Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 168
ตอนที่ 168 ช่วยเหลือกัปตันอเมริกา
สํานักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D.
ลิฟต์ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว และด้วยตัวลิฟต์เป็นกระจกโปร่งใสทําให้สามารถมองเห็นข้างในตัวลิฟต์ได้อย่างชัดเจนจากภายนอก แต่ถึงอย่างไรก็ตามกระจกของตัวลิฟต์อันนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุพิเศษทําให้กระสุนไม่สามารถทะลุผ่านมันมาได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน
สตีฟค่อย ๆ เดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับโล่ที่อยู่บนหลังของเขา ซึ่งสีหน้าของเขาในตอนนี้ก็ดูวิตกกังวลเล็กน้อย
หลังจากเข้าไปในลิฟต์ สตีฟก็เดินไปจับราวของลิฟต์เอาไว้และพูดขึ้นมาว่า “บก.ปฏิบัติการ” หลังจากนั้น ระบบควบคุมของตัวลิฟต์ก็พูดยืนยันคําสั่งขึ้นมาพร้อมกับประตูลิฟต์ที่ค่อย ๆ ปิดตัวลงอย่างช้า ๆ แต่ในขณะเดียวกันจู่ ๆ ก็มีคนยื่นมือเข้ามาป้องกันไม่ให้ประตูลิฟต์ปิดเอาไว้พร้อมกับเดินเข้ามาในลิฟต์อย่างรวดเร็วพร้อมกับลูกน้องของเขา ขณะนั้นกัปตันรัมโลว์ก็หันไปกระซิบอะไรบางอย่างกับลูกน้องในทีมของเขา จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ หันไปทางสตีฟและพยักหน้าขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “ไงกัปตัน!”
“รัมโลว์”สตีฟหันกลับมาเพื่อตอบกลับคําทักทายของรัมโลว์เล็กน้อย
หลังจากนั้นประตูลิฟต์ก็ค่อย ๆ ปิดลงอย่างช้า ๆ พร้อมกับค่อย ๆ เลื่อนลงไปด้านล่าง
บรรยากาศภายในลิฟต์เต็มไปด้วยความเงียบสงัดเล็กน้อย รัมโลว์และสมาชิกภายในทีมของกองกําลังพิเศษกําลังยืนเว้นระยะห่างจะสตีฟเล็กน้อย ซึ่งสตีฟในตอนนี้ก็มีอารมณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ พร้อมกับกวาดสายตาไปรอบ ๆ เล็กน้อย ทันใดนั้นคิ้วของสตีฟก็ขมวดขึ้นมาทันที เพราะว่าตอนนี้เขาเห็นว่ามือของทีมกองกําลังพิเศษกําลังวางไว้บริเวณใกล้เคียงกับอาวุธที่อยู่บริเวณต้นขาของพวกเขากันทุกคน
ในขณะเดียวกันตัวลิฟต์ก็ค่อย ๆ หยดลงและมีคนเดินเข้ามาจํานวนมากมายทําให้ตัวของสตีฟค่อย ๆ ถูกบีบมายืนอยู่ตรงกลางของลิฟต์ที่เดียวกับที่รัมโลว์กําลังยืนอยู่
“ฉันเสียใจด้วยนะเรื่องของฟิวรี่ มันเป็นอะไรที่ทําใจลําบากจริง ๆ” รัมโลว์เอียงศีรษะของเขาพร้อมกับพูดขึ้นมาเบา ๆ
“ขอบคุณ!” สตีฟมองดูผู้คนที่อยู่รอบ ๆ พร้อมกับค่อย ๆ ตอบขึ้นมาอย่างเป็นกันเอง ซึ่งสตีฟก็สังเกตเห็นว่า คนที่อยู่ข้าง ๆ เขาดูเหมือนว่ามันจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ เพราะในขณะที่เขากําลังยืนคุยกับคนอื่นอยู่อย่างอารมณ์ดี แต่หน้าผากของเขากับมีเหงื่อออกเล็กน้อยและก็ดูประหม่าเป็นอย่างมาก
หลังจากลิฟต์เลื่อนลงมาได้ประมาณสองชั้น ตัวลิฟต์ก็หยุดลงอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่สามคนเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับเหลือบมองไปที่สตีฟเล็กน้อย
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเพียงแค่เรื่องปกติ แต่สําหรับสตีฟแล้วมันไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน
ในขณะที่ประตูลิฟต์เกือบที่จะปิดสนิท สตีฟก็มองดูไปรอบ ๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ ว่า “ก่อนที่จะเริ่มต่อสู้กัน มีใครอยากถอนตัวออกไปจากที่นี่ไหม?”
เมื่อสตีฟพูดจบมันก็ทําให้คนที่อยู่ภายในลิฟต์ถึงกับชะงักเล็กน้อย พร้อมกับเริ่มโจมตีไปที่สตีฟทันที
ชายคนหนึ่งดึงกระบองไฟฟ้าออกมาแล้วโจมตีไปทางสตีฟทันที ซึ่งภายในลิฟต์ในตอนนี้ก็มีคนอยู่ด้านในจํานวนมากมาย ทําให้สถานการณ์ภายในลิฟต์เต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายของพวกเขาก็คือ สตีฟ โรเจอร์ส เพียงคนเดียว!
ปัง ปัง ปัง!
การต่อสู้เริ่มดเดือดขึ้นเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าคนที่แข็งแกร่งอย่างสตีฟถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในพื้นที่แคบ เขาก็ยังสามารถต่อสู้ได้อย่างไม่ยากเย็นสักเท่าไหร่ ทันใดนั้นข้อมือของสตีฟก็ถูกกุญแจมือไฟฟ้าใส่เข้าที่แขนด้านขวา ทําให้ร่างกายของเขาชาเล็กน้อย
ทันใดนั้นรมโลว์ที่กําลังยืนถือกระบองไฟฟ้าอยู่ในมือก็ส่ายหัวขึ้นมาและพูดว่า “ขอโทษด้วยกัปตัน นี่มันไม่ใช่การแก้แค้นส่วนตัว …”
“ทําไมฉันถึงรู้สึกได้ว่านี่มันคือการแก้แค้นส่วนตัว ?”
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมา พร้อมกับประตูพอร์ทัลที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาเผยให้เห็นร่างของเฉินฮ่าวหรานและนาตาชา ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่นาตาชาได้สัมผัสเกี่ยวกับความสามารถของบริ้งค์เป็นครั้งแรก มันจึงทําให้เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย พร้อมกับค่อย ๆ เดินไปกอดคอของรัมโลว์เอาไว้ด้วยรอยยิ้ม
“นาตาชา คุณมาทําอะไรที่นี่ ?”
สตีฟรู้สึกงนงงเล็กน้อยกับสถานการณ์ตรงหน้า แน่นอนว่ารัมโลว์ก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีอาการลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะโจมตีไปทางนาตาชาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนาตาชาก็ไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน ทันใดนั้นกระบอกไฟฟ้าที่กําลังพุ่งเข้ามาโจมตีเธอก็หยุดอยู่ตรงหน้าเธออย่างกะทันหัน และไม่ว่ารัมโลว์จะออกแรงจนเส้นเลือดที่คอของเขาเกือบจะแตก มันก็ยังไม่สามารถโจมตีไปโดนตัวของนาตาชาได้อยู่ดี
ในขณะเดียวกันนั้นจู่ ๆ เฉินฮ่าวหรานก็ยื่นมือของเขาออกมาด้านหน้า พร้อมกับมีลูกไฟปรากฏขึ้นมาบนมือของเขา และค่อย ๆ ผลักมันออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ตูม!
ร่างกายของรัมโลว์โดนลูกไฟอันนั้นกระแทกเข้ากับร่างกายของเขา ทําให้ร่างกายของเขากระเด็นไปกระแทกกับกระจกของลิฟต์ที่อยู่ด้านข้างอย่างรุนแรง พร้อมกับทรุดตัวลงกับพื้นและหมดสติไป
หลังจากนั้นเฉินฮ่าวหรานก็ก้มลงไปหยิบโล่ขึ้นมาแล้วยื่นให้กับสตีฟ เมื่อสตีฟเห็นเช่นนั้นเขาก็รับโล่มาจากเฉินฮ่าวหราน หลังจากนั้นเขาก็ทําลายกุญแจมือที่อยู่บนมือของเขาทันที หลังจากนั้นเขาก็หันไปถามกับเฉินฮ่าวหรานและนาตาชาด้วยความสงสัยว่า “พวกคุณมาทําอะไรที่นี่ ?”
“บอสให้พวกเรามาช่วยคุณ!” บริ้งค์หันไปตอบกับสตีฟ
“ชุดแบบนี้ … ซู่เจินใช่ไหม?” จู่ๆ สตีฟก็นึกขึ้นมาได้ว่ามันจะไปมีใครนอกจากซ่เงินที่จะมาช่วยเขาได้แบบนี้ “แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ ?”
“พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก และฉันก็คิดว่าเขากําลังนั่งกินไอศครีมอยู่อย่างสบายใจเลยล่ะ” นาตาชาพูดขี้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ในขณะเดียวกันทางด้านของซู่เจินก็กําลังนั่งกินไอศกรีมอยู่อย่างสบายใจบนท้องฟ้าเหนือฐานของหน่วย SHIELD ขึ้นไป แน่นอนว่าภารกิจในครั้งนี้มันง่ายมาก บวกกับนาตาชาที่มีประสบการณ์มากมาย ทําให้ซู่เจินไม่จําเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับภารกิจในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
“ฉันรู้สึกอิจฉาเขาจริง ๆ เลย” สตีฟพูดขึ้นมาพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย ทันใดนั้นลิฟต์ก็หยุดอย่างกะทันหัน และประตูลิฟต์ก็ค่อย ๆ เปิดประตูออกมา พร้อมกับกองกําลังทหารติดอาวุธกําลังมุ่งหน้ามาทางลิฟต์จํานวนมากมาย เมื่อสตีฟเห็นอย่างนั้นเขาก็รีบปิดประตูลิฟท์ทันที ทันใดนั้นมันก็มีเสียงพูดขึ้นมาจากลําโพงของลิฟต์
“สตีฟ คุณรีบยอมจํานนได้แล้ว เพราะว่าตอนนี้คุณไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว ส่วนนาตาชาคุณก็อย่าเข้าไปยุ่งกับสตีฟเลยจะดีกว่า เพราะว่านี่คือภารกิจของหน่วย SHIELD ของพวกเรา!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นนาตาชาก็เหลือบมองขึ้นไปที่กล้องที่อยู่ข้างบนลิฟต์เล็กน้อยพร้อมกับยิ้มขึ้นมาอย่างสดใส ทันใดนั้นกล้องที่อยู่ข้างบนลิฟต์ก็เหมือนจะถูกอะไรบางอย่างบีบเข้าหากันและระเบิดเป็นเศษเหล็กทันที
หลังจากนั้นนาตาชาก็มองไปที่บริ้งค์
เมื่อบริ้งค์เห็นอย่างนั้นเธอก็พยักหน้าขึ้นมาอย่างจริงจัง พร้อมกับโยนคริสตัลไปด้านหน้าเพื่อเปิดประตูพอร์ทัล
“ไปกันเถอะ!”
นาตาชาหันไปพูดกับสตีฟเล็กน้อย พร้อมกับพาสตีฟเดินเข้าไปในประตูพอร์ทัล
วินาทีต่อมาพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นบนพื้นดินที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ของหน่วย SHIELD เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็มองไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ ส่วนทางด้านของสตีฟนั้นก็มองขึ้นไปทางด้านของลิฟต์โดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองทางด้านของบริ้งค์ด้วยความประหลาดใจ
“มันจะน่าตึงเกินไปแล้ว!”
บริ้งค์ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับมองไปรอบ ๆ และพูดขึ้นมาว่า “บอสได้บอกกับฉันเอาไว้ว่าถึงแม้ว่าภารกิจ ในครั้งนี้ของพวกเราจะเป็นการช่วยเหลือสตีฟออกมา แต่ถึงอย่างนั้นนี้ก็เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของพันธมิตรสงครามด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเราจะต้องแสดงพลังของพวกเราให้พวกเขาได้รู้ว่าพันธมิตรสงครามของพวกเรานั้น แข็งแกร่งมากขนาดไหน!”
“เอาล่ะ! พวกเราจะต้องต่อสู้กันอีกแล้วใช่ไหม ? นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ!” เฉินฮ่าวหรานพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับมองไปยังเจ้าหน้าที่ที่กําลังวิ่งเข้ามา ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้ายหลังจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ โน้มตัวลงไปด้านหน้าพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างแตะกับพื้นเอาไว้
หลังจากนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมาเบา ๆ ทันใดนั้นมันก็มีเปลวเพลิงปรากฏขึ้นมาบนแขนของเขาและไหลลงไปตามแขนของเขาลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมุ่งหน้าไปยังทางเจ้าที่ที่กําลังวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ตูม!
หลังจากสิ้นเสียง เจ้าหน้าที่ก็ค่อย ๆ ล้มลงไปกองกับพื้นที่ละคนพร้อมกับมีรอยไหม้สองรอยปรากฏขึ้นมาบนพื้น
“เป็นไงล่ะ!” เฉินฮ่าวหรานตะโกนขึ้นมาอย่างมีชัย พร้อมกับหันไปมองคนอื่น ๆ
“มันกระจอกยิ่งกว่าของบอสซะอีก” บริ้งค์พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทําให้เฉินฮ่าวหรานที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับไปไม่เป็น