Monster Paradise - ตอนที่ 1483
พื้นที่ล่าของชั้นกลางคือวงแหวนรอบแกนกลาง
ทั้งวงแหวนรอบแกนกลางถูกยึดครองโดยกลุ่มนักล่าที่แข็งแกร่งสุด
แกนกลางจะสร้างสิ่งมีชีวิตต่างๆออกมาทุกวัน บางครั้งก็เป็นสิ่งมีชีวิตหุบเหว สายพันธุ์ผิดปกติ บางทีก็ประเภทวิญญาณร้ายหรือปีศาจ..บางครั้ง มันยังปล่อยอาวุธมารที่มีความสามารถแปลกๆออกมา
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับแกนกลางที่ผลิตอาวุธมาร ปีกเงาจงใจเก็บมันไว้เป็นความลับจากหลินฮวง
อาวุธมารเหล่านี้คืออาวุธประเภทเติบโตเหมือนกับอาวุธเซียน สำหรับสิ่งมีชีวิตหุบเหว คุณค่าของพวกมันไม่ต่ำไปกว่าสมบัติระดับจ้าวเทวะ
ยอดฝีมือเหล่านี้อยู่ที่นี่ในแกนกลางเป็นระยะเวลายาวนานก็เพื่อแย่งชิงอาวุธเซียน การล่าเป็นแค่เรื่องรอง
หลินฮวงติดตามปีกเงา เคลื่อนที่เข้าหาพื้นที่ล่าด้วยความเร็วสูง
“เป้าหมายแรกที่ข้าเลือกให้ท่านคือกลุ่มสามคน สมาชิกทั้งสามเป็นชั้นห้ากันหมด และสองคนก็แกร่งพอๆกับข้า คนหนึ่งแกร่งกว่าข้าและใช้พลังกฏเทพระดับควบคุมได้ 30 ประเภท..”หลังปีกเงาช่วยหลินฮวงเลอืกเป้าหมาย มันยังเผยข้อมูลออกมา
ไม่เพียงปีกเงาจะเผยระดับพลังทั่วไป แต่ยังให้คำอธิบายถึงความเชี่ยวชาญและจุดอ่อน
“พวกมันทั้งสามมีความแค้นอะไรกับเจ้าหรือเปล่า?”หลินฮวงจ้องปีกเงาหลังได้ยิน
“มันไม่ใช่ความแค้น แค่ความขัดแย้งเล็กน้อยระหว่างเรา”ปีกเงายิ้มและพูด ต่อหน้าหลินฮวง มันไม่กล้าโกหกอย่าเงปิดเผย มันตัดสินใจพูดตามตรง โดยเฉพาะเรื่องที่ชัดเจน เหนือสิ่งอื่นใด ชีวิตมันยังอยู่ในมือหลินฮวง
เมื่อมันเห็นหลินฮวงกำลังมองมัน และยิ้ม ในที่สุดปีกเงาก็เผยความอับอายเล็กน้อย”พวกมันขโมยเหยื่อข้าและพยายามไล่ฆ่าข้า”
เมื่อพวกเขาใกล้ถึงจุดหมาย หลินฮวงก็ละสายตาจากปีกเงา มองไปทางเป้าหมายทั้งสาม มอนสเตอร์ทั้งสามได้เข้าสู่ระยะสัมผัสของจิตเทวะเขาแล้ว
ตามความหนาแน่นของกลิ่นอาย พวกมันคือชั้น 5 จริงๆ
แต่ทว่า หลินฮวงสามารถรู้สึกได้ชัดว่ากลิ่นอายของมอนสเตอร์ทั้งสามแกร่งกว่าปีกเงา สองตัวแกร่งกว่าเล็กน้อยและอีกตัวทรงพลังกว่ามาก ในแง่ของความหนาแน่นกลิ่นอาย พวกมันเหนือกว่ากลุ่มของปีศาจทารกซะอีก
ปีกเงาพูดอวดพลังตัวเองเกินจริงไปตอนบอกพลังของมอนสเตอร์ทั้งสาม
เพียงเมื่อจิตเทวะของหลินฮวงสัมผัสได้ถึงมอนสเตอร์ทั้งสาม พวกมันเองก็ตรวจจับได้ถึงจิตเทวะของหลินฮวงเช่นกัน
“ดูเหมือนเหยื่อจะเดินมาหาเราถึงที่!”สิ่งมีชีวิตตัวโตที่ร่างกายคล้ายหนูพูดขึ้น แต่หัวมันเป็นของมนุษย์ ใบหน้ามันหยาบกร้าน หัวล้าน เต็มไปด้วยหนวดเครา ส่วนเดียวที่มันไม่เหมือนมนุษย์คือดวงตาที่เปล่งแสงสีแดง
“มันดูเหมือนปีกเงานั่นจะอยู่กับเขาด้วย”ตัวที่พูดคือมอนสเตอร์หัวปลา มันดูเหมือนอึ่งอ่างยักษ์ที่ยืนสองขา ลูกตาโตทั้งสองมันปูดโปนออกมาและมันก็มีอวัยวะที่คล้ายกับเหงือกปลาบนคอสองข้าง
“ครั้งนี้อย่าปล่อยมันให้หลุดมือละ!”
ท่ามกลางทั้งสาม มอนสเตอร์ที่มีกลิ่นอายสุดคือมอนสเตอร์ปีกค้างคาว
มันดูเหมือนปีศาจ มีทั้งปีกและเขา แต่นอกจากเขาแกะคู่บนหัวแล้ว มันไม่มีอวัยวะอื่นบนหน้าเลย เหมือนมนุษย์ไร้หน้า กระดูกสันหลังของมันยาวจนถึงหางที่เป็นเหมือนหางแมงป่องพิษ
มอนสเตอร์ทั้งสามลงมือทันทีโดยไม่รอให้หลินฮวงกับปีกเงาเข้าใกล้
จิตเทวะของหลินฮวงสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกมัน เดิม เขากังวลเล็กน้อยว่าพวกมันจะหนี แต่ท่ว่า วินาทีต่อมา เขาก็เห็นมอนสเตอร์ทั้งสามพุ่งเข้าหาตัวเขากับปีกเงา
มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก่อนทั้งสองฝ่ายจะเผชิญหน้ากัน
มอนสเตอร์ปีกค้างคาวนำกลุ่ม ทั้งสามล้อมหลินฮวงกับปีกเงาไว้เป็นรูปสามเหลี่ยม
“จิ๊ จิ๊ จิ๊..งั้นเจ้าก็กำลังร่วมมือกับมนุษย์นี่เอง ปีกเงา เจ้าตกต่ำถึงขนาดนี้เชียว?”มอนสเตอร์หัวปลาเห็นทั้งสองและเยาะเย้ยปีกเงิน
เมื่อปีกเงินเห็นมอนสเตอร์ทั้งสาม เขาก็ดูกังวลเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อเขาเหลือบมองหลินฮวงข้างเขา เขาก็ได้รับความกล้าหาญคืนมาทันที”บอกว่าข้าต่ำต้อย?แล้วการที่เจ้าร่วมมือกับเจ้าค้างคาวบัดซบนั่นละ?!”
หลินฮวงรู้ว่าเผ่ามอนสเตอร์ทั้งสองต้องไม่ลงรอยกัน
มอนสเตอร์ค้างคาวเป็นของเผ่าปีศาจรัตติกาลในหุบเหว ส่วนมอนสเตอร์หัวปลาเป็นเผ่าน้ำ เผ่าน้ำคืหนึ่งในอาหารหลักของปีศาจรัตติกาล ซึ่งทำให้เผ่าน้ำเป็นศัตรูกับปีศาจรัตติกาล ทั้งสองเผ่าถือได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาต
มอนสเตอร์หัวปลากับมอนสเตอร์ปีกค้างคาวด้านหน้าพวกเขาที่ร่วมมือกันนั้นเป็นการกระทำที่ต่ำช้ายิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตหุบเหวร่วมมือกับมนุษย์ซะอีก
“ปีกเงา เจ้าอยากตายหรือยังไง?!”มอนสเตอร์หัวปลาไม่คิดว่าปีกเงาจะพูดสวนกลับ และความอัปยศก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ
เพียงเมื่อมอนสเตอร์หัวปลากำลังจะเริ่มโต้เถียงกับปีกเงา มอนสเตอร์ปีกค้างคาวก็ลอบสังเกตหลินฮวง
แต่ทว่า หลังสังเกต มันก็ไม่พบอะไรผิดปกติ
ภายใต้การอำพรางของพันหน้า หลินฮวงถือเป็นเทพแท้จริงขั้น 9 ทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ
การอำพรางของพันหน้าดีพอจะหลอกเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด มอนสเตอร์ปีกค้างคาวที่เป็นแค่เทพแท้จริงจึงไม่สามารถมองทะลุได้
แต่ทว่า นี่ก็ยังทำให้งงงวยเล็กน้อยเพราะปีกเงารู้ถึงความสามารถพวกมัน มันเป็นเรื่องไร้เหตุผลสำหรับปีกเงาที่จะนำคนอ่อนแอกว่าตัวเองมา
หลินฮวงเองก็สังเกตมอนสเตอร์ทั้งสามด้านหน้าเช่นกัน
ปีศาจรัตติกาล เผ่าน้ำ และมนุษย์หน้าหนู มอนสเตอร์หุบเหวทั้งสามมีในสารานุกรมมอนสเตอร์ ตามบันทึกในสารานุกรม มอนสเตอร์ทั้งสามเหล่านี้ถือเป็นเผ่าใหญ่และเป็นเผ่าระดับต่ำสุดในหุบเหว แต่ทว่า มอนสเตอร์ทั้งสามด้านหน้าเขาดูเหมือนจะมีตำแหน่งสูงภายในเผ่าและความสามารถก็เป็นเทพแท้จริงขั้นสูงสุด
ท่ามกลางทั้งสาม กลิ่นอายของปีศาจรัตติกาลแกร่งสุด มันไม่พยายามปิดบังเลย
ริมฝีปากของหลินฮวงขยับขึ้นเพราะหลังเห็นทั้งสาม เขาก็มั่นใจแล้วว่าพวกมันคือเป้าหมายที่เขาอยากล่า
โดยไม่รอให้มอนสเตอร์หัวปลากับปีกเงาโต้เถียงกันจนจบ ดาบในมือหลินฮวงก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าสีแดงเลือดสามสาย เฉือนใส่ทั้งสาม
สายฟ้าสีแดงเลือดกวาดผ่านความว่างเปล่าในชั่วพริบตา ปรากฏด้านหน้ามอนสเตอร์ทั้งสามโดยตรง
ก่อนมอนสเตอร์หัวปลาจะได้ตอบสนอง ร่างกายของมันก็โดนตรึงไว้
มนุษย์หน้าหนูสังเกตเห็นการโจมตีของหลินฮวง แต่มันทำได้แค่มองคลื่นดาบแหวกผ่านอากาศ มันไม่มีเวลาหลบหนี
มีเพียงปีศาจรัตติกาลถึงหลบได้ทันตอนเห็นแสงของคลื่นดาบ แต่มันก็ยังช้าไป มันสามารถหลบการโจมตีที่อาจทำให้หัวมันขาดได้ แต่ก็แลกมาด้วยปีกซ้ายของมัน
“เร็วมาก!”ปีศาจรัตติกาลเพิ่งรอดตายมาอย่างฉิวเฉียด ทั่วตัวมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นจากความตกใจ
มันสันนิษฐานไว้แล้วว่ามนุษย์ที่ปีกเงานำมาด้วยต้องไม่อ่อนแอ แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้
เมื่อหลินฮวงเห็นปีศาจรัตติกาลหลบการโจมตีของเขาได้ เขาก็เลิกคิ้วแต่ไม่พูดอะไร เขากลับโจมตีต่อเป็นครั้งที่สอง
ปีศาจรัตติกาลยังไม่ฟื้นจากความตกใจแต่ก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่มากกว่าแล้ว มันเงยหน้าขึ้นมอง เห็นสายฟ้าสีแดงเลือดอีกสายปรากฏตรงหน้ามัน
“ข้ากำลังจะตาย…”ก่อนมันจะคิดจบ หัวมันก็ระเบิด
“ถ้าฟันครั้งหนึ่งไม่ตาย ก็แค่ฟันอีกครั้ง…”หลินฮวงพึมพำขณะเก็บดาบ
ข้างเขา ปีกเงาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ ผ่านไปสักพัก มันก็ยังไม่ฟื้นจากความตกใจ
มันรู้ว่าหลินฮวงทรงพลังมาก แต่แม้จะเห็นเหตุการณ์ด้วยตาของมันเอง มันก็ยังยากจะเชื่อว่าหลินฮวงสามารถฆ่ากลุ่มของปีศาจรัตติกาลได้ง่ายเหมือนกระดิกนิ้ว
“ไปกันเถอะ!”
หลังหลินฮวงเก็บของและตะโกนบอกปีกเงา มันถึงได้สติกลับและมองหลินฮวงด้วยแววตาขลาดกลัว