MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 278
ตอนที่ 278 มณฑลทางตอนเหนือ
ลู่เฟิง เพิกเฉยต่อความกลัวในดวงตาของ ฉางหลิน เขาเพียงมองไปที่ ฉางหลิน อย่างเย็นชา และ หันหลังกลับ จากนั้นก็ส่งมอบให้ทาสดาบทั้งหกดูแลต่อ พวกเขารีบมุ่งหน้ากลับไปยังเมืองเร้ดเมเปิ้ล
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวดหลังจากระเบิดทักษะลับออกมาแต่ลู่เฟิงก็ไม่มีเวลามาใส่ใจกับความเจ็บปวด
เขาได้ทานโอสถรักษาพร้อมกับอดทนต่อความเจ็บปวดและรีบมุ่งหน้าไปที่เมืองเร้ดเมเปิ้ล
ตอนนี้เวลาของเขามีค่ามาก!
เมื่อเขามาถึงที่ตั้งของเมืองเร้ดเมเปิ้ล จุดที่วางขายอาคมเอาไว้ ลู่เฟิง มองเห็น จุดสว่างสลัว ๆ อันนึง เขาได้แสดงสีหน้าหนักอึ้งออกมา” ดูเหมือนว่าพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือ จะพบ อาคมเคลื่อนย้าย ในมณฑลเฮยเสียนแล้วและทําลายมัน”
จุดสว่างสลัวคืออาคมเคลื่อนย้ายที่นําไปสู่มณฑลเฮยเสียนตอนนี้มันถูกทําลายไปแล้ว
เดิมเขาต้องการส่งใครสักคนไปที่มณฑลเฮยเสียน เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์อย่างลับ ๆ
สิ่งนี้ทําให้เขายากจะรู้ว่าสถานการณ์ของมณฑลเฮยเสียนกําลังประสบปัญหาอันตรายแค่ไหน
สูด!
เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามสงบอารมณ์ในใจเล็กน้อยเขาได้พาทาสดาบทั้งหกเข้าสู่อาคมเคลื่อนย้ายไปเมืองหลวง
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงเมืองหลวง
เขาไม่ได้ไปพบ ฮวามู่หลาน ที่ตําหนัก แต่ส่งคนไปแจ้งต่อ ซุนฮก โดยตรง ในเวลาเดียวกัน เขาก็รีบไปที่ค่ายทหารองค์รักษ์ และ รีบเกณฑ์กําลังพลไปยังสามมณฑลทางตอนเหนือพร้อมกับองค์รักษ์หนึ่งแสนนายด้วยความเร็วสูงสุด
ในอีกด้านนึง เกาชุน หลังจาก รับคําสั่งของ ลู่เฟิง เขาก็พา กองพันทหารค่ายมุ่งหน้าไปที่สาม มณฑลทางตอนเหนือทันที
แต่เขาไม่ได้เลือกเดินทางจากอาณาจักรหนานหยานไปยังสามมณฑลทางตอนเหนือ
“ท่านแม่ทัพ เป็นไปได้งั้นหรือที่พวกเราจะใช้ทางจากภูเขารกร้างไปยังสามมณฑลทางตอนเหนือ” รองแม่ทัพของเกาชุน ได้กล่าวถามอย่างเป็นกังวล
ภูเขารกร้าง เป็นภูเขาขนาดใหญ่ในอาณาจักรอู๋เซียง ซึ่งแยกออกมาจากอาณาจักรอู๋เซียง อยู่ใกล้กับตอนเหนือของอาณาจักรหนานหยาน
เนินเขาของภูเขารกร้างสูงชันและไม่มีใครเคยกล้าใช้ทหารเดินทัพผ่านทางนี้
เพราะสถานที่แห่งนี้ ค่อนข้างซับซ้อนทั้งยังเดินทางได้อย่างยากลําบาก
เกาชุนได้กล่าวอย่างเคร่งขรึม”ไม่ได้ยังไงก็ต้องได้!”
“จากที่นี่ตอนนี้หากเราต้องการไปยังสามมณฑลทางตอนเหนือพวกเราจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวันในการเดินทาง แม้จะวิ่งด้วยพละกําลังทั้งหมดที่มีถึงจะเป็นกองพันทหารค่ายแห่งนี้ ก็คงทนไม่ไหว
“แต่ถ้าผ่านภูเขารกร้างไปได้คิดจะเดินทางไปยังสามมณฑลทางตอนเหนือกลับใช้เวลาเพียง แค่สามวันเท่านั้น ตอนนี้สามมณฑลทางตอนเหนือ ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เวลาเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด ไม่ว่ายังไง กองพันทหารค่าย จะต้องผ่านภูเขารกร้างไปให้ได้ พวกเราจะต้องปกป้องสาม มณฑลทางตอนเหนือ ไม่ให้พวกคนเถื่อนพวกนั้นมาเหยียบย่ำแผ่นดินของอาณาจักรหนานหยานของพวกเรา
“ขอรับ!”รองแม่ทัพได้ยินดังนั้นก็ตอบเสียงดังทันที
“ทหารทุกคนจงฟัง มุ่งหน้าสู่ภูเขารกร้างด้วยความเร็วสูงสุด ถ้ามีใครกล้าขวางทางพวกเราฆ่ามันให้หมด!”
“ขอรับ!”
เกาชุน ได้นํากองพันทหารค่าย มุ่งหน้าสู่ภูเขารกร้างด้วยความเร็วสูงสุด พวกเขากําลังข้ามเมืองหลายเมืองที่ชายแดนของอาณาจักรอู๋เซียง และ ถูกปิดกั้นระหว่างทางเป็นจํานวนมาก
อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของกองพันทหารค่าย พวกเขาสามารถฝ่า อุปสรรคทั้งหมดไปได้ทั้งยังสูญเสียน้อยมาก
สองวันต่อมาในที่สุด เกาชุน ก็พากองพันทหารค่ายไปถึงภูเขารกร้าง
เขาได้ออกคําสั่งให้กองทัพขึ้นไปบนภูเขาทันที
เมื่อเขาไปถึงภูเขา เขามองไปที่ก้นบึ้ง และ เศษซากผุพังของสถานที่แห่งนี้ ข้างล่าง เป็นเหวลึก เขาไม่สงสัยเลยว่าทําไมไม่มีกองทัพใดเคยคิดโจมตีจากที่นี่
เนื่องเพราะ หากคิดจะโจมตีที่นี่ สถานที่ด้านข้างสองแห่ง สามารถสกัดสกั้นได้อย่างง่ายดาย
โชคดีที่เกาชุน มาจากทิศทางของอาณาจักรอู๋เซียง และ จัดเตรียมวางกําลังป้องกันทหารของอาณาจักรเซียงไว้ เผื่อมีใครลอบโจมตีพวกเขาจากด้านหลัง
“ข้ามสะพานไม้!”
“ขอรับ!”
เกาชุน ได้เป็นผู้นําถือธงของแม่ทัพไปข้างหน้า
เขาได้บอกทหารที่รักษาการเนินเขาอันแห้งแล้งของอาณาจักรหนานหยานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามว่าเขาคือแม่ทัพเกาชุนดังนั้นจึงอย่าโจมตี
มิฉะนั้น หากทหารของเขาตกลงไปข้างล่างนี้มีแต่ตายสถานเดียว
“ท่านแม่ทัพ มีคนกําลังข้ามสะพานไม้ และ ยังถือธงกองทัพของแม่ทัพเกาชุน!”
อีกด้านหนึ่งของภูเขารกร้าง รองแม่ทัพ ที่ได้รับหน้าที่อารักษ์ขาพื้นที่ได้รับรายงาน จากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
“อะไรนะ แม่ทัพเกา?”
เซียวอวี๋ สะดุ้งเล็กน้อย และมองไปที่ สะพานไม้ด้านหน้าทันที
เมื่อเขามองเห็นว่าเป็นเกาชุน เขาก็รู้สึกงุนงงทันที “น่าแปลก ทําไมแม่ทัพเกา ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
“ท่านแม่ทัพพวกเราจะโจมตีพวกเขาเลยหรือไม่?” ทหารข้าง ๆ ได้กล่าวถาม
“โจมตีกะผีหนะสิ!”
แม่ทัพคนนี้ได้ก่นด่าออกมา “นั่นคือ แม่ทัพเกาชุน เจ้ากล้ามีความคิดที่จะโจมตีเขา รู้สึกเบื่อไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไร?”
“ข้าน้อย ขออภัย!”
“เร็วเข้า รีบไปตามพี่น้องของเรามาเข้าแถวเพื่อต้อนรับแม่ทัพเกา”
” ขอรับ!”
เกาชุน รู้สึกโล่งใจ ที่ไม่มีใครโจมตีมา
แม้เขาจะถือธงกองทัพ แต่เขาก็กังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีมาก โชคดีที่สถานการณ์อันตรายไม่เกิดขึ้น
ในไม่ช้า เกาชุน ก็ข้ามสะพานไม้มาได้สําเร็จ
“ข้าน้อย เซียวอวี่ ยินดีที่ได้พบท่านแม่ทัพเกา”
“ยินดีที่ได้พบท่านแม่ทัพเกา!”
ทหารทุกคนได้ตะโกนพร้อมกัน
“ลุกขึ้นเถิด!”
“แม่ทัพเชียว!”
เกาชุน ได้มองไปที่แม่ทัพคนนี้ “ทําไมทหารใต้บังคับบัญชาของเจ้าถึงเหลืออยู่นับพันหรือว่าเจ้าไม่ได้พบการโจมตีจากศัตรู?”
“ศัตรู?”
แม่ทัพคนนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวถามด้วยความสงสัย “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่ เห็นศัตรูเดินผ่านสะพานไม้มาเลย เรียนถามท่านแม่ทัพมีศัตรูบุกมาด้วยงั้นเหรอ?”
เกาชุน ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวถาม “นําแผนที่มา!”
“ขอรับ!”
แม่ทัพคนนี้ได้ยื่นส่งแผนที่ให้กับเกาชุน
เกาขุนพบว่า บนภูเขารกร้างนั้น ด้านใต้บนภูเขา คือเมืองเหยียนซาน
เขาได้กล่าวถามออกมา “เจ้าลงจากภูเขาไปล่าสุดตอนไหน?”
“เมื่อวานพวกเราเพิ่งลงไปรับเสบียง”
“เจ้าเคยได้ยินข่าวการโจมตีของทหารม้าจากพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือหรือไม่?”
“ข้าน้อย ได้ยินมาบ้าง แต่มันเกิดขึ้นในมณฑลเฮยเสียน ดูท่าพวกมันน่าจะยังบุกมาไม่ถึงมณฑลเฉินหลง”
เกาชุน รู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยิน โชคดีที่สามมณฑลทางตอนเหนือ ยังไม่ถูกยึดครองโดยสมบูรณ์
เขาปล่อยให้กองพันทหารค่ายพักผ่อนเดินลงไปที่เนินเขารกร้างและมุ่งหน้าไปยังเมืองเหยียนซาน
วันต่อมา เกาชุน ได้นํากองพันทหารค่ายไปถึงด้านล่างของภูเขารกร้าง ไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงภูเขาเหยียนซาน
นี่คือด้านหลังของภูเขาเหยียนซาน และ ห่างจาก เมืองเหยียนซาน ไม่ถึงครึ่งวัน
เมื่อเขามาถึงที่นี่ เกาชุนก็รู้สึกโล่งใจ ในที่สุด เขาก็มาถึง สามมณฑลทางตอนเหนือ
“ท่านแม่ทัพ ข้างหน้ามีอะไร?” ทันใดนั้นทหารคนหนึ่งก็ชี้ไปยังทางทิศตะวันออกของภูเขาเหยียนซานและพูดขึ้น
เกาชุน ได้เงยหน้ามองและเห็นฝุ่นละอองจํานวนมาก
ดวงตาของเกาชุนได้หดตัวลงทันที “นั่นมันกองทัพทหารม้า!”
ในฐานะแม่ทัพชั้นนําแล้ว เกาชุน สามารถบอกได้เลยว่าร่องรอยนี้เกิดจาก การเคลื่อนพลของกองทัพทหารม้า
และดูจากระดับของฝุ่นแล้ว อย่างน้อย ทัพทหารม้านั่นจะต้องมีมากกว่าหนึ่งแสนนาย!
มีความเป็นไปได้เดียวที่ทหารม้าได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่
พวกคนเถื่อนทางตอนเหนือ!
“กองทัพทหารม้า?” รองแม่ทัพคนนี้ ถึงกับผงะ”เป็นไปได้ยังไง! ทางตะวันออกของภูเขาเหยียนซานคือ มณฑลหนานฉู่ ซึ่งเป็นมณฑลที่ใหญ่ที่สุดในสามมณฑลทางตอนเหนือมีทหารองค์รักษ์ประจําอยู่อย่างน้อย 150,000 นาย ทําไมพวกมันถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เร็วนัก?”