Monster Paradise - ตอนที่ 1614 ความลับของวังจอมเทพ
ตอนที่ 1614 ความลับของวังจอมเทพ
ตอนหลินฮวงเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นหนึ่งสําเร็จ ไม่เพียงร่างกายของเขาจะผ่านขีดจํากัดเทพสวรรค์ แต่มันยังเทียบได้กับกิ่งจ้าวเทวะ วิญญาณเทพของเขายังทะลวงผ่านด้วยข้ามธรณีของจ้าว เทวะไปแล้ว
นอกจากนั้น ขีดจํากัดเดิมของห่วงโซ่ลําดับเทพยี่สิบสายที่เขาสามารถยืมได้ยังเพิ่มเป็นร้อย
พูดได้ว่าตอนนี้เขาไร้เทียมทานในหมู่เทพสวรรค์แล้ว
เขายังสงสัยว่าเขาอาจสู้กับกิ่งจ้าวเทวะได้ด้วยซ้ํา
นี่ยังวัดแค่พลังดิบอย่างเดียว
ในแง่ความเชี่ยวชาญและทักษะ อาวุธเทพทั้งหมดของเขาล้วนพัฒนาขึ้นตาม
ดาบ เกราะ อาวุธพลังจิตและอาวุธวิญญาณสายรุกและรับของขา รวมเป็นสี่ได้เลื่อนเป็นระดับสี่สําเร็จ พวกมันเลื่อนจากสมบัติล้ําดับเทพเป็นอาวุธเต๋า
ชุดอุปกรณ์นี้สามารถเพิ่มความสามารถเขาได้อีกระดับ
นอกจากการเปลี่ยนแปลงส่วนตัว หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอื่นมากมายอีกด้วย
เขาปลดอํานาจสําหรับแดนจอมเทพได้เต็มที่ ตอนนี้เขาสามารถเอาแดนจอมเทพรวมเข้ากับแดนเทพของเขา อํานาจเร่งเวลาหมื่นเท่าเองก็ปลดด้วย
นอกจากนั้น อํานาจของหลินฮวงที่มีต่อดาบหนึ่งถึงสิบก็ปลดเช่นกัน ไม่ใช่แค่นั้น แต่เขายังสามารถนําสิ่งมีชีวิตของแดนจอมเทพออกนอกแดนจอมเทพไปได้แล้ว
หลังตรวจสอบอํานาจของแดนจอมเทพ ไม่ช้าหลินฮวงก็สังเกตว่ามรดกจอมเทพในหัวของเขาปลดผนึกเต็มที่
เขาเริ่มการสํารวจในหัวตัวเอง
จอมเทพนั้นคือยอดฝีมือขั้นสูงสุดที่ครอบงําทั้งยุคสมัย ประสบการณ์บ่มเพาะของเขาย่อมต้องมีค่ามาก
ภายในความทรงจําเหล่านี้ ไม่ช้าหลินฮวงก็พบข้อมูลที่ทําให้เขาตกใจ
“ดูเหมือนว่าวังจอมเทพจะไม่ใช่แค่สมบัติเทพสวรรค์ชั้นนํา?!”
จอมเทพจงใจเก็บความลับนี้ไว้ส่วนลึกสุดของความทรงจําและตอนนี้มันก็ปลดผนึกแล้ว
ชื่อจริงของวังจอมเทพนั้นไม่รู้ มันคือสมบัติที่เสียหายที่จอมเทพได้รับจากห้วงมิติในจักรวาล
ห้วงมิติเหล่านี้คือสนามรบโบราณ ว่ากันว่ามันมีตัวตนที่สูงส่งกว่าจ้าวเทวะตายที่นั่น
หลินฮวงคิดมาตลอดว่าความเสียหายในวังจอมเทพนั้นเกิดจากการก้าวข้ามไม่สําเร็จของจอมเทพ ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าตัววังนั้นเสียหายอยู่แล้ว 80%ตอนจอมเทพได้รับมันมา
ไม่ใช่แค่นั้น รูปลักษณ์เดิมของสมบัติคือเตาหลอม มันคือจอมเทพที่อําพรางมันเป็นวัง ดังนั้นมันจึงคงรูปจนถึงทุกวันนี้
“ ข้ามักบอกว่าคุณสมบัติอย่างการเร่งเวลาดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่สมบัติเทพสวรรค์จะทําได้” หลินฮวงมักคิดมาตลอดว่าคุณสมบัติของวังจอมเทพโกงไป” ต่อให้มันบรรจุบัญญัติเวลา การสามารถเร่งความเร็วได้สิบเท่าก็น่าประทับใจพอแล้ว ไม่ใช่แค่นั้น มันสามารถส่งผลต่อกระแสเวลาของทั้งเขตแดนจอมเทพ”
ในขณะเดียวกัน อํานาจสําหรับการเร่งเวลาในวังจอมเทพได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจากพันเท่าเป็นหมื่นเท่าแล้ว
หลินฮวงอดงสัยไม่ได้ว่ามันจะส่งผลต่อกระแสเวลาในเขตแดนเทพเขาไหมถ้าเขาวางแดนจอมเทพไว้ที่นั่นเหนือสิ่งอื่นใด เขตแดนเทพของเขาใหญ่กว่าเขตแดนจอมเทพมาก
ถ้าเขาทําได้ เมื่อกระแสเวลาเร็วขึ้นหมื่นเท่า เขาจะสามารถฝึกยอดฝีมือจํานวนมากได้
หลินฮวงลองดูและพยายามย้ายวังจอมเทพเข้าเขตแดนเทพเขา
แต่ทว่า ความพยายามล้มเหลว จิตวิญญาณอาวที่หลับใหลของวังจอมเทพส่งจิตสํานึกออกมาบ่งชี้ว่ามันไม่เต็มใจย้ายออกจากเขตแดนจอมเทพ
“เช่นนั้น ถ้าข้าหลอมเขตแดนจอมเทพให้หมด นั่นก็คงไม่เป็นไรสินะ?” หลินฮวงถามอย่างหงุดหงิด
หลังเงียบไปสักพัก จิตวิญญาณอาวุธก็ให้คําตอบ
หลินฮวงเริ่มหลอมเขตแดนจอมเทพทันที มันเป็นช่วงเวลาระหว่างการหลอมที่ทําให้เขาพบว่าเขตแดนจอมเทพกว้างใหญ่แค่ไหน มันยังใหญ่เกินกว่าเขตแดนเทพถึงจ้าวเทวะที่เขาเพิ่งหลอมไปเสร็จ
มีสิ่งมีชีวิตมากมาย ผลประโยชน์ที่เขตแดนจอมเทพนํามาให้เขตแดนเทพของ หลินฮวงเทียบได้กับเขตแดนเทพถึงจ้าวเทวะ
“น่าประทับใจ ข้าไม่อยากเชื่อว่านี่จะเทียบเท่ากับการหลอมเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะ” หลินฮวงอดอุทานไม่ได้
ครั้งนี้ กระบวนการหลอมกินเวลากว่าสี่ร้อยวัน มันใช้เวลานานกว่าการหลอมเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะซะอีก
การหลอมเขตแดนจอมเทพยังทําให้สิ่งมีชีวิตมากมายในเขตแดนเทพในตัวหลินฮวงเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่า
แต่ทว่า ตอนกระบวนการหลอมสําเร็จ เขาก็รู้สึกว่าเขาขาดอะไรไปตอนเทียบมันกับ การหลอมเขตแดนเทพถึงจ้าวเทวะ
เขาทดสอบผลของการเร่งเวลาและพบว่าไม่เพียงมันจะส่งผลต่อพื้นที่นอกตําแหน่งเขตแดนจอมเทพ มันยังกระจายไปทั่วทั้งเขตแดนเทพของเขา
นี่เป็นข่าวดีอย่างไม่ต้องสงสัย!
หลินฮวงคิดสักพัก จากนั้นก็เอาเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะออกมาและหลอมมันต่อ
เวลาผ่านไปปีหนึ่ง
หลินฮวงรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดตอนหลอมเขตแดนเทพนี้ เขขาสัมผัสว่าเขตแดนเทพของเขาดูดซับสารอาหารไปจริงๆ
“มันต้องเป็นเขตแดนเทพของถึงจ้าวเทวะเหรอ?”
เขายังไม่ยกระดับ แต่เขารู้ว่านี่เพราะเขตแดนเทพของเขายังไม่ถึงขีดจํากัด
ต่อมา เขาเอาเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะออกมาอีกและเริ่มการหลอมรอบใหม่
เวลาผ่านไปอีกเกือบปี และเขตแดนเทพที่สองก็โดนหลอม ระดับพลังของหลิน ฮวงเลื่อนขั้นและกลายเป็นเทพสวรรค์ชั้นสอง
“จํานวนของเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะที่ต้องใช้สําหรับยกระดับเพิ่มขึ้น?!ตัดสินจากสถานการณ์ จํานวนที่ต้องใช้อาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” เดิมหลินฮวงคิดว่าพอเขาเลื่อนเป็นเทพสวรรค์เขาจะสามารถยกระดับขั้นได้ทุกครั้งที่หลอมเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะ แต่จากที่ดูเขาไร้เดียงสาไป
หลังเลื่อนเป็นขั้นสอง เขาก็ไม่คิดเสียเวลา เขาปิดประตูบ่มเพาะอีกครั้งเพื่อหลอมเขตแดนเทพถึงจ้าวเทวะที่เหลืออีกสาม
การปิดประตูบ่มเพาะรอบนี้กินเวลาสามปีก่อนหลินฮวงจะหลอมทั้งหมดได้
แต่ทว่า เขาก็ยังไม่เลื่อนเป็นขั้นสาม
เขาสามารถสัมผัสได้คร่าวๆว่าเขาควรกลายเป็นเทพสวรรค์ขั้นสามถ้าเขาหลอมอีกสักอั
“งั้นก็เป็นจริง จํานวนเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะที่ต้องใช้จะเพิ่มขึ้นทุกขั้น”
“หนึ่งสําหรับขั้นแรก สองสําหรับขั้นสอง สีสําหรับขั้นสาม ถ้าจํานวนยังคงเพิ่มตามลักษณ์นี้ข้าสงสัยว่าจะมีถึงจ้าวเทวะมากพอให้ข้าฆ่าไหม” หลินฮวงรู้สึกร้อนใจ
โดนธรรมชาติ เขาแค่พูดเล่น
ต้องรู้ว่าทั้งมหาพิภพ กิ่งจ้าวเทวะคือคนที่มีพลังสูงสุด เป็นรองแค่จ้าวเทวะ พวกเขาเป็นที่เคารพไปทั่ว
ไม่ว่ามันจะเป็นในแดนเทพ โลกมนุษย์หรือเผ่าอื่น การต่อสู้ระหว่างจ้าวเทวะและกึ่งจ้าวเทวะถูกห้ามเหตุผลเพราะพวกเขาคือคนที่มีพลังสูงสุดในมหาพิภพ การเสียไปสักคนจะนับเป็นความเสียหายสําหรับทั้งเผ่า เทียบเท่ากับการทําลายรากฐาน
ถ้ามีใครบ่มบ่ามฆ่าถึงจ้าวเทวะที่เป็นของเผ่าใด พวกเขาจะลงเอยด้วยการเป็นศัตรูของทั้งเผ่า ทั้งเผ่าจะไล่ล่าพวกเขา
นี่ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ถึงจ้าวเทวะอยู่อีกต่อไป
โดยธรรมชาติแล้ว ถ้าพวกเขาฆ่าสิ่งมีชีวิตหุบเหวหรือกิ่งจ้าวเทวะเผ่าแมลง เผ่าอื่นก็ อาจปรบมือให้พวกเขา
มีแค่สองทางที่หลินฮวงจะได้รับเขตแดนเทพกึ่งจ้าวเทวะ
หนึ่งคือเข้าหุบเหวหรือสมรภูมิรบของเผ่าแมลง อีกหนึ่งคือแลกเปลี่ยนด้วยทรัพยากรจํานวนมาก
เขาไม่สามารถฆ่าถึงจ้าวเทวะในแดนเทพได้เพราะแม้กระทั่งเคียวแห่งความตายก็ อาจหันหลังให้เขาถ้าเขาทําเช่นนั้น