My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1028 ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1028 ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์
ตอนที่ 1028 ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์
ในเวลานี้พานฮงเหวี่ยงศิลายักษ์ไปที่ฉิงเฟิง เขาคิดจะหลบเลี่ยงแต่มันก็สายเกินไป ดังนั้นเขาจึงยื่นมือขวาออกมาและใช้ความแข็งแกร่งจากเพียงนิ้วเดียวในการต้านรับศิลายักษ์ของพานฮง
หลังจากเรียนรู้ทักษะภายในบอลแสงรอยหมัดฉิงเฟิงก็สำเร็จหมัดที่สามของเพลงหมัดทลายนรกานต์ – สวรรค์พินาศ โลกาสลาย เขาเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังนี้ ศิลายักษ์ของพานฮงเป็นการโจมตีที่ทรงพลัง แต่ข้อบกพร่องของมันกลับถูกฉิงเฟิงพบเห็นอย่างง่ายดาย
ฉิงเฟิงหดนิ้วและเปลี่ยนเป็นกำปั้นเขาทุบศิลายักษ์ของพานฮงด้วยพลังทั้งหมดและทำให้เกิดรูโหว่บนนั้น ผลทำให้พานฮงต้องล่าถอยไป
“หลี่ฉิงเฟิงเข้มแข็งเหลือเกินแม้แต่สุดยอดฝีมือสามอันดับแรกในขอบเขตจิตโลการวมพลังกันก็ยังไม่อาจเอาชนะเขาได้”
“ข้าคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงสมควรขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับขอบเขตจิตโลกาไม่ว่าจะเป็นด้านเพลงกระบี่หรือวิชาหมัด เขาก็ยอดเยี่ยมทั้งคู่”
“แต่จ้าวอี้เจียนก็นับว่าแข็งแกร่งไม่น้อยเช่นกันเขาเพียงแค่พ่ายในการปะทะแต่ยังไม่ถึงกับตกตาย หากเปลี่ยนเป็นข้าคงถูกหลี่ฉิงเฟิงสังหารตั้งแต่กระบวนท่าแรกไปแล้ว”
เหล่าสาวกมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ฉิงเฟิงยิ้มเยาะเย้ยและกล่าวว่า“พวกแกยังต้องการชิงแก่นอสูรไปจากฉันอีกมั้ย ”
จ้าวอี้เจียนเฮยหยาง พานฮงสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขาต้องการแก่นอสูร แต่ก็รู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉิงเฟิง หากพวกเขายังคงดื้อรั้นช่วงชิงแก่นอสูร พวกเขาคงต้องต่อสู้กันจนอ่อนแรง ซึ่งจะกลายเป็นทำให้คนอื่นๆได้เปรียบในสถานที่นี้ ส่วนฉิงเฟิงก็ขบคิดในใจลับๆเกี่ยวกับการฆ่าพวกเขาทีละคนเพื่อตัดกำลังแต่เขาก็รู้ดีว่าคนเหล่านี้แข็งแกร่งเกินไปและไม่ง่ายที่จะฆ่า
หากจะฆ่าพวกมันจริงๆเขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บซึ่งได้ไม่คุ้มเสีย เขาต้องสำรองพลังเอาไว้เพื่ออุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน และไหนจะต้องช่วยพ่อของเขาอีก
ส่วนในอีกด้านหนึ่งเซวี่ยหยานแห่งนิกายอสูรโลหิตและเซี่ยตงจากนิกายนภาโฉดก็กำลังต่อสู้กันเพื่อเสื้อคลุมแดงซึ่งเป็นอุปกรณ์วิญญาณสายป้องกันขั้นสูงที่มีความสามารถในการป้องกันที่ยอดเยี่ยม พวกเขาทั้งสองต่างก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพราะพวกเขาทั้งคู่ต้องการมันอย่างยิ่ง
เมื่อได้เห็นเสื้อคลุมสีแดงนี้จ้าวอี้เจียน เฮยหยางและพานฮงก็เตรียมที่จะเข้าไปฉกฉวยมันเช่นกัน
(ไอห่าพวกนี้มันจะเอาทุกอย่างเลยรึไงวะ– -) ฉิงเฟิงก็ถูกล่อลวงจากรัศมีของอุปกรณ์วิญญาณชิ้นนี้เช่นกันแต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเป้าหมายในการมาที่สุสานราชาวิญญาณนี้ก็เพื่ออุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน ไม่ใช่เสื้อคลุมแดงชิ้นนี้
วูบ!
ฉิงเฟิงตัดใจเขาหันหลังกลับและวิ่งไปตามทางเพื่อมองหาทางเข้าชั้นสอง
เขารวดเร็วมากในพริบตาเดียวเขาก็มาถึงสุสานที่อยู่ทางตะวันออกสุดโดยมีประตูหินทรงกลมสูงสองเมตรขวางไว้ เมื่อทำลายประตูหินนี้เขาจะสามารถเข้าไปในชั้นสองของเจดีย์ได้
ฉิงเฟิงไม่รอช้าเขากำหมัดและเหวี่ยงกระแทกเข้าใส่ประตูหินอย่างแรงแต่ประตูกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ในดวงตาของเขาทอประกายสงสัย ประตูหินนี้แข็งแกร่งผิดธรรมดาเกินไป แม้ว่าเขาจะใช้กำลังกายทั้งหมด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเปิดมัน
ในเวลานี้ฉินเซียนจื่อฮวาเซียนจือ ลู่ซวนจี๋และคนอื่นๆก็มาถึง พวกเขาก็ทดลองใช้พละกำลังและวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดไปยังประตูหิน แต่โชคไม่ดีที่ประตูยังคงไม่ขยับ มันไม่ถูกทำลายแม้แต่น้อย
“
เจ้าหนูประตูหินนี้ต้องใช้ทริคในการเปิด การโจมตีทั่วไปไม่มีผล ให้เจ้าลองโจมตีไปที่มุมซ้ายบนของมัน”
เสียงของจักรพรรดิ์ราตรีดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ดวงตาของฉิงเฟิงก็เปล่งประกายเขาเหวี่ยงหมัดโจมตีไปทางมุมซ้ายบนของประตูหินตามคนกล่าวทันที
เปรี้ยง
!!
ประตูหินส่งเสียงดังออกมาและปริแตกเล็กน้อยฉิงเฟิงลองตรวจสอบดูและรู้ว่าการโจมตีที่จุดนี้ได้ผลจริงๆ
เป้ง! เป้ง!
เป้ง!
ฉิงเฟิงกระหน่ำชกอย่างต่อเนื่องสามครั้งที่มุมซ้ายบนของประตูหินประตูส่งเสียงดังลั่นและเปิดออกในที่สุด ทางเดินเผยออกมาต่อสายตาของพวกเขา
ฉิงเฟิงวิ่งเข้าไปคนแรกตามมาด้วยฮวาเซียนจือฉินเซียนจื่อและคนอื่นๆ ลูกหมาสีดำส่ายหางของมันและวิ่งตามเข้าไปเช่นกัน
เมื่อเห็นฉิงเฟิงกับพรรคพวกวิ่งไปที่ชั้นสองของสุสานจ้าวอี้เจียนและเฮยหยางก็หยุดการต่อสู้ พวกเขาพุ่งตามติดผ่านประตูหินไปชั้นสองเช่นกัน
หลังจากที่ทุกคนเข้าไปในชั้นสองของเจดีย์สีเขียวประตูหินก็ปิดลงอีกครั้ง ไม่ต้องพูดเลยว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉิงเฟิงเปิดประตู จ้าวอี้เจียนและคนอื่นๆคงไม่สามารถเข้ามาได้ง่ายดายเช่นนี้
ชั้นสองของเจดีย์สีเขียวใหญ่โตมากกว่าชั้นแรกเมื่อมองไปรอบๆจะเห็นแสงสีเขียวเปล่งประกายออกมาจากผนังและเพดาน ท่ามกลางแสงสีเขียวเหล่านี้มีม้วนไม้ไผ่สีเขียวม้วนหนึ่งวางอยู่
มีตัวอักษรสามตัวเขียนไว้บนแผ่นไม้ไผ่สีเขียวว่า“ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์” นี่เป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์ โดยปกติแล้วมีเพียงยอดฝีมือในขอบเขตสวรรค์เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ มันน่าแปลกที่พบมันที่นี่
วูบ!
“ของข้า!” จ้าวอี้เจียนคำรามลั่นและพุ่งออกไปคนแรก ตามมาด้วยเฮยหยาง พานฮง เซวี่ยหยาน เซี่ยตงและคนอื่นๆ พวกเขาทุกคนต้องการท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์ม้วนนี้
ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์สามารถช่วยให้ผู้ฝึกตนสามารถขัดเกลาสู่ขอบเขตสวรรค์ได้แม้แต่นิกายกระบี่สวรรค์และนิกายดาบทมิฬก็ยังไม่มีเคล็ดวิชาบ่มเพาะมากไปกว่าระดับจิตโลกาขั้นปลาย พวกเขาไม่มีเคล็ดบ่มเพาะระดับสวรรค์แม้แต่เคล็ดวิชาเดียว
ฉิงเฟิงไม่ได้วิ่งเข้าไปช่วงชิงมันเพราะเป้าหมายของเขาคืออุปกรณ์วิญญาณระดับราชันซึ่งจากการคาดการณ์ของเขา มันควรจะอยู่บนชั้นสามของสุสานแห่งนี้
ประมุขนิกายกระบี่สวรรค์จ้าวเทียนเจียน เฒ่าอสูรโลหิตและราชาอสูรมีดวายุ ต่างก็ล่วงหน้าเข้ามาในสุสานราชันวิญญาณก่อนหน้านี้แล้ว บางทีพวกเขาอาจจะอยู่บนชั้นสามแล้ว และกำลังต่อสู้กันเพื่ออุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน
ฉิงเฟิงไม่ต้องการเสียเวลาที่นี่อีกต่อไปเขาเริ่มค้นหาทั่วชั้นสองเพื่อหาทางเดินที่นำไปสู่ชั้นสาม แต่หลังจากค้นหาเป็นเวลานานเขาก็ยังไม่พบเสียที ทันใดนั้นเองม้วนไม้ไผ่สีเขียวที่บรรจุไว้ด้วยเคล็ดบ่มเพาะระดับสวรรค์ก็ลอยเข้ามาในมือของฉิงเฟิงโดยอัตโนมัติ
กลับกลายเป็นว่าม้วนไม้ไผ่นี้มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเองมันสามารถเลือกเจ้าของเองได้ !
ฉิงเฟิงมีสีหน้าหดหู่แม้ว่าท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์นี้จะน่าสนใจ แต่ ณ จุดนี้เขาเพียงต้องการที่จะเข้าสู่ชั้นสาม เขาไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลย
วูบ!
ฉิงเฟิงเขวี้ยงม้วนไม้ไผ่ออกไปไกลราวกับมันเป็นมันฝรั่งร้อนเขาไม่ต้องการมัน แต่ในขณะที่เขาโยนมันทิ้งไป ท่วงทำนองวิญญาณสวรรค์ที่บรรจุในไม้ไผ้ม้วนนั้นดูเหมือนมันจะมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเองและบินกลับเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและไม่ยอมไปไหน
หัวใจของฉิงเฟิงตกวูบและพึมพำในใจว่า
“
นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ยยังกับหมากฝรั่งติดหนึบ เขวี้ยงทิ้งก็ยังไม่ไปอีก…
”
เมื่อได้เห็นว่าท่วงทำนองวิญญาณสวรรค์อยู่ในมือของฉิงเฟิงจ้าวอี้เจียน เฮยหยางและคนอื่นๆก็กรูกันมาล้อมรอบเขา
“หลี่ฉิงเฟิง! มอบท่วงทำนองวิญญาณสวรรค์มาซะดีๆ” ทุกคนเรียกร้องอย่างเย็นชา
สิ่งนี้เป็นของที่ทุกคนต้องการมันเป็นเหมือนเนื้อชิ้นใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางหมาป่าหิวโหย
ฉิงเฟิงแสยะยิ้ม“ถ้าคิดว่ามีฝีมือพอก็เข้ามาได้เลย”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรท่วงทำนองวิญญาณสวรรค์ถึงเลือกเขาแต่ฉิงเฟิงก็ไม่ยอมมอบมันให้แก่จ้าวอี้เจียนและคนอื่นๆง่ายๆแน่นอน เพราะทุกคนต่างก็เป็นศัตรูกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์โบราณฉิงเฟิงเคยได้ขัดเกลา ‘คัมภีร์จักรพรรดิยุทธ์’ ที่ได้รับมอบจากลู่เต๋าซาง แต่เนื่องจากมันเป็นคัมภีร์ที่ไม่สมบูรณ์เขาจึงทำได้เพียงฝึกฝนมันได้ถึงขั้นแกรนด์มาสเตอร์เท่านั้น แต่ท่วงทำนองจิตวิญญาณสวรรค์ที่บันทึกไว้ในม้วนไม้ไผ่นี้แตกต่างกันนี่คือเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังที่สามารถช่วยให้เขาบ่มเพาะพลังได้ถึงขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์เลยทีเดียว