Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 60
“คุณไปพักได้แล้วล่ะ”
ซู่เจินเดินเข้าไปหาคีร่าและพูดขึ้นมา
คีร่าก้มหน้าลงและพูดขึ้นมาอย่างลังเลว่า “คุณไม่ต้องการให้ฉันอยู่รับใช้คุณงั้นหรอ?
“คุณอยากช่วยผมอาบน้ำหรือว่าอุ่นเตียงกันล่ะ” ซู่เจินยิ้มออกมาอย่างโง่งม แน่นอนว่าคีร่ายังปกติดีอยู่หลังจากที่เขาได้ปรับเปลี่ยนความทรงจำของเธอ ทำให้เธอมีความจงรักภักดีต่อเขาเพียงคนเดียว แถมทัศนคติที่เธอมีต่อเขาก็คือคนรับใช้
ซึ่งซู่เจินเพิ่งจะแยกจากเฟลิเซ่ได้ไม่นานทำให้เขาไม่ได้มีความต้องการในเรื่องอย่างว่ามากมายซะขนาดนั้น แม้ว่าคีร่าจะมีรูปร่างและหน้าตาที่ดูดีมากก็ตาม
ซู่เจินสามารถยอมรับได้เลยว่าเขานั้นเป็นคนโรแมนติกมาก แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่สัตว์ป่า ที่จะคิดแต่เรื่องใต้สะดืออยู่ในหัวตลอดเวลา
“คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ ถ้าผมต้องการเดี๋ยวผมจะโทรไปหาคุณเอง เพราะถึงยังไงคุณก็หนีผมไปไหนไม่อยู่ดี!” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ทำให้คีร่าหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยและรีบจากไปด้วยความเขินอาย
หลังจากที่ซู่เจินอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เขาก็เข้านอนทันที
และเมื่อซู่เจินตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาก็ไปเดินสำรวจรอบ ๆ ฐานเพื่อสังเกตสิ่งต่าง ๆ และในช่วงบ่ายคีร่าก็เตรียมเงินสดและทองคำแท่งทั้งหมดมาให้กับเขา ซึ่งมันมีมูลค่าประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ และแน่นอนว่าเงินแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการซื้อเกาะและการออกแบบเบื้องต้น!
“ผมหวังว่าครั้งต่อไปที่ผมมาที่นี่ ผมจะได้เจอเธอ!”
และครั้งนี้ซู่เจินก็ยังไม่ได้เจอกับหลี่เสี่ยวลู่เช่นเคย ทำให้เขาได้แต่ฝากให้คีร่าจัดการ จากนั้นเขาก็ออกจากดันเจี้ยนทันที
และไม่นานหลังจากนั้นซู่เจินก็ค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้นบนยานบิน
ซึ่งตอนนี้มีเพียงแค่ดาร์กเอลฟ์กับเฉินห่าวหรานเท่านั้นที่อยู่บนยานบิน
“แล้วบริ๊งกับแมโรละ?” ซู่เจินถามขึ้นมา
“ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ S.H.I.E.L.D. ” เฉินห่าวหรานค่อย ๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ให้กับซู่เจินฟัง และดูเหมือนว่า SHIELD จะมอบเกาะให้กับเขาฟรี แต่มันก็มีเงื่อนไขว่า ซู่เจินจะต้องให้โทนี่ได้ศึกษาเกี่ยวกับยานบินของเขา!
ถ้าถามว่าทำไม SHIELD ถึงต้องการให้โทนี่ศึกษาเกี่ยวกับยานของเขาน่ะหรอ ? ประการแรก เทคโนโลยีของหน่วย SHIELD ไม่จำเป็นที่จะต้องดีกว่าของโทนี่ ประการที่สอง โทนี่หรือไอรอนแมน เป็นหนึ่งในสมาชิกของ อเวนเจอร์ และอเวนเจอร์ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับ SHIELD ทำให้พวกเขาสามารถได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีภายในยานของเขาไปได้โดยไม่มีความเข้าใจผิดกันซึ่งกันและกัน!
“มันก็คือการขโมยดี ๆ นี่เอง!”
ซู่เจินหน้ามุ่ยทันทีหลังจากได้ยินสิ่งที่เฉินห่าวหรานอธิบายให้เขาฟัง
“บอกบริ๊งค์ไปว่าถ้าหากนิคฟิวรี่ไม่เห็นด้วย พวกเราจะซื้อเกาะด้วยตัวของพวกเราเอง…..หึ! พวกเขาต้องการจะศึกษายานของฉันงั้นหรอ ฝันไปเถอะ!“
“รับทราบ!”
เฉินห่าวหรานตอบกลับซู่เจินและรีบติดต่อหาบริ๊งค์ทันที
ในขณะที่บริ๊งค์กำลังพูดคุยกับนิคฟิวรี่อยู่ เธอก็ได้รับการติดต่อมาจากเฉินห่าวหราน และเมื่อเธอได้ฟังสิ่งที่เฉินห่าวหรานบอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยืนขึ้นทันทีและพูดว่า “ขอโทษด้วย พอดีบอสของพวกเราบอกว่าเขาจะจัดการปัญหานี้ด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้นพวกเราจะไม่ขอรบกวนเวลาของคุณอีกต่อไป! “เมื่อบริ๊งค์พูดจบ เธอก็เปิดประตูพอร์ทัลขึ้นมาและเตรียมตัวที่จะจากไป
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของบริ๊งค์ ทำให้นิวฟิวรี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่ามันไม่มีโอกาสในการเจรจาอีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดความตระหนี่ของซู่เจิน แต่เขาก็ไม่ต้องการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซู่เจินกับSHIELD ต้องมีปัญหาระหว่างกัน
“ปัญหามันมากมายซะจริง ๆ!”
นิวฟิวรี่ตะโกนขึ้นมาดังลั่นและพูดต่อว่า “ฉันจะช่วยจัดการเรื่องเกาะให้ แต่เธอจะต้องไปบอกกับซู่เจินว่าเขาติดหนี้บุญคุณฉันหนึ่งครั้ง และถ้าเกิดว่า SHIELD ต้องการความช่วยเหลือจากเขาในอนาคต เขาจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ! “
“เดี๋ยวฉันจะไปบอกกับเขาให้!”
บริ๊งค์กล่าวขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้าไปในพอร์ทัล
และเมื่อบริ๊งค์มาถึงบนยานบิน เธอก็บอกคำพูดของนิคฟิวรี่ให้กับซู่เจินฟัง ทำให้ซู่เจินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา….เพราะว่านิคฟิวรี่นั้นเหมือนกับจิ้กจองเฒ่าจริง ๆ พอเขาไม่สามารถศึกษายานบินของซู่เจินได้ เขาก็หันมาสร้างหนี้บุญคุณกับเขาแทน ซึ่งสิ่งนี้มันมีค่ายิ่งมากกว่าเงิน!
แต่ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ให้ SHIELD ช่วย เขาก็จะไม่มีปัญหาอะไรตามมาที่หลัง
ยิ่งไปกว่านั้นเขาในตอนนี้ต้องการสร้างความประทับใจครั้งใหญ่ให้กับ SHIELD
โดยที่เขาจะรอจนกว่า SHIELD จะถูกไฮดราเข้ายึดครอง และหลังจากนั้นเขาก็ช่วยจัดการไฮดราให้กับ SHIELD
แค่นี้ชื่อเสียงของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พาฉันไปดูที่เกาะหน่อย!”
ซู่เจินหันไปสั่งกับดาร์กเอลฟ์ และเมื่อดาร์กเอลฟ์ได้ยินแบบนั้นเขาก็หันยานบินไปทางเกาะแถวชายฝั่งตะวันตกทันที
จะต้องบอกก่อนว่าขนาดของเกาะนี้มันไม่เล็กเลยจริง ๆ แต่มันก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือมันค่อนข้างไกลกับตัวเมือง แต่ถ้าซู่เจินใช้เกาะนี้เป็นที่ตั้งฐานทัพของเขา เขาก็สามารถมองข้ามข้อเสียข้อนี้ไปได้ เพราะว่าเขานั้นมียานบินไว้ใช้สำหรับการเดินทาง และในตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่าเขาจะซื้อเกาะใกล้ ๆ กับตัวเมือง แต่ตอนนี้….เขารู้สึกว่าเกาะนี้มันก็ไม่เลว!
“จอดยานบินเอาไว้ตรงนี้…..ตอนนี้พวกเรามีเงินอยู่ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการซื้อเกาะและสร้างฐานของพวกเราขึ้นมา และเดี๋ยวพวกเธอจัดการเตรียมความพร้อมเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ส่วนเฉินห่าวหรานเดี๋ยวนายมากับฉัน”เมื่อซู่เจินกล่าวจบ เขาก็เอาเงินและทองคำแท่งทั้งหมดออกมากองไว้บนพื้น ทำให้พวกเขาทั้งสามคนถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นเงินและทองคำแท่งที่กองกันอยู่เหมือนกับภูเขา แถมมันยังส่องแสงแวววาวออกมาภายใต้แสงอาทิตย์อยู่ตลอดเวลา
และพวกเขาทั้งสามคนก็อยากรู้ว่าซู่เจินเอาเงินและทองคำพวกนี้เก็บไว้ที่ไหนกันแน่ เพราะอยู่ดี ๆ มันก็โผล่ขึ้นมาจากอากาศที่ว่างเปล่า
แต่ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขามันก็เป็นได้แค่ความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น เพราะว่าไม่มีใครกล้าพอที่จะถามซู่เจินขึ้นมา
“บอส! คุณกำลังจะไปไหนงั้นหรอ ? ให้ฉันไปส่งคุณไหม?” บริ๊งค์ถามขึ้นมา
ซู่เจินส่ายหัวเบา ๆ และยกมือของเขาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ทำให้แหวนที่อยู่บนนิ้วของซู่เจินเปล่งแสงสีเขียวเข้มขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายของซู่เจินและเฉินห่าวหรานเอาไว้ และร่างของซู่เจินและเฉินห่าวหรานก็หายไปในอากาศทันที…