MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 299
ตอนที่ 299 ใครกล้าที่จะทําร้ายนักรบอาณาจักรหนานหยาน?
ลิโป้ไม่ได้มีความลังเลในใจเขาได้ตะโกนขึ้น”ทัพหน้าตามข้าคนนี้ไปสังหารพวกคนเถื่อนและช่วยเหลือนักรบอาณาจักรหนานหยานของพวกเรา!”
“ขอรับ!”
ทัพหน้าที่ถูกจัดตั้งโดยลิโป้ใหม่มีเพียงทหารม้า 10,000 นาย แต่ทว่ามันกลับเป็นกองทัพที่ยอดเยี่ยมที่สุด10,000 นายที่ถูกเลือกโดย ลิโป้ จากทหารม้าใหม่ทั้งหมด 300,000 นายพลังการต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารม้าผู้ภักดีที่มีประสบการณ์ชีวิตและความตายมาก่อน
“เคลื่อนพล!”
ลิโป้ ได้ยกง่าวขึ้นนําทัพหน้าใหม่ 10,000 นาย ไปที่เขื่อนเพิ่งเฮยปาเพื่อช่วยเหลือ หรานเหมินและฮั่วช
ฟุบ!
ขณะเดียวกัน มือซ้ายของ หรานเหมิน ที่กําลังใช้หอกสองคมได้วาดฟันพวกคนเถื่อนขวาของเขาก็พยายามตั้งรับการโจมตีของพวกคนเถื่อนโดยตรง
“ตายซะ!”
หอกของ ฮั่วชูปิง ไม่ได้ดุดันและรุนแรงเหมือนครั้งก่อนอีกต่อไป เพื่อประหยัดพลังงานเขาได้สังหารพวกคนเถื่อนน้อยลงอย่างมากและเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด
พวกเขาสองคนร่วมมือกันสังหารพวกคนเถื่อนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามพวกคนเถื่อนก็ไม่มีวี่แววท่าทีว่าจะลดลงแม้แต่น้อย
ฟวั่บ!
พวกคนเถื่อนกว่าหนึ่งโหลได้ถูกหอกสองคมของหรานเหมินตัดศีรษะจนขาดกระเด็น
“หายไปซะ!”
หรานเหมินได้คํารามออกมา
ฟวับ!
ร่างของพวกคนเถื่อนหลายคนถูกซัดกระเด็นลอยไปไกล
แม้ว่าพลังปราณแท้จริงในร่างกายของหรานเหมินจะถูกยับยั้งแต่ความกล้าหาญของเขาก็ไม่ได้ลดลง
อย่างไรก็ตามเขากลับเหนื่อยหอบออกมาเล็กน้อย
หากปราศจากพลังปราณแท้จริงในร่างกาย พลังกายภาพของเขาก็ฟื้นตัวช้ามาก แม้แต่ หรานเหมินก็ยังรู้สึกว่าตนเองสูญเสียพลังงานมากไป
“พี่ใหญ่,ดูเหมือนว่าพวกเราสองคนคงต้องจบชีวิตลงที่นี่”ฮั่วชูปิง แทงร่างของพวกคนเถื่อนโดยรอบและกล่าวพูดกับ หรานเหมิน
“ฮ่าฮ่า,แล้วอย่างไร ยังไงวันนี้พวกเราก็ได้สังหารพวกคนเถื่อนเท่ากับว่าเป็นการแก้แค้นให้กับบ้านเกิดของเรา”
ฟวั่บ!
หรานเหมิน เองก็ยังคงฆ่าพวกคนเถื่อนต่อ
“ใช่,พวกเราทําเพื่อการแก้แค้น! แต่…”
ใบหน้าของ ฮั่วชูปิง รู้สึกขมขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดต่อ”ข้าขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้ท่านต้องมาตายด้วย”
“ไร้สาระ ข้าแค่ติดตามเจ้ามาฆ่าพวกคนเถื่อนเหล่านี้ เจ้าไม่ได้มีความผิดอะไรสักหน่อย”
หรานเหมิน ได้พูดเสียงดัง”ถ้าเจ้ายังสามารถพูดได้อยู่เช่นนี้เอาเวลาไปฆ่าพวกคนเถื่อนให้ได้มากที่สุดจะดีกว่า”
“ฮ่าฮ่า,เข้าใจแล้วพี่ใหญ่ข้าจะฟังท่าน”
ฮั่วชูปิง ได้หัวเราะพร้อมกับโบกหอกในมือแทงร่างพวกคนเถื่อนสองสามคนที่พุ่งเข้ามา
ทั้งสองคนได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญจนป้องกันไม่ให้พวกคนเถื่อนรุกล้ําเข้ามาใกล้ได้
อย่างไรก็ตามพวกคนเถื่อนมีมากเกินไป ในเวลาสั้น ๆ เพียง ครึ่งชั่วโมง พวกเขากลับสูญเสียพลังกายไปจนแทบจะถึงขีดจํากัด
ใบหน้าของ หรานเหมินซีดเล็กน้อย นี่เป็นเพราะเขาใช้พลังมากเกินไป
ฮั่วชูปิง เองก็ไม่ต่างกัน ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาได้มาถึงขีดจํากัด เขาได้ต่อสู้มานานเกือบชั่วโมงด้วยพลังใจตอนนี้หอกในมือของเขารู้สึกหนักอึ้งอย่างมาก
“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กพวกนี้ใกล้จะหมดแรงแล้ว ฆ่าพวกมันเร็วเข้า!”
พวกคนเถื่อน ได้หัวเราะออกมา เมื่อเห็น พวก ฮั่วชูปิง ใกล้หมดแรง
การโจมตีของ ฮั่วชูปิง ตอนนี้ แทบจะไม่สามารถใช้ออกไปได้ ชายคนนึงได้แทงหอกยาวเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขา
แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้มีหรือที่จะยกมันต้านทานได้ทัน
เพรั้ง!
ถึงอย่างนั้นการโจมตีของพวกคนเถื่อนกลับถูกผลักออกไป
“พี่ใหญ่!”
ฮัวชูปิง มองไปที่ หรานเหมิน และ ยิ้มอย่างขมขึ้น”พี่ใหญ่,ด้วย วอาจจะยังพอมีหวังที่จะหลบหนีไปได้!”
“หนีไป?”
“หม!”
“เจ้าคิดว่าข้าหรานเหมิน รักตัวกลัวตายขนาดนั้น?”
หรานเหมิน หัวเราะออกมา”น้องชาย,ถ้าเกิดเจ้าไม่ไหวเช่นนั้นพี่ชายคนนี้จะปกป้องเจ้าให้ถึงที่สุดเอง!”
ตู้ม!
ด้วยเหตุนี้ หอกสองคมในมือของเขาจึงวาดฟันออกไปตัดศีรษะพวกคนเถื่อนอีกครั้ง
“มันยังไม่หมดแรงอีกรึไง?”
ถั่วปาฟู มองไปที่ พวกเขาด้วยสายตาเย็นชาและพูดขึ้น”เอาธนูและลูกศรมาให้ข้า!”
รองแม่ทัพหลายคนได้มองไปที่ ถั่วปาฟู และ ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้พูด
พวกเขารู้จัก ถั่วปาฟู เป็นอย่างดี ทักษะการยิงธนูของอีกฝ่ายนั้นดีกว่าทหารธรรมดาเล็กน้อย นี่เป็นสาเหตุที่ทําให้ถั่วปาฟูไม่ยิงลูกศรออกไปจัดการ หรานเหมิน และ ฮั่วชูปิง
แต่เมื่อพวกเขาเห็นสภาพร่างกายของ ฮั่วชูปิง และ หรานเหมิน พวกเขาก็คิดว่าโอกาสของพวกเขามาถึง
แต่นี่มันค่อนข้างไร้ยางอายเกินไป
แม้ว่าพวกคนเถื่อนจะโหดร้าย แต่พวกเขาก็ชื่นชมผู้แข็งแกร่ง ในสายตาของรองแม่ทัพนักรบอาณาจักรหนานหยานทั้งสองคนที่ถูกปิดล้อมโดยพวกเขาจํานวนมาก สามารถต้านทานได้นานขนาดนี้ย่อมได้รับความเคารพอย่างแน่นอน
แต่หัวหน้าของพวกเขากลับใช้วิธีไร้ยางอายในการลอบโจมตี
ถึงจะพูดแบบนี้ มันก็ทําอะไรไม่ได้ ถ้วปาฟู น้องชายของ ผู้นําเผ่า พวกเขาจะกล้าต่อต้านได้อย่างไร
ทหารได้ส่งคันธนูและลูกศรให้กับ ถั่วปาฟู เขาได้ง้างมันขึ้นเล็กน้อยและเล็งไปที่ ชั่วชูปิง ที่กําลังขี่ม้าศึกอยู่”เด็กน้อย,หลังจากข้าฆ่าเจ้าแล้ว ม้าตัวนั้นข้าจะขอรับไว้แล้วกัน!”
ขณะที่เขากําลังจะปล่อยลูกศรออกไป
ในขณะนั้นก็มีเสียงคํารามดังขึ้น”ใครกล้าที่จะทําร้ายนักรบอาณาจักรหนานหยานของข้า”
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธและดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ
แม้แต่พวกคนเถื่อนที่กําลังปิดล้อม หรานเหมิน และ ฮั่วชูปิง ก็ยังสั่นสะท้าน
“รุนแรงมาก!”
ดวงตาของ หรานเหมิน เป็นประกาย เขาที่เป็นนักรบระดับ 7 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ สามารถบอกได้เลยว่าความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ไม่ได้ต่ําไปกว่าตัวเขาเองอย่างแน่นอน
หม!
ถัวปาฟ รู้สึกตกใจมาก เขาตกใจจนร่างกายของเขาสั่นและเผลอปล่อยลูกศรออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่เนื่องจากเพราะเขาสั่นสะเท้านจึงทําให้ ลูกศรที่ยิงออกไปไม่ถูก ฮั่วชูปิง แต่กลับโดนพวกของเขาแทน
สิ่งนี้ทําให้ ถ้วปาฟู รู้สึกอายและร้องตะโกนออกมา”ใครกัน?”
รอบข้างของเขาไม่มีใครตอบ แต่ในขณะนี้พวกเขารู้สึกว่าผืนดินกําลังสั่นสะเทือน
“ทหารม้า!”
ดวงตาของ ถั่วปาฟู ขยับเล็กน้อย ในฐานะหนึ่งในผู้นําทัพทหารม้าเขาสามารถรู้ได้ในทันทีว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่ทัพทหารม้าบุกโจมตี
ระยะทางของมันอยู่ไม่ไกลมาก
“ทหารม้าทุกคนจงฟัง ยกเว้นทั้งสองคนตรงนั้น ทุกคนเตรียมพร้อมต่อสู้!”
ทหารม้า 100,000 นายที่นําโดย ถั่วปาฟู นั้นเป็นทหารม้าแนวหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุด พวกเขากลัวว่าลู่เฟิงจะส่งคนมายึดเขื่อนเพิ่งเฮยปา จึงส่งกองกําลังมาที่นี่เพื่อป้องกันเอาไว้
ตอนนี้ทหารม้าคนเถื่อนได้ยินคําพูดของ ถั่วปาฟู พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะจัดตั้งขบวนทัพรอรับการโจมตีของทหารม้าที่กําลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า
“พี่ใหญ่,ดูเหมือนทัพทหารม้าของฝ่าบาทจะมาถึงแล้ว”ฮั่วชูปิง ได้พูดกับ หรานเหมิน
หรานเหมิน ได้ตัดศีรษะพวกคนเถิ่นและพยักหน้าพูดขึ้น”เขื่อนเฟิงเหอ เป็นยุทธศาสตร์สําคัญ ด้วยความปรี ชาของฝ่าบาท พระองค์ไม่มีทางปล่อยที่นี่ไปอย่างแน่นอนดังนั้นผู้ที่นําทัพมาในคราวนี้จะต้องเป็นยอดแม่ทัพไม่ผิดแน่”
“คนผู้นั้นน่าจะเป็น เหวินโหวลิโป้!”ร่องรอยของการเคารพได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของ ฮั่วชูปิง