Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่ - บทที่ 94 แผนร้ายสำเร็จ
บทที่ 94 แผนร้ายสำเร็จ
พอเห็นว่าคุณหมอยอมรับปาก เจียงหยุนเอ๋อถึงได้สบายใจขึ้นบ้างเล็กน้อย
แต่แป๊บเดียวเธอก็นึกได้ว่ายังมีอีกหนึ่งปัญหาที่ยังกองเอาไว้อยู่ตรงหน้าเธอ ตั้งแต่ที่อยู่ๆภายในบ้านของเธอก็ถูกติดกล้องวงจรปิดโดยไม่ทราบสาเหตุ เธอก็เลยย้ายไปอยู่ที่วิลล่าของลี่จุนถิง
ถ้าเป็นบ้านของเธอเองก็จบไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้เธออาศัยอยู่ในบ้านของลี่จุนถิงถ้าให้แม่ของตัวเองย้ายไปด้วย….ดูแล้วแบบนี้ก็ดูจะรบกวนลี่จุนถิงมากไปจริงๆ
หลังจากที่คิดอยู่นานสองนาน เจียงหยุนเอ๋อก็โทรหาลี่จุนถิง แค่แป๊บเดียวลี่จุนถิงก็รับโทรศัพท์ น้ำเสียงนุ่มทุ้มกังวานดังออกมาจากโทรศัพท์ “สวัสดีครับ”
“ฮัลโหล ลี่จุนถิงฉันมีเรื่อง….ที่อยากจะปรึกษากับคุณค่ะ…..” เจียงหยุนเอ๋อพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงลอยๆ
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วเบาๆ แล้วถามขึ้น “อืม? มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“ฉันจะรับแม่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ ช่วงนี้ขออยู่ในบ้านของคุณก่อนได้ไหมคะ? คุณวางใจได้ พอหลังจากนี้ฉันหาที่อยู่ใหม่ได้ ฉันจะรีบย้ายออกไปทันที จะไม่รบกวนคุณแน่นอนค่ะ….” เจียงหยุนเอ๋อพูดขึ้นทั้งที่ภายในใจกังวลเป็นอย่างมาก
“ตามสบาย แต่ว่า….หลังจากนี้ก็ไม่ต้องย้ายไปไหนแล้ว อยู่ที่บ้านผมนี่แหละ” พูดจบลี่จุนถิงก็วางสายในทันที
เจียงหยุนเอ๋อมองโทรศัพท์อย่างอึ้งๆ แต่ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกี้….. ลี่จุนถิงพูดว่าอะไรนะ? ให้ตัวเธออยู่ต่อไปเรื่อย? ใช่ความหมายแบบที่ตัวเธอคิดหรือเปล่า?
เธอยืนเหม่ออยู่ที่เดิมอยู่นาน ถึงค่อยยกมือขึ้นมาทาบไว้บนหน้าอกของตัวเอง แล้วค่อยๆเดินกลับไปยังห้องพักผู้ป่วย เตรียมจะเก็บของ
เรื่องที่ทำให้เจียงหยุนเอ๋อดีใจมากก็คือ หลังจากที่ซูม่านลีมาอยู่ในบ้านของลี่จุนถิงแล้ว เธอเองก็ดูคุ้นเคย ไม่ได้มีท่าทางว่าไม่ชินกับอะไรตรงไหน
แต่ว่าอีกด้านหนึ่ง นี่ก็ทำให้เธอคิดว่าตัวเองนั้นติดหนี้ลี่จุนถิงครั้งใหญ่ ตอนแรกก็ติดหนี้เขาเอาไว้ตั้งมากมายอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ถึงกับพาคนในบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่กันหมด……..
ก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในวิลล่า เจียงเย่เฉิงโทรหาเจียงหยุนเอ๋อ ดูแล้วเรื่องวันก่อนยังไม่ทำให้เขาถอดใจง่ายๆ
ตอนเห็นเบอร์ที่แสดงบนจอโทรศัพท์ ความโกรธของเจียงหยุนเอ๋อก็สุมเป็นไฟอยู่ข้างใน ดังนั้นเธอเลยไม่มีอารมณ์จะรับโทรศัพท์ และกดตัดสายทิ้งโดยไม่ลังเล
เจียงเย่เฉิงเองก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยังพยายามโทรศัพท์หาเจียงหยุนเอ๋อ สุดท้ายเจียงหยุนเอ๋อก็รับโทรศัพท์ด้วยความรำคาญ ถามขึ้นอย่างอารมณ์เสีย “นี่คุณคิดจะทำอะไรอีก?”
ฝั่งเจียงเย่เฉิงนั้นมีน้ำเสียงแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เข้าดูอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นละมุนละม่อม “หยุนเอ๋อ ชีวิตนี้พ่อเป็นหนี้พวกเธอสองแม่ลูกมากเกินไปแล้ว….ตอนนี้ตั้งใจอยากจะชดเชยให้…..บางทีก็คงไม่ทันแล้วใช่ไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ว่าเจียงเย่เฉิงต้องการอะไรอีก จึงพูดไปอย่างไม่แยแส “เจียงเย่เฉิง คุณไม่ต้องมาใช้คำพูดเห็นใจสวยหรูพวกนี้หรอก ฉันจะบอกคุณให้นะ ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น คุณรู้แค่ว่าฉันไม่มีทางยกโทษให้คุณก็พอแล้ว และช่วยเลิกรังควานฉันสักที”
“เห้อ……” เจียงเย่เฉิงถอนหายใจเบาๆ “พ่อรู้ ลูกไม่อยากจะช่วยพ่อ เพราะว่าในใจคงยังโทษพ่ออยู่ ตอนนี้พ่อเองก็คิดได้แล้ว ลูกทำกับพ่อแบบนี้ก็สมควรแล้ว”
“คุณคิดได้ก็ดี” เจียงหยุนเอ๋อทำเสียงขึ้นจมูก “ถ้าเกิดคุณอยากจะพูดกับฉันแค่นี้ ขอโทษด้วย ฉันฟังมามากพอแล้ว”
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อกำลังจะวางสาย เจียงเย่เฉิงก็เรียกชื่อเธอด้วยความรีบร้อน “หยุนเอ๋อ ลูกอย่าเพิ่งรีบวางสาย ถึงแม้ว่าตอนนี้พ่อจะติดหนี้อยู่จำนวนมาก แต่ว่าตามสิทธิ์ของผู้รับมรดก ลูกเองก็มีส่วนได้ในผลประโยชน์”
พูดจบ เขาราวกับกลัวว่าเจียงหยุนเอ๋อจะปฏิเสธอีก เลยรีบพูดขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค “ลูกรีบๆมา เซ็นสัญญาให้เรียบร้อย พอเซ็นเรียบร้อยแล้ว พ่อเองก็จะไปจากที่นี่แล้วเหมือนกัน…..”
พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเจียงเย่เฉิงก็สั่นเครือ ตอนแรกเริ่มก็ดูพยายามจะกลบเกลื่อนเอาไว้ แต่ตอนหลังก็ปล่อยไปตามอารมณ์ตัวเอง
ถึงเจียงหยุนเอ๋อจะใจแข็งไม่สงสารเจียงเย่เฉิงอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าพอได้ยินแบบนี้ ก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้ “ตกลงคุณเป็นอะไรกันแน่?”
“ไม่มีอะไร” อารมณ์ของเจียงเย่เฉิงเหมือนจะกลับมาคงที่แล้ว “หยุนเอ๋อ พ่อรู้ว่าลูกไม่ไว้ใจพ่อ แต่ว่าวันนี้เอกสารฉบับนี้ ลูกจำเป็นที่จะต้องมาเซ็นจริงๆ พ่อเรียกทนายมาเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้พ่อเองก็จะไม่บังคับอะไรลูกแล้ว”
“ต้องไปเจอที่ไหน?” เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
เจียงเย่เฉิงเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อยอมถอย เลยรีบพูดขึ้น “ที่อาคารเทียนหวาในเมืองนี่แหละ”
อาคารเทียนหวาอยู่ตรงจุดที่เจริญที่สุดในเมือง ห่างจากที่ทานของเจียงหยุนเอ๋อไม่ไกลมาก เจียงหยุนเอ๋อลองพิจารณาดูดีๆอีกครั้ง คิดว่าในสถานที่แบบนั้นเจียงเย่เฉิงคงไม่กล้าที่จะก่อเรื่องอะไรหรอก อีกอย่าง….ยังมีทนายอยู่ด้วย
หลังจากคิดไปคิดมา เจียงหยุนเอ๋อก็ตอบตกลงคำเชิญของเจียงเย่เฉิง ตัดสินใจที่จะไปพบเขาเป็นครั้งสุดท้าย ยังไงเสีย……ทั้งหมดนี่ก็เป็นสิ่งที่เจียงเย่เฉิงติดค้างเธออยู่ เธอเองก็ต้องเอามันกลับมา
หลังจากถึงที่ที่นัดกันเอาไว้ เห็นแล้วว่ามีทนายอยู่ด้วยจริงๆ ความระแวดระวังของเจียงหยุนเอ๋อเองก็ลดลงไปด้วย
เดินมานั่งลงตรงหน้าของเจียงเย่เฉิงเจียงหยุนเอ๋อปรายตามองเขาแบนหนึ่ง รู้สึกได้ว่าเขาดูอ่อนแอกว่าครั้งที่แล้วที่เจอ
เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นคนที่เริ่มพูดก่อน แค่ได้ยินเจียงเย่เฉิงพูดกับทนายว่า “โอเค หยุนเอ๋อมาแล้ว คุณช่วยบอกสถานการณ์ตอนนี้บอกให้เธอฟังแบบละเอียดด้วย”
ทนายที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เริ่มพูดขึ้น “เป็นอย่างนี้ครับ ตอนนี้ทรัพย์สินของบริษัทเจียงซื่อหลังจากที่ใช้หนี้กับอีกบริษัทที่เหลืออยู่จนหมดเรียบร้อยแล้ว เงินสดที่เหลืออยู่แล้วก็อสังหาริมทรัพย์ ตามพินัยกรรม คุณหนูเจียงหยุนเอ๋อจะได้รับเป็นจำนวนยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด”
พูดจบ ทนายก็ส่งเอกสารหนึ่งฉบับให้กับเจียงหยุนเอ๋อ “ในเอกสารฉบับนี้จะเขียนเนื้อความที่ละเอียดเอาไว้ครับ ถ้าคุณหนูเจียงอ่านจบแล้วไม่มีข้อโต้แย้งอะไรก็สามารถเซ็นชื่อได้เลยครับ พอเซ็นชื่อเสร็จเรียบร้อย ข้อตกลงก็จะมีผลในทันที”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อรับเอกสารฉบับนั้นมา แล้วเริ่มอ่านอย่างละเอียด ในใจของเธอก็ยังคงกังวลว่าเจียงเย่เฉิงจะมีลูกไม้อะไรแอบซ่อนไว้อีกหรือเปล่า
อยู่ๆเจียงเย่เฉิงก็กระแอมออกมา เจียงหยุนเอ๋อเหลือกตามองเขาเล็กน้อย เขารีบยกเหยือกน้ำมารินลงในแก้วตัวเอง แล้วก็รินให้กับเจียงหยุนเอ๋อด้วย
เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ใส่ใจ แล้วก็กลับมาสนใจเอกสารต่อ ในตอนที่เธอกำลังอ่านเอกสารไปด้วยนั้น เธอก็หยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบ
หลังจากที่เซ็นเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทนายยังคงยืนอธิบายรายละเอียดอีกยาวยืด แต่เจียงหยุนเอ๋อกลับรู้สึกว่าหัวตัวเองเริ่มหนักขึ้นและสายตาตัวเองก็เริ่มพร่ามัว
เธอรีบหันไปมองแก้วน้ำใบนั้น แล้วก็นึกอะไรออกได้ในทันที
เจียงหยุนเอ๋อตกใจ สติเริ่มพร่าเลือน ตอนที่เธอเงยหน้ามองเจียงเย่เฉิง หัวของเธอก็แทบจะยกขึ้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เห็นเพียงแค่รอยยิ้มได้ใจของเจียงเย่เฉิงหลังจากที่แผนร้ายของตัวเองประสบความสำเร็จ
และข้างหลังของเจียงเย่เฉิง เจียงหนิงเอ๋อกับฝู้ชูเหมยก็ค่อยๆปรากฏตัวขึ้น