม่ได้ เลยยอมแพ้กับวิธีนี้ไป
ไร้ทางเลือก เพราะลี่หุยยังใช้หุ้นในการค้ำประกัน แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครอยากเอามาเสี่ยงแล้ว ทุกคนเลยไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
“แล้วอย่างนี้พวกเราจะบอกกับเหล่าผู้ถือหุ้นอย่างไรเหรอ เดี๋ยวก็จะมีการประชุมในวันจันทร์อีกแล้ว ถ้าพวกเขารู้ พวกเราต้องจบเห่แน่นอน”
ตอนนี้ลี่เจี้ยนหวาเศร้าใจเป็นอย่างมาก ที่ตัวเองช่วยอะไรไม่ได้เลย ลูกสาวเองก็ไม่ยอมให้อภัย
“ไม่ได้ เรื่องนี้จะให้เหล่าผู้ถือหุ้นรู้ไม่ได้ รีบปิดข่าวเร็ว ปิดให้ได้นานที่สุด ถ้าเกิดพวกเราหาวิธีได้ จะได้เงินทุนนะ”
ลี่หุยรีบกำชับผู้ช่วย บอกให้เขาไปเตือนคนที่รู้เรื่องนี้
ลี่หุยอยากจะปิดเรื่องนี้ให้ได้นานที่สด แต่ไม่มีอะไรต้านทางได้ในโลกนี้ ยิ่งยื้อ เรื่องก็ยิ่งวุ่นวาย
นักธุรกิจที่ร่วมมือกับบริษัทลี่ซื่อ หลังจากที่บริษัทลี่ซื่อหยุดการทำโปรเจคไป ตอนแรกก็ยังฟังลี่หุยอยู่บ้าง เพราะคิดว่าอีกไม่นานจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ
แต่ว่านี่มันสองสามวันแล้ว ยังไม่มีทางกระทำอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย บริษัทที่ร่วมมือต่างๆ ก็เริ่มไม่สบอารมณ์ เพราะรู้แล้วว่า นอกจากสี่โปรเจคนั้น ก็หยุดไปหมดเลย
พวกเขาเพิ่งจะรู้ ว่าลี่หุยนั้นหลอกพวกเขาตั้งแต่แรก เลยมาหาลี่หุยเพื่อหาคำตอบ เมื่อเรื่องมันไม่สามารถจัดการได้ สุดท้าย พวกเขาเลยปิดเรื่องนี้กับผู้ถือหุ้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
เพราะเรื่องนี้ เหล่าผู้ถือหุ้นเลยไม่พอใจลี่หุยจนถึงขีดสุด
วันนี้ ทุกอาทิตย์จะมีการประชุม เหล่าผู้ถือหุ้นเลยตัดสินใจที่จะรวมตัวกันเพื่อคุยเกี่ยวกับลี่หุย
“ประธานลี่ คุณอธิบายให้พวกเราเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้หน่อยได้ไหม?”
ลี่หุยคิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะเริ่มประชุม เหล่าผู้ถือหุ้นก็เริ่มถามเขาเลย แต่ว่าเขายังพยายามควบคุมตัวเอง ให้ตัวเองดูใจเย็นที่สุด
“ก็เหมือนที่พวกคุณเห็นน่ะ แต่พวกคุณวางใจเถอะ เพราะสถานการณ์นี้มันจะอยู่อีกไม่นาน เดี๋ยวก็จะดีขึ้นเอง”
ถึงแม้ว่าในใจของลี่หุยจะตื่นตระหนก แต่ว่ายังมีท่าทีนิ่งเฉย ดูมั่นใจเป็นอย่างมาก แถมยังเริ่มพูดโม้ออกมาอีกด้วย
“ไม่นานงั้นเหรอ?คุณพูดอย่างดี คุณคิดว่าจะปิดบังพวกเราไปได้สักกี่วัน ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่เกิดเรื่องนี้ คุณควรจะบอกพวกเรา แล้วทุกคนจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา สุดท้าย คุณไม่ยอมบอกพวกเรา แถมยังหาวิธีปิดบังพวกเราอีก”
“คุณคิดว่า บริษัทนี้ชื่อบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป แล้วเป็นของคนสกุลลี่เท่านั้นเหรอ คุณใสซื่อจริงๆ เลย”
“พวกเราก็คิดหาวิธีมานานแล้ว อีกอย่างพวกเราเองก็ไปหาลี่จุนซินแล้ว เธอดูแลส่วนของต่างประเทศ การโยกย้ายเงินทุนของต่างประเทศก็อยู่ในมือของเธอ พวกเราลองมามากแล้ว เพราะอยากให้เธอช่วย แต่เธอก็ไม่ยอม”
“นั่นมันไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว เพราะเธอไม่ยอมช่วยบริษัทลี่ซื่อให้ผ่านปัญหานี้ไปได้”
ลี่หุยยักไหล่พลางยกมือสูง เพื่อบอกว่าตัวเองนั้นไม่รู้เรื่องอะไร และพยายามจะผลักเรื่องนี้ไปให้ลี่จุนซิน จากนั้นก็ให้คนพวกนี้ไปกดดันลี่จุนซิน แล้วก็เอาเงินโยกย้ายมา
แต่ว่า มันชัดเจนว่าคนพวกนี้อยู่ในวงการธุรกิจมานาน จะมองไม่ออกได้อย่างไรว่าความคิดของลี่หุยนั้นคืออะไร
“ลี่จุนซินไม่ช่วยก็ถูกแล้ว ตอนแรกที่คุณบังคับให้เธอออกไป ทำไมไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ตอนนี้มาบ่นเธออีก”
“ตอนแรก คุณบอกกับพวกเราอย่างมั่นใจ ว่าหลังจากที่คุณมาคุมบริษัทลี่ซื่อแล้ว จะจัดการให้พวกเราอย่างดี แล้วตอนนี้ล่ะ ไม่เพียงแต่ไม่ทำประโยชน์ให้ แต่ยังทำให้บริษัทกลายเป็นแบบนี้อีก อีกอย่างพวกเราเองก็คิดไม่ถึง ว่าคุณจะทำอะไรสิ้นคิด โดยการไล่ลี่จุนซินออกไป”
“คุณมองว่าตัวเองเก่งเกินไปแล้ว คุณคิดว่าตัวเองมานั่งอยู่ตรงนี้ แล้วจะคุมอะไรก็ได้งั้นเหรอ ไม่ฉลาดเลย ฉันจะบอกคุณให้นะ ความสามารถของคุณเทียบกับลี่จุนซินไม่ได้เลย”
“คุณคิดว่าคุณเป็นคนสกุลลี่ แล้วจะเหมือนกับลี่จุนถิงกับลี่จุนซินงั้นเหรอ พวกเขาทั้งสองคนมีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจ คุณน่ะ เหอะ ตอนนี้เหมือนเป็นแค่เศษสวะ เอาแต่มองผลประโยชน์ตรงหน้า ไม่มองการณ์ไกลเลย”
ผู้ถือหุ้นพูดกันไปต่างๆ นานา จนลี่หุยโกรธเป็นอย่างมาก แต่ว่าเขาต้องอดทนให้ได้
“คุณเทียบกับลี่จุนถิงไม่ติดเลยจริงๆ ถ้าเกิดเป็นตอนนี้ ลี่จุนถิงจะต้องจัดการได้แน่ ไม่สิ ถ้าเกิดเป็นลี่จุนถิง เขาจะไม่มีทางให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้”
“ตอนแรกพวกเราตาบอดเอง ทำไมถึงคิดว่าคุณจะสู้ลี่จุนถิงได้นะ เห้อ จริงๆ เลย อายุขนาดนี้แล้ว ยังฝากไว้กับเศษสวะอย่างคุณ”
“ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอะไรแล้ว ทำได้เพียงโยกย้ายเงินจากต่างประเทศเท่านั้น ในเมื่อคุณเป็นคนไล่ลี่จุนซินออกไป งั้น คุณก็ต้องไปพาเธอกลับมา”
ลี่หุยอันที่จริงเองก็รู้ ว่าเรื่องนี้เขาวู่วามมากเกินไป โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา เหล่าผู้ถือหุ้นพูดแบบนี้ก็ไม่แปลก แต่ว่าพวกเขาบอกว่าเขาเทียบกับลี่จุนถิงไม่ติด แถมยังให้เขาทิ้งศักดิ์ศรี แล้วไปพาลี่จุนซินกลับมา
ลี่หุยหน้าดำคร่ำเครียด “ฉันไม่เห็นด้วย ฉันไม่ไป พวกคุณให้ฉันไปพานังนั่นกลับมา มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าจะไปพวกคุณก็ไปเองสิ”
ยังดี ที่วันนี้ลี่เจี้ยนหวาไม่ค่อยสบาย เลยไม่ได้มาร่วมงานประชุม ไม่อย่างนั้นถ้าได้ฟังลี่หุยด่าลี่จุนซินอีก คงจะโกรธมาก
เหล่าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ได้ยินเขาพูดดังนั้นก็ยิ่งไม่พอใจ “คุณก่อเรื่องขึ้นมาเอง แน่นอนว่าคุณต้องชดใช้ ทำไมคุณเป็นแบบนี้ คุณจะพังบริษัทลี่ซื่อลงจริงๆ เหรอ”
ลี่หุยยังอยากจะขัดพวกเขา แต่ลี่หยูนห่วนดึงเอาไว้ ลี่หุยก็ยังสะบัดลี่หยูนห่วนออก
“คุณมาดึงฉันทำไม?”
ลี่หยูนห่วนส่งสายตาให้ลี่หุย เพื่อบอกให้เขาใจเย็นลง
“ลุงทุกท่าน เมื่อครู่ลี่หุยไม่เคารพพวกคุณ ฉันต้องขอโทษแทนเขาด้วย พวกคุณพูดถูก พวกเราจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้เร็วที่สุด แล้วไปต่างประเทศเพื่อพาพี่สาวกลับมา”
“ช่วงนี้ ต้องรบกวนลุงๆ ทุกท่านรออยู่ในบริษัทต่อเถอะนะ”
ท่าทางของลี่หยูนห่วนนั้นอ่อนน้อมมาก ผู้ถือหุ้นเห็นดังนั้นก็หายโกรธ ลี่เจี้ยนเย่เห็นดังนั้น เลยช่วยลูกชายของตัวเองพูด
“พวกพ้องทุกคนวางใจเถอะ ฉันจะไปกับลูกชาย แล้วจะพาพี่ชายของฉันกลับมาด้วย พวกเราจะต้องพาหลานสาวกลับมาให้ได้”
เมื่อการประชุมจบลง พวกลี่หุยกับลี่หยูนห่วนก็กลับบ้านด้วยกัน ก่อนจะเก็บกระเป๋า แล้วเตรียมขึ้นไฟลท์ที่ใกล้ที่สุด เพื่อบินไปหาลี่จุนซิน
พวกเขาพาลี่เจี้ยนหวาไปด้วย จะได้นัดลี่จุนซินหรือโม่เสี่ยวฮุ่ยออกมาได้ง่ายๆ ถึงอย่างไรพวกเขาก็เคยอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี
แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยของบริษัท เลยไม่ได้ให้พ่อของลี่หยูนห่วนไปด้วย และให้เขาอยู่ในบริษัทภายในประเทศ
หลังจากที่ทั้งสามคนเก็บของเสร็จ ก็ไปต่างประเทศ