MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 309
ตอนที่ 309 พบกู้ซื้อหยอีกครั้ง
แม่ทัพคนอื่น ๆ ฟังแล้วต่างก็ลังเลใจ
โดยปกติแล้วพวกเขาไม่ใช่คนโง่
สภาพปัจจุบันของกองทัพพวกเขาทุกคนเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไรถึงอย่างนั้นอาณาจักรหนานหยานก็ยังเผชิญหน้ากับแนวรบสามทางยังมีอาณาจักรไปหลันและอาณาจักรอู่เซียงอยู่แม้แต่พวกคนเถื่อนก็ยังมาร่วมด้วย
เป็นการยากที่จะบอกว่าอาณาจักรหนานหยานจะยอมรับการยอมจํานนของพวกเขา
ท้ายที่สุด โอกาสที่ อาณาจักรหนานหยาน จะยอมรับการยอมจํานนนั้นมีน้อยมาก
ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับยังไงพวกตนเองจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน
ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถที่จะหนีหรือสู้ต่อได้เลย
แม่ทัพคนนึงกล่าวพูดด้วยเสียงทุ่ม”ไม่ว่ามันจะสําเร็จหรือไม่ก็ตามเดิมเราไม่ควรจะยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้”
เขามองไปที่อีกสามคนและยิ้มออกมา”นี่คือกองทัพ 400,000 นาย พวกเราไม่สามารถทนดูพวกเขาตายทั้งหมดได้!”
“มีแต่ต้องลองเท่านั้น!”
หลังจากหารือกันคําสั่งที่จะยอมจํานนก็ถูกถ่ายทอดไปทันที
ที่นี่กองทัพของ เหลียนป๋อ ได้บุกประชิดค่ายศัตรูแล้ว
เหลียนป๋อ ได้ยกมือขึ้นและสั่งการ”กองทัพทั้งหมดบุก..”
ก่อนที่คําว่า ‘โจมตี” จะหลุดออกไป ธงสีขาวของศัตรูก็ถูกชูขึ้นเหนือค่ายของอาณาจักรหงเป่า
“นี่…พวกเขายอมแพ้หรือไม่?”
เหลียนป๋อ มองไปที่ ธงสีขาวด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อยเขาไม่คิดเลยว่าอาณาจักรหงเป่าจะยอมจํานน
กั่วเจีย เองก็ยิ้มออกมา”แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่คาดคิด แต่ขากลับรู้สึกว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เดาเอาไว้”
“ทําไมถึงเป็นแบบนั้น?”เหลียนป้อกล่าวถามด้วยความสงสัย
“แม่ทัพเฒ่า ตอนนี้ พวกเราปิดล้อมค่ายของศัตรูและท่านยังมีกําลังทหารหลายแสนนายอยู่ในมือหน่วยสอดแนมที่ส่งออกไปรายงานให้กับอาณาจักรของพวกเขาเพื่อขอกําลังสนับสนุนก็ไม่มีรายงานกลับมาแม้แต่ข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่มีท่านคิดว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร?”กั่วเจียถามด้วยรอยยิ้ม
เหลียนป๋อได้ขมวดคิ้วและตอบกลับ”สิ้นหวังและละทิ้งอาณาจักรตัวเอง!”
“ถูกต้อง!”
กั่วเจีย ได้พยักหน้า และมองไปที่ ค่ายทหารของอาณาจักรหงเป่า”ตอนนี้ที่นั่นไม่มีแม่ทัพคอยสั่งการ หาก พวกเขาเหลือกําลังพลน้อยกว่า 10,000 หรือ 20,000 นาย พวกเขาอาจจะไม่ยอมจํานนและเลือกที่จะตายในส นามรบ ในตอนนี้ พวกเขาเหลือกําลังพลอย่างน้อย 350,000 นายหรือแม้แต่ 400,000 นายพวกเขาคงเลือกที่จะละทิ้งอาณาจักรและปกป้องชีวิตทหารนับแสน”
“ส่วนอื่น ๆ …”
“ในมุมมองของพวกเขาการยอมแพ้ด้วยกองทัพนับแสนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา”
ทันใดนั้น เหลียนป๋อ ก็นึกขึ้นได้”กลอุบายของจินยี่เหว่ยนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ทําให้อาณาจักรหงเป่าไม่ส่งกองกําลังมาช่วยเหลือ และ ยังทําให้กองทัพที่นี่ยอมจํานนอีก”
“ใช่ในที่สุดมันก็จบลง”
ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี
เหลียนป๋อ ได้ส่งกองทัพขนาดใหญ่ไปที่ค่ายทหารทันทีและยอมรับการยอมจํานน ในเวลาเดียวกัน เขาก็ใช้วิธีของเกาชุนก่อนหน้านี้ ยึดอาวุธทั้งหมดและให้ทหารมารวมตัวกันในที่เดียวก่อนที่จะจัดเวรยามทหารคอยเฝ้าระวัง
ด้วยวิธีนี้ หากไม่มีแม่ทัพคนใดลุกขึ้นมาต่อต้านธรรมชาติมันย่อมจะไม่มีปัญหา
ในเวลาเดียวกัน แม่ทัพของอาณาจักรหงเป่า ก็โล่งใจเช่นกัน เหลียนป๋อ ไม่ได้ฆ่าพวกเขา ทั้งยังยอมรับการยอมจํานน
“แม่ทัพเฒ่ารายงานสนามรบออกมาแล้ว”กั่วเจียได้มาหาเหลียนป๋อ
“อย่าพูดถึงผลลัพธ์ฝ่ายศัตรูเลยมาดูความเสียหายจากการต่อสู้กันเถอะ!”เหลียนป๋อ ได้ถอนหายใจออกมา
กั่วเจียได้พยักหน้า”ในการรบครั้งนี้เราสูญเสียทหารไปมากกว่า 200,000 นาย จากการโจมตีค่าย ทั้งยังเสียกําลังพลจากการป้องกันเมืองผิงกวงก่อนหน้านี้ทําให้สูญเสียทหารไปเกือบ 300,000 นาย”
“300,000 นาย!”
เหลียนป๋อ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตัวเลขนี้ยังอยู่ในช่วงการยอมรับของเขา ท้ายที่สุดเสียกองกําลังสามแสนแลกกับทําลายกองทัพของอาณาจักรหงเป่า ทั้งยังมีกองทัพที่ยอดเยี่ยมที่สุดของอาณาจักรหงเป่า 200,000 นายกองทัพพยัคฆ์ ที่ถูกฝังใต้เปลวเพลิง
เหลียนป๋อ หันศีรษะไปมอง ถั่วเจีย และพูดขึ้น”เฟิงเซียว ในการศึกสองครั้งนี้ล้วนสําเร็จได้เพราะเจ้า!”
เหลียนป๋อ รู้ดีว่าหากไม่ได้กลยุทธ์ของ กั่วเจีย ลําพังเขาตัวคนเดียวคงไม่อาจทําลายศัตรูได้
กั่วเจีย ได้ยิ้มและตอบกลับ”ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออาณาจักรและฝ่าบาท ข้าจะอ้างคุณงามความดีให้กับตัวเองได้อย่างไร?”
“ฮ่าฮ่า,พูดได้ดี ข้าเริ่มชอบเจ้าซะแล้วสิ!”เหลียนป๋อ หัวเราะออกมา
เขาหยุดชั่วขณะและพูดขึ้น”เฟิงเซียว ต่อไป ให้เจ้า และ จางฮั่น นําทัพ 500,000 นายขึ้นเหนือไปสนับสนุนฝ่าบาทและต่อต้านพวกคนเถื่อนข้าเดาว่าหลังจากคําสั่งฆ่าของฝ่าบาทถูกปล่อยออกมาทหารม้าพวกคนเถื่อนจะต้องส่งกองกําลังมาสนับสนุนเพิ่มแน่”
เหลียนป่อรวมกับกองทัพตันหยางเดิมมีกองทัพ 1.2 ล้านคน
ตอนนี้ สูญเสีย 300,000 นาย ยังเหลือกําลังพลมากกว่า 900,000 นาย
กองทัพของอาณาจักรหงเป่า ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอีกต่อไปแล้วดังนั้นเพียงกองกําลัง 400,000 นายก็สามารถเฝ้าระวังพวกเขาได้
กั่วเจีย ได้พยักหน้า”ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ข้าจะรีบเดินทางขึ้นเหนือไปสนับสนุนฝ่าบาท”
กั่วเจีย และ จางฮั่น ไม่ได้หยุดพัก พวกเขารีบนํากองทัพ 500,000 นายที่เพิ่งผ่านสงครามเดินทางขึ้นเหนือ
ในเมืองเฮยเสียน สามมณฑลทางตอนเหนือ ถูปาหง มองไปที่ทหารม้าคนเถื่อนสองสามคนที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างด้วยสีหน้าเศร้าหมองทั้งยังเต็มไปด้วยความโกรธเคือง”เจ้าบอกข้าว่าถั่วปาฟูน้องชายของข้าที่เป็นผู้นําที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเผ่าถูกกลบฝังไปพร้อมกับกองทัพนับแสนเพียงเพราะกองทัพทหารม้านับหมื่นของลิโป้?”
คนเถื่อนเหล่านี้คือผู้ที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ที่เขื่อนเฟิงเฮยปา
“หัวหน้า…มันเป็นเรื่องจริง พวกเราไม่กล้าปิดบัง คือว่า…”
“เวรเอ๊ย!”
ก่อนที่คนเถื่อนเหล่านี้จะพูดจบ ถั่วปาหง ก็คํารามออกมา”ส่งคําสั่งของข้าลงไปให้นักรบทั้งหมดเดินทางไปที่เขื่อนเฟิงเฮยปาและตัดศีรษะลิโป้กลับมาเซ่นไหวให้น้องชายของข้า”
แม่ทัพภายใต้เขาไม่กล้าพูดอะไรและรีบตอบกลับทันที”ข้าน้อยจะรีบจัดการทันที!”
แม่ทัพของ ถั่วปาหงได้เดินลงไปจัดการพร้อมกับเตรียมการนําทัพทหารม้าไปที่เขื่อนเฟิงเฮยปา
ในค่ายเฟิงเฮยปา ลู่เฟิง ได้เดินทางมาถึงที่นี่
“ฝ่าบาท กู้ซื้อหย์ ต้องการเข้าเฝ้าพระองค์
ในค่ายทหาร ลู่เฟิง ที่กําลังจัดการกับเรื่องสําคัญ ก็ได้มีคนมารายงานเขา
“คู่ซื่อหยี?”
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ใช่ว่า กู้ซื้อหย อยู่ใน มณฑลสัตว์อสูร ทําไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?เป็นไปได้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายต้องการแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างเขากับพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือ?
ถ้าเป็นอย่างนั้น…
แสงเย็นวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่เฟิง อย่าได้กล่าวโทษข้าที่จะฆ่าเจ้า!
เขามองไปที่ เฉินกัง และพูดขึ้น”ให้เธอเข้ามา!”
“ขอรับ!”
ไม่นาน ก่ซื่อหยี ก็เดินเข้ามา
เธอยังคงสวมใส่ชุดสีม่วงพร้อมกับผ้าคลุมหน้าสีม่วง
“หม่อมฉัน ถวายบังคมจักรพรรดิอาณาจักรหนานหยาน”คู่ซื่อหยี ได้โค้งคํานับเล็กน้อย
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ความรู้สึกของเสื้อผ้าสีม่วงนี้ทําให้เขารู้สึกแตกต่างจากครั้งสุดท้ายที่เขาพบกัน
แต่เขาไม่ได้ถามมันออกไปตรง”แม่นางก่ซื่อหย ไม่ทราบว่ามีธระอันใดถึงต้องการพบข้างั้นหรือ?”