Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 148
ตอนที่ 148 ตามที่ขอ
แซมถึงกับเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะว่าคําพูดเมื่อกี้นี้ของซู่เจินมันได้ทะลุเข้าไปยังภายในหัวใจของเขา ซึ่งหลังจากที่เขาเกษียณออกมาจากกองทัพ ออกจากสนามรบ และห่างไกลจากอันตราย แถมยังมีหน้าที่การงานที่ดี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ตัวเองดีว่าเขาต้องการอะไรมากที่สุดภายในจิตใจของเขา
เมื่อเขารู้ว่ากัปตันอเมริกา หรือ สตีฟ โรเจอร์ส ได้ตื่นขึ้นมาจากการจําศีลภายในก้อนน้ำแข็ง และก้าวสู่สนามรบอีกครั้ง ต่อกับมนุษย์ต่างดาวและปกป้องผู้คน มันก็ทําให้แซมอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้จริง ๆ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นสนามรบที่แตกต่างกันก็ตาม
“ฉันคิดว่าก่อนแล้วว่าฉันควรจะทําอย่างไรดี เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสกลับไปยังสนามรบได้เหมือนกับกัปตันอเมริกา และสามารถเป็นทหารได้ต่อไปเหมือนกับเขา โดยมีศรัทธาที่เต็มเปี่ยมอยู่ภายในหัวใจ” แซมส่ายหัวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ศรัทธา ? คุณมีมันอยู่ในตัวเสมอ เพราะถ้าเกิดว่าทหารสูญเสียศรัทธาไป พวกเขาก็เปรียบเสมือนคนที่ตายไปแล้ว ซึ่งหลังจากที่ผมลองมองไปที่ตัวคุณในตอนนี้ ผมก็รู้ว่าคุณยังมีมันอยู่ และสิ่งที่คุณต้องการในตอนนี้ก็ คือโอกาส” ซู่เจินพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง ทําให้แซมค่อย ๆ เงยหน้ามองไปยังซ่เงิน เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทําไมซ่เงินถึงได้พูดกับเขาแบบนี้
“ผมสามารถให้โอกาสนั้นกับคุณได้!”
ซู่เจินมองดูไปที่แซมและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มต่อว่า “คุณยังจําที่ผมพูดได้ไหม ?”
แน่นอนว่าซู่เจินได้พูดไปเยอะมากเมื่อกี้นี้ แต่ถึงอย่างนั้นแซมก็รู้ดีว่าสิ่งที่ซ่เงินต้องการจะสื่อมันคืออะไร “ได้ทุกอย่าง ?”
“ใช่ ตามที่คุณต้องการ!”
“แถมผมยังได้ยินพวกคนในพูดกันว่า เขาจะให้คุณส่วนอุปกรณ์บางอย่างและนําคุณกลับมาสู่สนามรบครั้งในชื่อของ ฟอลคอน ?”
“คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ?” แซมมองไปที่ซู่เจินอย่างประหลาดใจ
ซู่เจินส่ายหัวและพูดว่า”เรื่องนี้มันไม่สําคัญ เพราะว่าสิ่งที่สําคัญจริง ๆ ก็คือคุณต้องการมันหรือไม่ ? โลกนี้มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณคิดหรอกนะ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเพียงแค่ทหารผ่านศึกและใช้อย่างสบาย ๆ ต่อไปโดยแสร้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็นหรือว่าคุณจะเลือกที่จะซูเปอร์ฮีโร่และต่อสู้เพื่อเจตจํานงของตัวคุณเองและ โลกใบนี้!”
“แน่นอนว่าผมยังไม่อยากได้คําตอบของคุณในตอนนี้ ผมจะไปรอคุณในที่ที่คุณควรจะมา และผมก็หวังว่าคุณจะรอผมเช่นกัน! “ซู่เจินตบไปที่ไหล่ของแซมเบา ๆ พร้อมกับร่างของเขาที่ค่อย ๆ บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
และก่อนที่เขาจะบินจากไป ขู่เจินก็เหลือบมองไปแซมด้วยความแปลกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็บินหายไปอย่างรวดเร็ว
แซมเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าเล็กน้อย และมองไปยังภาพของซู่เจินที่บินหายไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เริ่มคิดเกี่ยวกับตัวเอง ความรู้สึกของการบินอยู่บนท้องฟ้า และความรู้สึก…
ความรู้สึกของความแข็งแกร่ง … แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก ทําให้เลือดภายในร่างกายของแซมในตอนนี้เต็มไปด้วยความมุ่งพลาน
“ฟอลคอน!”
แซมพึมพําขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะกัดฟันและหันหลังเดินจากไป
มีฐานทัพลับแห่งหนึ่งซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานสําหรับการวิจัยและพัฒนาระบบการต่อสู้ทางอากาศซึ่งหลัง จากนั้นไม่นานโครงการนี้ก็ถูกยกเลิกและทําลายทิ้งไป
และสิ่งที่เหลืออยู่ก็คืออุปกรณ์ที่ช่วยในการบินที่มีปีกคล้าย ๆ กับเหยี่ยวเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่
แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้มันมา เพราะว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ประตูเหล็กหนาหลาย 10 เซนติเมตรเท่านั้น แต่มันยังมีคนที่คอยคุ้มกันอยู่มากมาย
ทําให้แซมมองไปที่ประตูเหล็กอันนั้นด้วยความกังวลเล็กน้อย
เขาเริ่มมีความคิดเช่นนี้ขึ้นมาก็ตั้งแต่ตอนที่เขาเจอกับกัปตันอเมริกา บวกกับคําพูดของซู่เจินที่กระตุ้นให้เขากระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ และเขาก็ตัดสินใจว่าเขาจะเป็นทหาร และบ้านของทหารก็คือสนามรบ แต่ถึงอย่างไรก็ตามถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะกลับเข้าสู่สนามรบ เขาก็จะต้องได้เจ้าอุปกรณ์อันนั้นมา
แน่นอนว่าเขารู้เกี่ยวกับความสามารถของตัวเองเป็นอย่างดี ทักษะการต่อสู้บนบก ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่ถ้าเป็นทักษะการต่อสู้ทางอากาศล่ะก็ ต่อให้เป็น ไอรอนแมน หรือ โทนี่ สตาร์ค ก็อาจจะไม่ใช่ของเขา
ถึงแม้ว่าในกรณีที่อุปกรณ์มันยังไม่เอื้ออํานวยมากสักเท่าไหร่ในตอนนี้ และก็มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
แต่ในตอนนี้เขากับทําอะไรไม่ถูกเลย
“ซู่เจิน ไหนคุณบอกว่าฉันเป็นทหาร และทหารก็ควรจะกลับไปที่สนามรบ แถมคุณยังบอกอีกว่าคุณจะปรากฏตัวขึ้นในที่ที่ฉันควรจะมา ? ฉันมาแล้วนี่ไง แล้วตอนนี้คุณกลับไปอยู่ที่ไหน ?” แซมอดไม่ได้ที่จะพึมพํากับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ
“ผมอยู่นี่!”
เมื่อแซมพูดจบ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมาข้าง ๆ ของเขา ทําให้แซมถึงกับตกใจและ เมื่อเขาลองฟังดี ๆ เขาก็พบว่าเป็นเสียงของซ่เงิน
แซมหันไปยิ้มให้กับซู่เจินอย่างตื่นเต้น
“ดูเหมือนว่าผมจะโชคดีนะ ที่คุณยังรอผมอยู่”
“พระเจ้า! คุณอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย คุณรู้จักที่นี่ได้อย่างไร ? แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันจะมาที่นี่ ?” แซมพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ผมไม่รู้เพียงแค่นี้หรอกนะ ผมยังรู้อีกด้วยว่ามันมีอุปกรณ์บางอย่างที่คุณต้องการอยู่ข้างในนั้น และเมื่อคุณได้มันมา คุณก็จะกลายเป็นฟอลคอน และสามารถแสดงความแข็งแกร่งของคุณออกมาได้อย่างแท้จริง หลังจากนั้นคุณก็สามารถกลับสู่ท้องฟ้าของคุณพร้อมกับอุปกรณ์อันนั้น ?”
“ใช่ เอาล่ะ! ฉันพร้อมแล้ว”
“ไปกันเถอะ!”
ซู่เจินยิ้มขึ้นมาและเดินไปที่ประตูเหล็กทันที
“คุณจะทําอะไร ? ประตูเหล็กอันนั้นมันหนาอย่างน้อย 10 เซนติเมตร แม้กระทั่งขีปนาวุธ…”แซมเดินตาม ซ่เงินไปพร้อมกับอธิบายให้ซ่เงิน แต่ทันใดนั้นซู่เจินก็เอามือของเขาวางลงไปที่ประตูเหล็กน้อย พร้อมกับมีเปลวเพลิงปรากฏขึ้นมาบนมือของเขาอย่างรวดเร็ว
ความร้อนสูงเริ่มเผาไหม้ละลายประตูเหล็กในทันที พร้อมกับคลื่นความร้อนที่กระจายอยู่รอบ ๆ และหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูเหล็กอันนั้นก็ปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้นมา
“ขีปนาวุธก็ทําลายไม่ได้ ?”ซู่เจินมองไปที่แซมด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับแกล้งถามเขาขึ้นมา
แซมรีบส่ายหัวและพูดว่า “ไม่…ไม่มีอะไร”
ซู่เจินยิ้มขึ้นมาและเดินนําเข้าไปด้านใน ซึ่งแซมก็วิ่งตามหลังขู่เจินมาติด ๆ
และหลังจากที่พวกเขาเดินเข้ามาได้ไม่นาน ทันใดนั้นก็มีพวกทหารวิ่งออกมากันเต็มไปหมด
“พวกคุณเป็นใคร! หยุดอยู่กับที่ซะ! ไม่งั้นยิง!”
แซมมองไปที่ซ่เงินด้วยความกังวล แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของซู่เจินในตอนนี้ก็ดูใจเย็นเป็นอย่างมาก “ผมมา ที่นี่เพื่อเอาของบางอย่าง และผมจะออกไปทันทีเมื่อได้มันมา”
“ของทุกอย่างภายในนี้เป็นของกองทัพ พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาอะไรออกไปทั้งนั้น กรุณาออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้กําลังบังคับคุณออกไป” ทหารคนนั้นพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงอันหนักแน่น
ซู่เจินส่ายหัวและพูดว่า “ของสิ่งนั้นมันจะเป็นเพียงแค่ของตกแต่งถ้าเกิดเก็บมันไว้ที่นี่ มันคงจะดีกว่าถ้าเกิดว่านําไปมอบให้กับคนที่สามารถนํามันไปใช้ประโยชน์ได้จริงมันจะดีกว่าไหม ? และถ้าเกิดว่าพวกคุณไม่ยอม ผมก็ขอโทษกับพวกคุณไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย” เมื่อซู่เจินพูดจบ ทันใดนั้นมันก็มีคลื่นลมกระแทกทหารพวกนั้นออกไป อย่างกะทันหัน ทําให้ร่างของทหารพวกนั้นกระเด็นไปกระแทกกับกําแพงและหมดสติไป
“คุณรู้ใช่ไหมว่าของชิ้นนั้นมันอยู่ที่นไหน ?” ซู่เจินหันไปถามกับแซม
แซมพยักหน้าขึ้นมาและวิ่งนําทางซู่เจินไป
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เจอเข้ากับอุปกรณ์อันนั้น แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวของแซมนั้นมีความชํานาญมาก เขาสวมอุปกรณ์อันนั้นและถืออาวุธอะไรบางอย่างอีกสองชิ้นเอาไว้ในมือ
“ไปกันเถอะ ฟอลคอนพร้อมที่จะโบยบินแล้ว”