MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 312
ตอนที่ 312 หยิ่งผยอง
“ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ!”
สาวใช้รีบตอบกลับ”เพียงแต่ข้าได้ยินมาว่า ลู่เฟิง คนนี้ ไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ เขาได้ออกคําสั่งฆ่าและเผยแพร่ไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามียอดฝีมือขั้นปรมาจารย์จํานวนมากอยู่ภายใต้เขาแม้แต่นิกายดาบวิญญาณครั้งที่แล้วหวังเกาโจวที่วิ่งไปหาก็ยังถูกฆ่าตาย”
“เพียงแค่ข้าคิดว่า คุณหนูไปหาเขา ข้าแค่กังวลว่าเขาจะทําอะไรกับคุณหนู”
กู้ซื้อหยี ได้สั่นศีรษะออกมา”ลู่เฟิงฆ่าคนไปจํานวนมาก?มีจักรพรรดิองค์ใดบ้างที่ไม่ได้ฆ่า?นอกจากนี้คนที่เขาฆ่าไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แต่เป็นทหารจากประเทศศัตรู ในสนามรบมีใครบ้างที่เป็นผู้บริสุทธิ์สําหรับยอดฝีมือภายใต้เขา…”
กู้ซื่อหยี ได้ครุ่นคิดเล็กน้อย”พูดไปมันก็แปลก อาณาจักรหนานหยาน เป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมียอดฝีมือขั้นปรมาจารย์จํานวนมากเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือภายใต้ลู่เฟิงทั้งหกคนที่เคยปะมือกับพวกเรา ตอนที่ข้าไปที่นั้นข้าสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของทั้งหกคนนั้นดีขึ้นมากถ้าให้สู้กันอีกครั้งแม้ข้าจะใช้ไพ่ตายทั้งหมดก็คงมีโอกาสชนะไม่มากเท่าไหร่”
“นี่…เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอเจ้าคะ?”สาวใช้รู้สึกตกใจอย่างมาก”ทั้งที่เขาเป็นเพียงจักรพรรดิของอาณาจักรเล็ก ๆ !”
“ใช่,เขาแข็งแกร่งมาก!”
ก่ซื่อหยี ได้ถอนหายใจออกมา”ข้าได้ใช้เส้นสายช่องข่าวทั้งหมดของสมาคมการค้าอู่ซวนตรวจสอบยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์เหล่านี้มาแล้ว พวกเขาไม่ได้มีต้นกําเนิดที่พิเศษต่อหน้าคนอื่น ๆ พวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาแต่พอมาอยู่ภายใต้ของลู่เฟิง พวกเขากลับทรงพลังอย่างมากและทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว”
“ราวกับว่าพวกเขาเป็นหีบสมบัติและลู่เฟิงคือลูกกุญแจที่ใช้ไขเปิดเผยความสามารถของพวกเขานี่มันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ”
“แต่…”
เมื่อมองไปที่ อู่ซื่อหยี สาวใช้ก็พูดขึ้น”คุณหนู แม้จะเป็นเช่นนั้น ท่านจะได้ประโยชน์แน่หรือเจ้าคะ ? การที่ท่านเดิมพันกับเขาเช่นนี้ไม่ใช่ว่ามันเสี่ยงเกินไปหรอกหรอ?”
“ข้ามีทางเลือกงั้นเหรอ?”
กู้ซื้อหย์ ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น”ตอนนี้ข้ามีเพียงสองทางเลือก หนึ่งยอมเป็นหุ่นเชิดของพวกเขาหรือสองดิ้นรนต่อสู้จนตัวตายไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่มีวันยอมเป็นหุ่นเชิดอย่างเด็ดขาด!”
“แต่คุณหนูทําไมถึงเลือกลู่เฟิง หรือว่าเพราะเขาดูลึกลับ ? ทําไมคุณหนูถึงไม่เลือก อาณาจักรไป่หลันหรืออาณาจักรหงเป่า ที่ทรงพลังกว่า?”สาวใช้รู้สึกสับสน
“อาณาจักรไปหลัน อาณาจักรหงเป่า พวกเขาแข็งแกร่งมากหรืออย่างไร?”
คู่ซื่อหย์ ได้สั่นศีรษะ”กองทัพ 3 ล้านนายของอาณาจักรไปหลันโจมตี สิบสามมณฑลซีหยาง ของพวกเขาแต่ไม่สามารถเอาชนะการป้องกันของ เพิ่งเถียน และ เจียสได้ กองกําลัง 3.5 ล้านนายของอาณาจักรหงเป่าโจมตีเมืองฉิวฉานแต่แม้แต่เมืองผิงกวง พวกเขาก็ยังไม่สามารถทลายมันลงได้ ท้ายที่สุดก็ถูกแผนการของกั่วเจียตลบหลังสังหารทหารไปมากกว่า 2 ล้านนายและไม่นานกองทัพทั้งหมดก็ยอมจํานน”
“พวกเขาไม่แม้แต่เอาชนะข้าราชบริพารภายใต้ลู่เฟิงได้ พวกเขามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเทียบกับลู่เฟิง?”
“ถ้าให้ข้าเลือกเดิมพันกับพวกเขามันคงเป็นเรื่องตลกจริง ๆ !”
“นอกจากนี้…”
คู่ซื่อหยี ได้หันศีรษะไปมองทิศทางของกองทัพลู่เฟิง”สิ่งสําคัญก็คือข้าให้ความสําคัญกับเขาเพราะเขากล้าหาญไม่เกรงกลัวใคร! แม้แต่ ผู้ปกครองดิดนแดนตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจวอย่างนิกายดาบวิญญาณพวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวใด ๆ”
“ข้าวางเดิมพันกับเขามีโอกาส 10% ที่จะชนะ แต่ถ้าข้าวางเดิมพันให้กับอาณาจักรไปหลันและอาณาจักรหงเป่ามีโอกาส 99%ที่จะแพ้!”
“ข้าเพียงแต่หวังว่าลู่เฟิงจะแข็งแกร่งพอ!”
เมื่อสาวใช้ได้ยินดังนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมา
“ฝ่าบาทหน่วยสอดแนมเจ้งมาว่า พบทหารม้าคนเถื่อนอย่างน้อย 300,000 นาย บุกมาถึงฝั่งตรงข้ามเขื่อนเพิ่งเฮยปาแล้ว”
หนึ่งวันต่อมา ลิโป้ ได้มารายงานกับ ลู่เฟิง
“มากันแล้วเหรอ?”
ใบหน้าของ ลู่เฟิง แปลกไปเล็กน้อย พวกคนเถื่อนไม่กลัวตายจริง ๆ
ทหารม้านับแสนเพิ่งจะถูกสังหารไป แต่ตอนนี้พวกเขากลับรีบจัดทัพมาล้างแค้นเร็วเสียนี่
“พาข้าไปดู!”
ลู่เฟิง ได้ติดตาม ลิโป้ ออกจากเต็นท์ทหารขึ้นรถม้าทรงสูงและมองไปที่ฝั่งตรงข้ามของเขื่อนเฟิงเฮยปา
เขื่อนเฟิงเฮยปานั้นกว้างมาก ด้านหน้า ก็คือ แม่น้ําเฟิงเฮยปา ก่อนหน้านี้เกิดเหตุน้ําท่วมและเพิ่งถึงฤดูใบไม้ผลทําให้แม่น้ําที่นี่ไม่ลึกนักและยังมีโขดหินจํานวนมากอยู่ใต้น้ํา มันไม่ใช่เรื่องยากที่กองทัพจะข้ามแม่น้ําแม้แต่น้อย
ลู่เฟิง และ ลิโป้ มองไปที่ ทหารม้าคนเถื่อนตรงข้าม
“เฟิงเชี่ยน เจ้าคิดว่า พวกคนเถื่อน จะหาทางปิดกั้นต้นน้ําหรือข้ามแม่น้ํามาเลย?”ลู่เฟิงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
ลิโป้ ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ในความคิดของข้าน้อย พวกมันน่าจะข้ามแม่น้ํามาทันทีเพราะในความคิดของพวกมันกองทัพของพวกเราคงไม่สามารถต่อต้านพวกมันได้และคงจะพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!”
ลู่เฟิง พยักหน้า”ก็จริง พวกเรามีคนไม่ถึง 400,000 นาย แม้จะรวมทหารราบ 100,000 นายไปแล้วก็ตามพวกคนเถื่อนจะต้องรู้เรื่องนี้และไม่ยอมละทิ้งโอกาสดีๆเช่นนี้ไปอย่างแน่นอน”
“ส่งคําสั่งให้ข้า ให้พลธนูทั้งหมดเตรียมพร้อม โดยวางกลยุทธ์ พลธนูสามแถว และ อย่ายิงพร้อมกัน”
หากพลธนูทั้งหมดยิงพร้อมกันในครั้งเดียว ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้ทหารม้าได้ส่วนหนึ่งในทัพหน้าส่วนทัพหลังก็จะวิ่งข้ามไปได้
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ภายใต้ภูเขาติงจิ้ง อาณาจักรอู่เซียง เผชิญหน้ากับทหารค่ายของเกาชุน
หากพวกเขาให้พลธนูยิงแยกกันมันเป็นเรื่องยากที่ทหารค่ายจะต้านทานระลอกยิงหลายคลื่นได้
พวกเขาใช้การโจมตีเพียงครั้งเดียวยามป้องกันได้เสร็จพวกเขาก็ไร้ประโยชน์ อีกฝ่าย คงไม่รอจนกว่าพวกเขาจะบรรจุลูกธนูเสร็จและรีบพุ่งเข้ามาสังหารอย่างแน่นอน
ในการต่อสู้ที่ภูเขาติงจิ้ง ลู่เฟิง เป็นผู้บัญชาการ เขาเห็นสิ่งเหล่านี้ชัดเจน และ ได้เรียนรู้มากมาย โดยธรรมชาติ เขาจะไม่ทําผิดพลาดเช่นนี้
ลิโป้ ได้เป็นผู้นําลงไปจัดเตรียมทันที
อีกด้านหนึ่งของแม่น้ําเพิ่งเฮยปา ทัพหน้าของพวกคนเถื่อนไม่ได้เข้าชาร์จทันที เพราะพวกเขารู้ว่าฝั่งตรงข้ามจะต้องเตรียมพร้อม พวกเขาเพียงรอให้ ถั่วปาหง มาถึง
ไม่นาน ถั่วปาหง ก็มาถึง พวกคนเถื่อน ได้หลีกทางให้เขาทันที
“ท่านผู้นําตอนนี้ศัตรูจะต้องเตรียมพร้อมรบกับเราแล้วอย่างแน่นอน”อาวุโสจากนิกายประตูฉางเหอได้มองไปที่ถั่วปาหงและพูดขึ้น
ครั้งนี้ นิกายดาบวิญญาณ ได้แจ้งข่าวแก่นิกายประตูฉางเหอ
ดังนั้น นิกายประตูฉางเหอ จึงให้ความร่วมมือกับ ถั่วปาหง ในการโจมตี
เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ
ถั่วปาหง ได้หัวเราะออกมาเมื่อเขาได้ยินคําพูดของอาวุโสจากนิกายประตูฉางเหอ”ท่านอาวุโส ระมัดระวังตัวเกินไปแล้วตอนนี้ศัตรูมีกันกี่คน?”
“ทหารม้ามีน้อยกว่า 300,000 นาย พวกเขาทั้งหมดเป็นทหารเกณฑ์ที่ยังไม่เคยผ่านสนามรบ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับการฝึกฝน ก็คงไม่อาจเทียบเท่าทหารม้าของท่านผู้นําได้ ส่วนทหารราบ มีประมาณ 100,000 นาย ทหารราบเหล่านี้ยามเผชิญหน้ากับทหารม้าของเราภายในเวลาไม่ถึงสี่ชั่วโมงพวกมันย่อมถูกตัดศีรษะทั้งหมดอย่างแน่นอน!”