MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 306
ตอนที่ 306 การเคลื่อนไหวของกองทัพ
“ข้าต้องการแก้ไขปัญหาพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือทั้งหมดในสามมณฑลทางตอนเหนือ พวกเจ้ามีวิธีที่ดีแนะนําหรือไม่?”ลู่เฟิง จ้องมองไปที่แม่ทัพทั้งสามคนของเขา
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้อง ตอนนี้เขาไม่มีที่ปรึกษาอยู่ข้าง ๆ เพื่อที่จะถามได้ ดังนั้น เขาจึงได้แต่หวังว่า ลิโป้,หรานเหมิน และ ฮั่วชูปิง ทั้งสามคนพอจะให้คําแนะนําแก่เขาได้
ลิโป้ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ฝ่าบาทในความคิดของข้าน้อย แม้พวกเราจะมีกําลังพลทหารม้าไม่ได้มากเท่าพวกคนเถื่อน แต่ข้าก็มีความมั่นใจว่าพวกเราจะสามารถเอาชนะพวกมันได้ด้วยทหารของพวกเรา”
เมื่อลู่เฟิงได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกพูดไม่ออก
บางทีหากได้รับความช่วยเหลือจากแม่ทัพที่แข็งแกร่งทั้งสามคน ลิโป้,หรานเหมิน และฮั่วชูปิงการนําทัพ 300,000 นายก็อาจจะเอาชนะทัพคนเถื่อนที่มีทหารมากกว่า 1 ล้านนายได้จริง ๆ
โดยเฉพาะการนําทหารม้าของลิโป้ และฮั่วชูปิง พวกเขาสามารถทําได้ดี ในกรณีของหรานเหมินเองก็ไม่ได้อ่อนแอ เมื่อมีทหารม้าอยู่ภายใต้บัญชาประสิทธิภาพการรบของพวกเขาย่อมต้องน่ากลัวอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามหากเขาทําเช่นนั้น ทหารม้า 300,000 นาย ที่เพิ่งก่อตั้งมาใหม่ก็อาจจะเหลือไม่ถึง 3,000 นาย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขายังมีทหารราบอีก 200,000 นายอยู่ในมือ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยให้ทหารราบนั่งรอชมการแสดงอย่างเดียวได้
ลู่เฟิงไม่สามารถใช้วิธีฆ่าศัตรูพันคนสูญเสียแปดร้อย นี่มันสาหัสเกินไป
แม้การบาดเจ็บล้มตายจากสงครามจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สถานการณ์ในปัจจุบันของอาณาจักรหนานหยาน ยังคงมีแรงกดดันจากทั้งสามทางเขาไม่สามารถผลาญชีวิตทหารไปกับการรบพวกคนเถื่อนที่นี่ได้
ข้อเสนอแนะของลิโป้ จึงไม่ค่อยเป็นที่พึงปราถนาสักเท่าไหร่
หรานเหมิน มองไปที่ลู่เฟิง และตอบกลับ”ฝ่าบาทถ้าพวกเราวางแนวป้องกันเอาไว้แทนละพะยะค่ะ?”
“วางแนวป้องกัน?”ลู่เฟิงกล่าวถามหรานเหมิน
ในเวลาเดียวกัน เขาก็หวังว่าหรานเหมิน ราชาสวรรค์ผู้นี้จะมีความคิดแนะนําที่ดีให้กับตัวเอง
หรานเหมิน ได้คร่ําครวญเล็กน้อย”ฝ่าบาท พวกทหารม้าคนเถื่อนเป็นที่แน่ชัดว่าพวกมันต้องการเอาชนะกองทัพภายใต้พระหัตถ์ของพระองค์โดยสมบูรณ์ ตราบใดที่กองทัพของพระองค์พ่ายแพ้ พวกมันคงคิดว่าอาณาจัก หนานหยาน คงจะจบสิ้น พวกมันสามารถบุกตรงไปยังเมืองหลวงได้โดยตรง”
“พวกคนเถื่อนมีความโลภและความโหดร้ายที่เป็นสิ่งที่เรารู้กันอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกมันจะต้องกระตือรือร้นที่จะเอาชนะฝ่าบาทให้ได้ในตอนนี้”
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย”ว่าต่อ…”
“ขอรับ!”
หรานเหมิน ได้จัดระเบียบคําพูดและพูดต่อ”ฝ่าบาท ในเมืองฉางซาน มีกองทัพของพระองค์อยู่ หากพวกคนเถื่อนต้องการบุกโจมตีฝ่าบาทที่เมืองฉางซาน ก็มีเพียงตัวเลือกสามเส้นทางเท่านั้น หนึ่งคือ ยึดมณฑลหนานฉู่ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีมณฑลหนานฉู่เพื่อยึดครองที่นั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกคนเถื่อน ไม่เก่งในเรื่องการบุกโจมตีเมือง”
“ทางเลือกที่สองคือ จากมณฑลเล่ยหยางผ่านมณฑลหยู่ซิง ซึ่งด้านหลังก็คือเมืองฉางซาน แต่นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ภูมิประเทศของมณฑลเล่ยหยางนั้นไม่สม่ําเสมอและอาจกล่าวได้ว่าเป็นทางชัยที่ทหารม้าไม่สามารถผ่านไปได้จํานวนมาก ถึงแม้จะผ่านมาได้ แต่จํานวนที่ผ่านมาได้ก็ไม่น่าจะสามารถเอชนะกองทัพนับแสน ของฝ่าบาทได้”
“เส้นทางสุดท้ายก็คือ เขื่อนเฟิงเฮยปา!”
“ผ่านเป็นเฟิงเฮยปา พวกคนเถื่อนสามารถบุกโจมตีด้านหน้าของเมืองฉางซานได้โดยตรง แต่ตอนนี้ เขื่อนเพิ่งเฮยปา อยู่ในมือของพวกเราแล้ว ถ้าพวกคนเถื่อนต้องการบุกโจมตี จะต้องผ่านเขื่อนเฟิงเฮยปาก่อน หากเราตั้งปราการด่านที่นั่นมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้านทานพวกมันได้”
เมื่อได้ยิน คําพูดของหรานเหมิน ลู่เฟิงก็พยักหน้าอย่างลับ ๆ ดูเหมือนว่า ราชาสวรรค์หรานเหมิน ในประวัติศาสตร์ สมแล้วที่ไม่ได้อ่อนแอ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของศัตรูและตัวเราได้อย่างละเอียด
แต่เมื่อมองไปที่หรานเหมิน ลู่เฟิงก็พูดขึ้น”สิ่งที่เจ้าพูดมานั้นคือการป้องกัน แต่สิ่งที่ข้าต้องการคือวิธีเอาชนะพวกคนเถื่อนเหล่านั้น บอกข้าที่ว่าเจ้ามีวิธีที่ดี”
“ฝ่าบาท พวกคนเถื่อนไม่สามารถลอบโจมตีจากทางด้านหลังได้ แต่พวกเราทําได้!”
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหรานเหมิน”ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีพวกคนเถื่อนผ่าน ภูเขาเหยียนซาน,มณฑลหนานจี่ หรือมณฑลเล่ยหยาง ทุกที่ล้วนตัดไปที่ มณฑลเฮยเสียนได้ทั้งหมด พวกเราสามารถบุกโจมตีโดยพวกมันแทบจะไม่ทันได้ระวังตัว!”
ดวงตาของ ลู่เฟิง สว่างวาบขึ้น เขาได้ตรวจสอบสถานที่ทั้งหมดตามคําแนะนําของ หรานเหมิน
หลังจากอ่านจบเขาก็พบว่าเป็นอย่างที่หรานเหมิน พูด จากภูเขาเหยียนซาน ไปยังมณฑลหนานจี่ สามารถลอบโจมตีด้านหลังพวกทหารม้าคนเถื่อนได้
และพวกทหารม้าคนเถื่อนคงจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างแน่นอนถึงตอนนั้นพวกเขาก็คงบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว
อีกด้านนึง ผ่านมณฑลเล่ยหยาง ไปยังมณฑลเฮยเสียน
หลังจากเข้าไปถึงภายในมณฑลคุณจะสามารถไปถึงเมืองเปยกวนได้โดยตรง
มีประตูใหญ่อยู่ห่างออกไปหลายสิบไมล์จากเมืองเป๋ยกวน ที่นั่นคือ สถานที่สําคัญของมณฑลเฮยเสียน โดยปกติแล้วจะเป็นที่ตั้งกองทัพของมณฑลเฮยเสียน ดังนั้น การปกป้องเมืองเปยกวน มันจึงเป็นเรื่องยากมากสําหรับพวกคนเถื่อนถ้าหากคิดจะโจมตีสามมณฑลทางตอนเหนือ
เนื่องจากทุ่งหญ้าทางตอนเหนือผ่านสามมณฑลทางตอนเหนือนั้นจะต้องผ่านเมืองเบี้ยกวนก่อน
พูดไปแล้วมันก็น่าเจ็บไป เซียงรุ่ยหราน ได้ถอนกําลังทหารออกจากเป่ยกวนและหลบหนีมายังมณฑลเล็ก ๆ จากนั้นก็ถอนกําลังทหารไปเรื่อย ๆ ทําให้มณฑลเฮยเสียนทั้งหมด กลายเป็นสรวงสวรรค์สําหรับพวกคนเถื่อนที่ปล้นฆ่าได้ตามใจ
หากยึดเปุ๋ยกวนได้แล้วโดยพื้นฐานแล้วพวกคนเถื่อนจะไม่สามารถกลับไปที่ทุ่งหญ้าของพวกมันได้
ในขณะเดียวกัน การสนับสนุนจากพวกคนเถื่อนผ่านทุ่งหญ้าก็จะถูกปิดกั้น ดังนั้น เปยกวนคือภัยธรรมชาติ ที่ป้องกันไม่ให้พวกคนเถื่อนเข้าและออกพื้นที่
“หากสามารถยึดครองเมืองเป๋ยกวนได้พวกมันก็จะถูกขังโดยสมบูรณ์!”
ดวงตาของลู่เฟิง เปล่งประกายขึ้นเขามองไปที่หรานเหมินและพูดเสียงดัง”หรานเหมิน ข้าขอสั่งให้เจ้านําทัพทหารราบหนึ่งแสนนายไปตามเส้นทางมณฑลเล่ยหยางข้ามมณฑลเฮยเสียนไปยึดเมืองเป่ยกวน เจ้าทําได้หรือไม่?”
ยึดเมืองเป๋ยกวน?
หรานเหมิน ถึงกับผงะ ไม่ใช่ว่าเขาวางแผนให้ลอบโจมตีพวกคนเถื่อนหรอกหรอ?
แต่ในไม่ช้าเขาก็มองแผนที่และเข้าใจความคิดของลู่เฟิง นี่เป็นการป้องกันไม่ให้ทหารม้าคนเถื่อนถอยกลับไปยังทุ่งหญ้าทางตอนเหนือ และป้องกันไม่ให้คนเถื่อนคนอื่น ๆ ในทุ่งหญ้าทางเหนือเข้ามาสนับสนุนได้
ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งและพูดเสียงดัง”น้อมรับบัญชา!”
“ดีมาก!”
ลู่เฟิงมองไปที่หรานเหมิน และพูดขึ้น”หรานเหมิน เมืองเปยกวน ไม่ใช่เพียงสถานที่เข้าออกธรรมดาเท่านั้น มันเป็นประตูสู่สามมณฑลทางตอนเหนือ เจ้าไม่เพียงแต่จะต้องเอาชนะ แต่ยังต้องป้องกันคนเถื่อนคนอื่น ๆ จากทุ่งหญ้าทางตอนเหนือด้วย ในขณะเดียวกัน ก็ป้องกันไม่ให้กองทัพของถั่วปาหงถอยกลับไป เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะยึดมั่นสถานที่แห่งนั้นเอาไว้ได้”
ความสามารถของเหลียนป๋อนั้นถือว่าเขาสามารถป้องกันเมืองได้ดีที่สุดในบรรดาแม่ทัพทั้งหมดภายใต้สู่เฟิง
แต่ตอนนี้ เหลียนป๋อ กําลังปกป้องเมืองผิงกวงอยู่และการต่อสู้ก็อยู่ในช่วงวิกฤติครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกัน การเปลี่ยนแม่ทัพระหว่างทําสงครามนั้นถือเป็นข้อห้ามในสนามรบ
หรานเหมิน ตอบกลับอย่างไม่ลังเล”ข้าน้อยจะทําให้ได้!”
“ดีมาก!”
ลู่เฟิง หยิบตราพยัคฆ์ออกมา และกล่าวพูดขึ้น”นี่คือตราพยัคฆ์ เจ้าสามารถบัญชาการทหารองค์รักษ์ของเมืองหลวงหรือทหารอาณาจักรได้ทั้งหมด ยกเว้นเพียงกองทัพทหารค่าย และกองทัพพยัคฆ์ หวังว่าเจ้าจะไม่ทําให้ข้าผิดหวัง!”
“ขอรับ!”
หรานเหมิน ตอบกลับด้วยน้ําเสียงทุ้ม เขาได้รับตราพยัคฆ์มาและลงไปสั่งการกองทัพองค์รักษ์ทันที