Monster Paradise - ตอนที่ 1655 การกลับมาของมอนสเตอร์อัญเชิญ
ตอนที่ 1655 การกลับมาของมอนสเตอร์อัญเชิญ
หลังกินมื้อเย็น หลินฮวงก็ไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน
ดาวริคกี้เต็มไปด้วยแสงสี แม้กระทั่งตลาดกลางคืนก็ยังใหญ่กว่าดาวใดที่หลินฮวงเคยไป
ตลาดกลางคืนแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองบนโลก อย่างน้อยก็ใหญ่กว่าเมืองอู่หลินในโลกกร วดที่เขาเคยใช้ชีวิตหลายเท่า
มีทางแยก 30-40 แยก ทั้งใหญ่และเล็ก ถนนที่ยาวสุดยึดเต็มเป็นสิบกว่าเมตร และก็แออัดไปด้วยแผงลอยเป็นร้อยร้าน
มีคนมากกว่าที่เดินตามถนน แต่ทว่า แม้ไหล่พวกเขาจะไม่ชนกัน กลุ่มคนก็ถือได้ว่าแออัดมาก
พอท้องฟ้าค่อยๆมืด แสงอบอุ่นก็เริ่มสว่างที่ละหนึ่งเหนือตลาดกลางคืน ไฟตกแต่งทําให้สถานที่ดูเหมือนมีชีวิตชีวามากขึ้น
พอแสงสว่าง คนก็เริ่มทําการแสดงกัน
หลินฮวงเดินเล่นอย่างไร้จุดหมาย ตลอดทาง เขาเห็นขนมแปลกตามากมาย รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ท้องถิ่น
เขายังค้นพบว่าตลาดกลางคืนของดาวริคกี้ต้องได้รับแรงบันดาลใจโดยมนุษย์ นอกจากขนาดที่ใหญ่ ของยังเหมือนๆกัน
มีขนม เครื่องดื่ม ของประดิษฐ์ และของเล่นเด็ก
หลังเดินเล่นอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง หลินฮวงก็พลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพวกตัวตลก
จากนั้นเขาก็กลับไปห้องพักของเขา
วินาทีต่อมา มอนสเตอร์สามตัวก็ตามเขามาผ่านสัญญา
ทันทีที่ตัวตลก แลนเซล็อตกับชาโคลปรากฏตรงหน้าหลินฮวง หลินฮวงก็รับรู้
“พวกเจ้าสามคนพัฒนาค่อนข้างเยอะ” หลินฮวงพยักหน้าพอใจ
ทั้งสามเป็นเทพสวรรค์ขั้นแปดแล้ว พวกมันเกือบเท่าไคลี่ในแง่ความเร็ว
นอกจากนี้ ทั้งสามยังเลื่อนเป็นกึ่งเทพสูงสุดกันแล้ว
ด้วยระดับชั้นนี้และระดับพลัง ตราบเท่าที่ไม่เจอถึงจ้าวเทวะหรือจ้าวเทวะ พวกมันจะไร้เทียมทานในแดนเทพถ้าร่วมมือกัน
ตัวตลกยิ้มตอนได้ยินคําชมของหลินฮวง แลนเซล็อตไร้อารมณ์ ส่วนชาโคลเป็นตัวเดียวที่มีความสุขจนส่ายหาง
“เราฝึกหนักกันมาก!” ชาโคลรีบอวด” ตัวตลกพาเรา”
แต่ทว่า ตัวตลกที่ยืนด้านข้างกลับกระแอมขึ้นมา ชาโคลเหลือบมองและกลืนคําพูดที่เหลือลง
“ตัวตลกพาพวกเจ้าไปทําอะไร?” หลินฮวงเลิกคิ้ว เขาสัมผัสได้อย่างคลุมเครือว่ามันอาจไม่ถู กกฎหมาย ไม่งั้น ตัวตลกคงไม่ขัด
“คือ…”
สุดท้ายตัวตลกก็พูดขึ้น” ข้าพาพวกมันไปเก็บสะสมสมบัติ จากนั้นก็แลกเป็นเงิน”
หลินฮวงมองตัวตลก เขารู้ว่าเจ้าหมอนี่ต้องโกหกแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันคงไม่หยุดชาโคลแต่แรก
ตอนนี้ แลนเซล็อตพูดขึ้น”ครั้งนี้ท่านจะช่วยให้เราเลื่อนเป็นชั้นหกได้จริงหรือ?”
เจ้าหมอนี่เห็นได้ชัดว่ากําลังช่วยเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วพวกเจ้าทั้งสามไปสนิทกันตอนไหน?” หลินฮวงแซวแลนเซล็อตกับชาโคล
ทั้งคู่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น พวกมันไม่กล้าสบสายตาหลินฮวง
“ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะหาทรัพยากรมายังไง แต่มีเส้นที่ไม่สามารถข้ามได้อยู่” หลินฮวงเหลีอบมองทั้งสาม” พวกเจ้าห้ามทําอะไรที่ร้ายแรงต่อผู้อื่น”
หลินฮวงไม่สืบสาวเพิ่มหลังพูดจบ
เขาเปิดประตูไปเขตแดนเทพด้วยการโบกมือ จากนั้นก็ทําท่าให้ทั้งสามตาม” มากับข้า”
หลินฮวงปรากฏตรงหน้าวังจอมเทพโดยตรงพร้อมทั้งสาม
ถ้าอยากพูดถึงสถานที่ที่ปลอดภัยสุด มันย่อมเป็นวังจอมเทพ
ดังนั้น หลินฮวงจึงเลือกให้มอนสเตอร์ของเขาข้ามขั้นที่นี่
ตอนชาโคลเป็นอสูรพิทักษ์สองตัวที่ประตู มันก็โก่งหลังโดยไม่รู้ตัว
อีกาทองคําสามขาสองตัวคือวิญญาณต่อสู้ของสายพันธุ์โบราณ ไม่เพียงจะเป็นชนชั้นห้าเทพ สูงสุด แต่ระดับพลังยังเป็นเทพสวรรค์ขั้นสูงสุด
ชาโคล ผู้เดินบนวิถีแห่งไฟเป็นหลักย่อมสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แผ่จากอสูรพิทักษ์สองตัว มันยังรู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้
แต่ทว่า สิ่งที่มันไม่รู้คือไม่ว่าจะเป็นคิงคองหรือตัวอื่นก็ไม่อาจได้เปรียบถ้าอีกาทองคําสามขาสองตัวนี้ผนึกกําลังกัน
โดยธรรมชาติ แลนเซล็อตกับตัวตลกที่สัมผัสได้ว่าอสูรพิทักษ์ทั้งสองร้ายกาจแค่ไหน แต่ไม่อาจสัมผัสได้ชัดเจนแบบชาโคลน
ทั้งคู่อดมองอีกาสามขาอย่างระแวงไม่ได้
อีกาสามขาสองตัวเองก็สังเกตทั้งสามสักพักเช่นกัน และลากสายตาออกเมื่อเห็นหลินฮวงนําทงสมมา
มอนสเตอร์ทั้งสามเดินตามหลินฮวงไปที่ทางเข้าวังจอมเทพ
ทั้งสามประหม่าอีกครั้งพอเห็นประตูวังสองบาน
ดวงตาของมังกรไฟโบราณที่สลักไว้บนประตูเริ่มขยับกลอก จากนั้นก็จับจ้องชาโคลกับอีกสอง
มังกรไฟโบราณสองตัวแค่เหลือบมองแลนเซล็อตกับตัวตลก จากนั้นก็หันมาตรวจสอบสมาชิกเผ่าของพวกมันอย่างชาโคล
พวกมันไม่พูดอะไรกับชาโคลสักคํา
ในฐานะสมาชิกเผ่ามังกรเลือดบริสุทธิ์ มันเป็นปกติที่ทั้งสองจะอยากรู้เกี่ยวกับผู้เยาว์ที่มีสายเลือดเดียวกัน
ชาโคลรู้สึกเหมือนโดนภูเขากดทับ
มันสามารถสัมผัสได้ว่ามังกรทั้งสองนั้นมีสายเลือดทรงพลังแค่ไหน
มันแค่เหลือบมองรูปแกะสลักนั้นชั่วขณะ จากนั้นก็ก้มหัว ไม่กล้ามองอีก
หลังหลินฮวงผลักเปิดประตูวัง และมังกรไฟโบราณสองตัวหลับตาลงอีก ชาโคลถึงรู้สึกว่าแรงกดดันหายไป มันรีบวิ่งตามหลินฮวงเข้าวังไป
ตัวตลกกับแลนเซล็อตถอนหายใจโล่งอกแทบพร้อมกัน
แม้พวกมันจะไม่โดนมังกรไฟโบราณหมายตา แรงกดดันจากกลิ่นอายของมังกรก็ยังน่ากลัว
หลินฮวงนําทั้งสามเข้าไปลึกในวัง จากนั้นก็หยุดที่ที่บัลลังก์ตั้ง
“พวกเจ้านั่งลงก่อน และสงบจิตสงบใจซะ”
ทั้งสามนั่งลงทันทีตอนได้ยินและเริ่มปรับลมหายใจขณะหลับตา
พูดตามตจรง กลิ่นอายพวกมันได้รับผลกระทบโดยอารมณ์นับตั้งแต่เจอหลินฮวงและผันผวนไม่หยุด ตอนพวกมันเห็นอีกาทองคําสามขาและมังกรไฟโบราณ กลิ่นอายของพวกมันก็ยิ่งยากจะสงบ
หลินฮวงรู้ ซึ่งทําให้เขาบอกทั้งสามให้ทําสมาธิเพื่อปรับลมหายใจ
หลังจากนั้นไม่นาน พอรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของทั้งสามสงบลงแล้วและกลิ่นอายก็ไม่ผันผวนอีก หลินฮวงถึงติดต่อเสี่ยวเฮยและขอให้สร้างการ์ดเลื่อนขั้นระดับห้าและหก
“พวกเจ้าไม่ต้องลืมตา แค่รับรู้ถึงการเลื่อนชั้นก็พอ”
ทันทีที่หลินฮวงพูดจบ เขาก็บดขยี้การ์ดในมือ
การ์ดหกใบเปลี่ยนเป็นแสงสีทองที่เข้าตัวทั้งสามไป
จุดแสงสีทองอยู่ในตัวพวกมันไม่กี่วินาทีก่อนรังไหมจะเริ่มก่อตัวบนร่างของทั้งสามด้วยความไวสูง