Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 129
ตอนที่ 129 แค่เรื่องบังเอิญ
ก่อนที่เธอจะจากไปอีเดนยืนมองไปยังโรมแรมที่สูงตระหง่านอยู่ข้างหน้าของเธอด้วยความมั่นคง เพราะว่าสิ่งที่เธอได้รับในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความฝันสําหรับเธอ
“เลขาอย่างงั้นหรอ ?”
อีเดนพึมพําขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินหันหลังจากไป
ในฐานะที่เธอเป็นคนโสด ดังนั้นเธอก็เลยซื้ออพาร์ตเมนต์เอาไว้ในนิวยอร์ค ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ก็ตาม
ซึ่งอพาร์ตเมนต์แห่งนี้มันก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในห้องอย่างครบครัน และถึงแม้ว่าเธอจะซื้อวิลล่าก็ได้แต่เธอก็คิดว่ามันจะใหญ่เกินไป บวกกับอาการเหงาที่จะต้องอยู่บ้านเพียงคนเดียว ? ดังนั้นเธอก็เลยบ้านที่มันมีสถานที่พอดีกับการอาศัยอยู่คนเดียว แถมมันยังทําให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นอีกด้วย!
หลังจากที่เธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็นอนคว่ําหน้าลงบนที่นอนพร้อมกับเอาคางวางลงบนหมอน และค่อยๆพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอของซู่เจิน
ตัวของเธอนั้นไม่มีเป้าหมายอะไรเลย เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ ชีวิตช่างไม่มีความหมายเลย บางทีจะตามเขาไปดีไหมนะ ? ไม่แน่ว่าอาจจะเจออะไรใหม่ๆก็ได้ และถ้าเกิดว่ารู้สึกเบื่อกับการอยู่กับเขาขึ้นมา เธอก็แค่ลาออกมาก็เท่านั้น ? ดูไปดูมาเขาก็ไม่ใช่คนที่ดูใจร้ายอีกด้วย ….
“แครก! แครก!”
ในขณะที่อีเดนกําลังนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางประตูห้อง เสียงมันเหมือนกับว่ากําลังมีใครบางคนกําลังงัดประตูห้องของเธออยู่ ทําให้เธอชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ตื่นตระหนก ซึ่งเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่มันกล้าหาญกล้ามาขโมยของในห้องของเธอ
เสียงของการงัดแงะดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นประตูมันก็เปิดออกมาเล็กน้อย ทําให้มันสามารถเปิดเข้ามาได้ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกันอีเดนก็คิดเกี่ยวกับเรื่องที่ซู่เจินได้เคยพูดไว้ขึ้นมา เกี่ยวกับเรื่องของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า เซอร์ร่า เขามีความสามารถในการแย่งชิงความสามารถจากฆ่าคนที่มีความสามารถพิเศษ ถึงแม้ว่าอีเดนจะคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เธอก็รู้แล้วว่าคนๆนี้ที่ซู่เจินได้ พูดถึงเขาได้มาอยู่หน้าประตูห้องของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น … เธอก็ยังไม่เชื่อทั้งหมด ทําให้เธอค่อยๆเดินไปที่ประตูห้องนอนโดยใช้เสียงให้เบาที่สุดพร้อมกับบิดประตูและมองผ่านตาแมว
“ตูม!”
ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างรุนแรง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ค่อยๆเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
เขาก็คือ เซอร์ร่า!
เซอร์ร่ามองไปรอบๆ หลังจากที่เขาเดินเข้ามาภายในห้อง และเขาก็รีบเลื่อนสายตาของเขาไปที่ห้องนอนทันที
“แกรก!”
อีเดนรีบล็อคประตูห้องนอนของเธออย่างรวดเร็วพร้อมกับถามขึ้นมาเบาๆว่า “คุณเป็นใคร … มาที่บ้านของฉันทําไม!”
เซอร์ร่าไม่ได้ตอบ แต่เขาค่อยๆใช้พลังจิตของเขาควบคุมโคมไฟและโซฟาที่อยู่ข้างๆให้ลอยไปกระแทกที่ประตูห้องนอน
“บัง!” “บัง!” “ปัง!”
ประตูห้องนอนถูกกระแทกอย่างรุนแรง แต่ถึงอย่างนั้นอีเดนก็ยังถามขึ้นมาด้วยน้ําเสียงอันหนักแน่นว่า “คุณคือเซอร์ร่า ?”
เสียงการกระแทกเงียบหายไป พร้อมกับค่อยๆมีเสียงของเซอร์ร่าดังขึ้นมาว่า “คุณรู้จักฉัน? เขาคงจะบอกเรื่องของฉันกับคุณแล้วสินะ … แล้วทําไมเขาถึงไม่พาคุณไปด้วย ? คุณบอกฉันหน่อยได้ไหมว่ามันเพราะอะไร ?”
“ใช่ เขาบอกเรื่องของคุณกับฉันแล้ว ดังนั้นตอนนี้คุณควรที่จะรีบออกไปจากที่นี่ทันที เพราะว่าตอนนี้เขาเป็นเจ้านายของฉัน ถ้าฉันบอกให้เขารู้ล่ะก็ เขาจะไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่!”
“คุณควรออกไปจากที่นี่แล้วไปหาอะไรดื่ม บางที… สิ่งนี้มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณต้องการก็ได้”
อีเดนพยายามพูดขู่ให้เขากลัวพร้อมกับสะกดจิตเขาไปในตัว
ถึงแม้ว่าความสามารถในการสะกดจิตของเธอมันจะสามารถใช้ออกมาได้รวดเร็วมาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้สําเร็จในทันที เพราะว่ามันจะต้องใช้เวลา
“คุณกําลังพยายามที่จะสะกดจิตฉันอยู่อย่างงั้นหรอ? มันไม่มีประโยชน์หรอกนะ ”
เพราะว่าตอนนี้เซอร์ร่าได้เตรียมความพร้อมมาอย่างดี โดยการใส่หูฟังเอาไว้ทั้งสองข้าง ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถปิดกั้นเสียงจากภายนอกได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันก็ช่วยลดผลของการสะกดจิตของเธอไปได้อย่างมหาศาล ในขณะเดียวกันเซอร์ราก็เริ่มลงมืออีกครั้งหนึ่ง
เสียงกระแทกเริ่มดังขึ้นมาที่ประตูห้องนอนของเธออีกครั้งหนึ่ง
หลังจากประตูห้องนอนโดนกระแทกไปได้ไม่นานมันก็ถูกเปิดห้อง พร้อมกับโซฟาที่ลอยเข้าไปกระแทกกับผนังภายในห้องนอนอย่างรุนแรง ทําให้อีเดนถึงกับเดินถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว และรีบไปซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าที่ชั่วร้ายของเซอร์ร่าที่กําลังเดินเข้ามาในห้องของเธออย่างช้าๆ
และเมื่อเธอสังเกตเห็นหูฟังที่เซอร์ร่าใส่อยู่ เธอก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าเธอไม่สามารถสะกดจิตเขาได้อย่างแน่นอน
เซอร์ร่าเหยียดนิ้วของเขาไปทางอีเดน พร้อมกับขยับมันขึ้น ทันใดนั้นร่างของอีเดนก็ค่อยๆลอยขึ้น
“ดูเหมือนว่าเจ้านายของคุณจะไม่สามารถมาช่วยคุณได้ทันแล้วล่ะ ดังนั้นคุณมาให้ฉันตัดหัวของคุณเพื่อดูว่าความสามารถของคุณมันทํางานอย่างไรดีกว่า เพราะว่า …ความสามารถของคุณมันน่าสนใจมากเลยทีเดียว ความสามารถในการสะกดจิตคนอื่นด้วยเสียง!”
เซอร์ร่ายิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้ายพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าผากของอีเดน ซึ่งมันก็เทคนิคปกติของเขา ค่อยๆเจาะทะลุเนื้อหนังเข้าไปจนถึงสมองอย่างช้าๆ ส่วนทางด้านของอีเดนในตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอควรที่จะตอบตกลงกับซู่เจินไปตั้งแต่ที่เธออยู่ที่นั่น แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้มันก็สายไปแล้ว เพราะว่าเธอไม่สามารถทําอะไรได้เลย เบอร์โทรศัพท์ของซู่เจินเธอก็ไม่มี และถึงแม้ว่าเธอจะรู้เบอร์โทรศัพท์ของเขา เธอก็ไม่กล้าโทรหาเขาเพราะรู้สึกเกรงใจ บวกกับตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้วที่จะขอความช่วยเหลือ
“ฉันไม่รู้ว่าเขาจะรู้ไหมว่าเซอร์ร่าอยู่ที่นี่ หรือว่าเขาจะสามารถเอาชนะเซอร์ร่าได้หรือเปล่า
อีเดนไม่อยากคิดอะไรมากมาย และค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ
“ตูม!”
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกระแทกเข้ากับกําแพง ทําให้เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆด้วยความสงสัย พร้อมกับมองไปยังเซอร์ร่าด้วยความไม่อยากเชื่อ เพราะว่าตอนนี้เซอร์ร่ากําลังถูกพลังงานสีเขียวเข้มจับยึดติดกับผนั่งเอาไว้
“เจ้านาย ?”
อีเดนยังพบอีกว่าตอนนี้มีพลังงานสีเขียวเข้มยึดติดกับร่างกายของเธอเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เธอล้มลงกับพื้น ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับมองไปที่ซู่เจินที่กําลังเดินเข้ามาจากประตูอย่างช้าๆ
“ดูเหมือนว่าคุณจะตอบตกลงกับข้อเสนอของผมแล้วสินะ ?” ซู่เจินถามอีเดนขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ซู่เจินโบกมือของเขาเบา ๆ และค่อย ๆ วางตัวของอีเดนลงกับพื้นอย่างช้าๆอีเดนรีบเดินไปอยู่ข้างๆซู่เจินอย่างรวดเร็วและถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า “คุณมาที่นี่ได้ยังไง ? คุณรู้งั้นหรอว่าฉันกําลังตกอยู่ในอันตราย ?”
“มันเป็นเรื่องยากนะที่ผมจะหาเลขาที่ถูกใจได้ ดังนั้นผมจึงไม่อยากต้องไปไล่หาเลขาคนใหม่อีก!” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะว่าหลังจากที่อีเดนจากไปได้ไม่นาน ซู่เจินก็พบว่าร่างกายของเขามันฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับการที่เขาสามารถใช้ความสามารถขึ้นมาหนึ่งอย่างได้
ความสามารถในการหาตําแหน่ง
ดังนั้นเขาจึงสามารถหาตําแหน่งของอีเดนได้อย่างง่ายดาย และเมื่อเขาพบตําแหน่งของเธอแล้ว เขาก็สามารถหาเซอร์ร่าได้อย่างง่ายดาย และทันใดนั้นเขาก็พบว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่ในสถานที่เดียวกัน ทําให้เขารู้ได้ในทันทีเลยว่าตอนนี้อีเดนกําลังตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน เขาจึงรีบมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
และก็ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่ได้ทันเวลาพอดี
บวกกับท่าทางที่ตื่นเต้นของอีเดน ซู่เจินก็มั่นใจได้เลยว่าตําแหน่งเลขาของเขามันได้ถูกตัดสิ้นเรียบร้อยแล้ว
ซู่เจินหันไปมองเซอร์ร่าเล็กน้อย
“ผมรู้สึกชื่นชมคุณจริงๆ เพราะถ้าเกิดว่าผมเป็นคุณ ผมจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไกลๆอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วผมจะตัวคุณเจอก็ตาม แต่อย่างน้อยคุณก็ยังสามาถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกหนึ่งวัน เพราะถึงยังไงตอนนั้นผมก็จงจงปล่อยให้คุณวิ่งหนีไปเอง” ซู่เจินเงียบไปครู่หนึ่งและค่อยๆพูดขึ้นมาต่อว่า “ถ้าเกิดว่าผมต้องการจริงๆ คุณคิดหรอว่าจะวิ่งไปจากผมได้จริงไหม ?” ซู่เจินมองไปที่เซอร์ร่าด้วยความสนใจเล็กน้อย ซึ่งเซอร์ร่าก็กัดฟันดังกรอดพร้อมกับพยายามดิ้นรน ที่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ผล ทําให้เขาได้แต่อยู่นิ่งๆ และร้องขอความเมตตา