Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 67
“บอส! ดาร์กเอลฟ์บอกว่าเทคโนโลยีบนยานบินของเรานั้นล้ำหน้ากว่าเทคโนโลยีบนดาวโลกอย่างน้อย 100 ปี ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวลว่าเทคโนโลยีของเราจะถูกขโมยไป เว้นแต่ว่ายานบินของเราจะถูกผ่าเป็นสองซีก!” บริ๊งค์เดินออกมาจากประตูพอร์ทัลและหันไปกระซิบกับซู่เจิน
ซู่เจินพยักหน้าเบา ๆ เพราะว่าตอนนี้เขาได้ให้เปปเปอร์ไปหาโทนี่เพื่อขอความช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว และถ้าเกิดว่าโทนี่ยอมส่งไอรอนแมนมาช่วยเหลือเขาจริง ๆ การก่อสร้างมันจะเสร็จได้เร็วยิ่งขึ้น แต่เขาก็คิดว่าโทนี่คงไม่ยอมช่วยเขาแบบฟรี ๆ โดยไม่มีเงื่อนไขอย่างแน่นอน
และเนื่องจากที่ดาร์กเอลฟ์บอกว่าเทคโนโลยีของยานบินมันไม่สามารถขโมยไปได้ ทำให้เขาสามารถใช้เงื่อนไขนี้ในการต่อรองกับโทนี่ได้ แต่ตอนนี้เขาควรรอข่าวของเปปเปอร์ก่อนละนะ!
ซู่เจินหันหลังกลับและเดินไปช่วยงานทันที
เขาสร้างรถขุดขึ้นมาและควบคุมมันด้วยพลังจิต ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้พลังจิตของเขาช่วยขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ไปด้วย และเขาก็ยังใช้พลังของแหวนสร้างเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนงาน และด้วยความช่วยเหลือของซู่เจินในตอนนี้ ทำให้การก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ซู่เจินทำงานตลอดทั้งวันโดยไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ได้ถึงเวลาเลิกงานเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากมันเป็นงานที่จะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ทำให้คนงานเหล่านี้ไม่สามารถขึ้นไปอาศัยอยู่บนยานบินได้ พวกเขาจึงต้องสร้างที่พักกันเองบนเกาะแห่งนี้ โดยที่ซู่เจินจะมีอาหารและเครื่องดื่มให้พวกเขาเลือกกันได้ตามใจชอบ เพราะว่าการที่พวกเขาเหล่านี้กล้ามาทำงานกับคนอย่างพวกเขา …. มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!
ไม่ว่าจะเป็น ยานบินของมนุษย์ต่างดาว มนุษย์ต่างดาว มนุษย์กลายพันธุ์ และผู้มีพลังพิเศษ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย และชื่อเสียงของซู่เจินก็ไม่ได้โด่งดังเหมือนกับชื่อของ ไอรอนแมนหรือกัปตันอเมริกาเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นเพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานกันได้อย่างสบายใจ บริ๊งค์จึงได้จัดเตรียมอะไรหลาย ๆ อย่างเอาไว้มากมาย
ในตอนนี้ซู่เจินยังไม่มีแผนที่จะออกไปไหน เขาก็เลยกลับไปที่ห้องของเขาบนยานเพื่อพักผ่อนทันที และจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับบริ๊งค์ที่เดินถือของกินเข้ามามากมาย
“อาหารจีน ? คุณซื้อมาให้ผมงั้นหรอ?”
ซู่เจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าบนเกาะจะมีอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้มากมาย แต่มันก็ไม่มีอาหารจีนอย่างแน่อน
บริ๊งค์พยักหน้าและพูดว่า “ใช่! ฉันไม่รู้ว่าบอสชอบกินอะไร ฉันก็เลยไปหาซื้ออาหารจีนมาให้“
“ขอบคุณนะ!” ซู่เจินรับมันมาด้วยรอยยิ้มและเปิดกินทันที
“งั้นฉันขอตัวก่อน“ บริ๊งค์พูดขึ้นมาพร้อมกับหันหลังเดินจากไปทันที ทั้งทีซู่เจินอยากจะชวนเธอมากินด้วยกันสักหน่อย
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซู่เจินก็สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า บริ๊งค์นั้นเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก และแน่นอนว่าการที่เขามีลูกน้องที่ขยันขันแข็งแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของเธอ ยิ่งเขามองมันมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังมองหน้าของฟ่านปิงปิงอยู่ และในบางครั้งใบหน้าของบริ๊งค์ก็ทำให้ฮอร์โมนของเขารู้สึกพลุ่งพล่าน
กล่าวได้ว่าอาหารจีนนั้นมีอยู่ทั่วโลก และมันก็ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรสชาติให้เหมาะกับคนในท้องถิ่น ทำให้รสชาติมันไม่ค่อยเข้มข้นมากนัก ดังนั้นซู่เจินจึงกินมันแค่ให้รู้สึกอิ่มท้องและหลังจากนั้นเขาก็นั่งดูดกลืนอนุภาคอีเทอร์ต่อทันที
ถ้าหากว่าเขาสามารถดูดกลืนอนุภาคอีเทอร์ได้อย่างสมบูรณ์ การสร้างฐานมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายดายทันที เพราะว่าอัญมณีแห่งความจริงนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นจริงได้ ตราบใดที่เขามีพลังแข็งแกร่งเพียงพอ
และถึงยังไงในตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถใช้มันได้อยู่ดี!
ในขณะที่ซู่เจินกำลังดูดกลืนอนุภาคอีเทอร์อยู่ เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับบริ๊งค์ที่เดินเข้ามา
“บอส!“
บริ๊งค์พูดขึ้นมาพร้อมกับเขยิบไปด้านข้างของซู่เจิน เพื่อให้คนด้านหลังของเธอได้เดินขึ้นมาอยู่ข้างหน้า
เปปเปอร์ ?
“ดูเหมือนว่ามันจะไม่สำเร็จสินะ? “
เมื่อซู่เจินเห็นใบหน้าของเปปเปอร์ ที่แสดงท่าทางขอโทษและโกรธออกมา เขาก็เดาได้ทันทีเลยว่าการขอความช่วยเหลือจากโทนี่มันน่าจะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน
บริ๊งค์หันหน้าไปมองเปปเปอร์เล็กน้อย ส่วนเปปเปอร์ก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาซู่เจินพร้อมกับกล่าวขอโทษว่า “ขอโทษนะ ตอนแรกฉันคิดว่าโทนี่จะเห็นด้วย และฉันก็คาดไม่ถึงด้วยว่าโทนี่จะเป็นคนขี้เหนียวขนาดนี้ แถมฉันก็เพิ่งจะทะเลาะกับเขามาเมื่อกี้นี้เอง เขาเอาแต่ใส่อารมณ์กับฉัน … ฉันเป็นผู้ช่วยของเขานะไม่ใช่แม่สักหน่อย!”
นิสัยแบบนี้ของโทนี่มันใช้ไม่ได้จริง ๆ
“มันไม่สำคัญหรอก เพราะว่าผมเคยพูดไปแล้วว่าคุณไม่จำเป็นที่จะต้องขอบคุณอะไรผมเป็นพิเศษ!” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกกังวล
เปปเปอร์ส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า “ตอนนี้ฉันได้ลาออกจากงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ … ฉันก็หวังว่าคุณจะให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่อช่วยงานคุณ“
“เอ๋?
ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งสองคนจะทะเลาะกันหนักมาก ทำให้เปปเปอร์เกิดลาออกขึ้นมาจริง ๆ
เมื่อพูดถึงความสามารถทางด้านธุรกิจของเปปเปอร์ แน่นอนว่ามันจะต้องสุดยอดอย่างแน่นอน เพราะโดยปกติแล้วโทนี่ไม่ค่อยจะสนใจเกี่ยวกับบริษัทสักเท่าไหร่ ทำให้บริษัททั้งหมดถูกบริหารโดยเปปเปอร์เพียงคนเดียว และในตอนนี้เธอกำลังขอมาทำงานกับเขาด้วยตัวของเธอเองอีก แล้วเขาจะต้องมีเหตุผลอะไรที่จะปฎิเสธเธอล่ะจริงไหม ?
“มันจะดีมากถ้าเกิดว่าคุณมาอยู่ที่นี่จริง ๆ แม้ว่าผมจะไม่มีบริษัท แต่คุณก็เห็นแล้วว่าฐานของผมกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นผมจึงต้องการคนที่มีความสามารถหลาย ๆ ด้านมาช่วยกันบริหารจัดการมัน และผมก็หวังว่าคุณจะเป็นหนึ่งในนั้นนะ!” ซู่เจินพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ … ฉันขอคิดดูก่อน …และก่อนที่จะสร้างฐานเสร็จฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยคุณก่อนเป็นเวลาชั่วคราว!” เปปเปอร์พูดขึ้นมาด้วยความลังเลเล็กน้อย
“ไม่มีปัญหา! งั้นเดี๋ยวผมจะพาคุณไปเลือกห้องพัก และถ้าเกิดว่าคุณต้องการอะไรคุณก็ไปบอกกับบริ๊งค์ก็แล้วกัน “ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้สัญญาว่าจะอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป เธอจะไม่เต็มใจจากที่นี่ไปอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นานซู่เจินก็พาเธอเดินออกไปจากห้อง เพื่อไปเลือกห้องพักพร้อมกับจัดเตรียมห้องให้กับเธอ …