My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1036 หน้าผาทลายฟ้า
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1036 หน้าผาทลายฟ้า
ตอนที่ 1036 หน้าผาทลายฟ้า
ยามราตรีอากาศหนาวเย็นและดวงจันทร์ก็ลอยขึ้นสูงด้วยดวงดาวที่เต็มไปทั่วท้องฟ้า
ฉิงเฟิงบีบฝ่ามือทั้งสองข้างหายใจเข้าออกอย่างคงที่ แสงดาราจำนวนมากถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายของเขา มันรวมตัวกันและสะสมเป็นพลังงานสีเงินจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ
พลังงานประเภทนี้แตกต่างจากแก่นพลังแท้ของเขามันไม่ได้กักเก็บไว้ในจุดตันเถียน แต่เขาพบว่ามันแพร่กระจายอยู่ในทุกตำแหน่งของร่างกาย เช่น เส้นชีพจร กล้ามเนื้อ กระดูก หัวใจ ปอด ตับ ม้าม กระเพาะอาหาร ไตและส่วนอื่นๆ
ดรรชนีผู้พิชิตมีทั้งหมดเก้าดรรชนีและทุกท่านั้นต่างก็ต้องการใช้พลังดาราจากดาราผู้พิชิตเป็นจำนวนมาก มิฉะนั้นจะไม่สามารถเปิดใช้งานกระบวนท่าเหล่านี้ได้
ในขณะที่ร่างกายของฉิงเฟิงสะสมแสงดาราได้มากพอพลังแท้ของเขาก็ไหลผ่านเส้นเลือดและบีบอัดไปที่นิ้วกลางมือขวา มันพุ่งพรวดออกมาราวกับวิชากระบี่หกชีพจรอย่างไงอย่างงั้น
“
ดรรชนีที่สอง–
กระตุกหทัย
!
“
ฉิงเฟิงคำรามในขณะที่เขายิงดรรชนีที่สองของวิชาดรรชนีผู้พิชิตไปยังสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่อยู่ในระยะไกล
สัตว์อสูรตัวนี้มีพลังในระดับจิตโลกาขั้นสูงสุดมันคือหมีดำ แอบวางแผนซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเป้าทดสอบของฉิงเฟิงไปแล้ว
วิชาดรรชนีที่สอง– กระตุกหทัย กลายเป็นระลอกคลื่นอันรุนแรงที่มุ่งตรงไปยังหัวใจของหมีดำเหมือนแผ่นดินไหว
หมีดำคำรามด้วยความเจ็บปวดขณะยกอุ้งเท้าขึ้นกุมหัวใจและล้มลงไปกับพื้นหลังจากกระตุกไปสองสามครั้งมันก็มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสยดสยองและตายในที่สุด
เทคนิคแรกของดรรชนีผู้พิชิต‘หนึ่งดรรชนีแยกสรรพสิ่ง’ เป็นการโจมตีโจมตีจากภายนอกและสังหารศัตรูโดยการแยกร่างเป็นสองส่วน เทคนิคที่สอง ‘กระตุกหทัย’ เป็นการโจมตีโดยการสร้างคลื่นกระแทกภายในร่างกายของศัตรูและมุ่งเป้าไปที่หัวใจโดยตรง
ฉิงเฟิงยืนขึ้นและเดินไปที่ศพของหมีดำเขาชักกระบี่ออกมาและผ่าหัวใจของมันพบว่าหัวใจของหมีดำที่ถูกโจมตีด้วยดรรชนีที่สองนั้นแหลกสลายเป็นล้านๆชิ้นอย่างสมบูรณ์
“ช่างเป็นพลังที่ทุบทำลายได้อย่างทรงพลังนัก…” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความหวาดผวา
คุณลักษณะที่ทรงพลังที่สุดของหมีดำอสูรก็คือการป้องกันด้วยผิวหนังและขนของมันที่หนามากๆแม้แต่การโจมตีที่หนักถึง20,000 ปอนด์ก็ไม่ทำให้ผิวหนังของมันเป็นรอยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ด้วยพลังจากนิ้วเพียงนิ้วเดียวของดรรชนีที่สอง มันทำให้หัวใจที่อยู่ภายใต้เนื้อหนังสุดแกร่งต้องแหลกสลายเป็นล้านๆชิ้น !
ฉิงเฟิงผ่าศพของมันและหยิบแก่นอสูรเม็ดสีดำออกมามันเป็นแก่นอสูรเสริมแกร่งซึ่งบรรจุไว้ด้วยพลังจำนวนมหาศาล เขามอบมันให้แก่ลู่ซวนจี๋เพื่อให้อีกฝ่ายได้เพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นโดยเร็ว
ลู่ซวนจี๋เป็นสมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าเขากับฉิงเฟิงนั้นสนิทสนมกันมาก พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันมานานและผ่านความเป็นความตายด้วยกัน มันเป็นเรื่องปกติที่ฉิงเฟิงจะมอบแต่สิ่งดีๆให้พี่น้องคนนี้
แน่นอนว่ามีเหตุผลอื่นที่ฉิงเฟิงมอบแก่นอสูรให้ลู่ซวนจี๋เพราะเขาอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาต้องทำให้ทุกคนรอบตัวแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเองได้
……………. สัตว์อสูรจะเผ่นผ่านกันมากที่สุดในช่วงเวลากลางคืนโดยมีสัตว์หลายชนิดออกมาจากเงามืดด้วยดวงตาที่แดงก่ำกระหายเลือด พวกมันเดินไปที่กลุ่มของฉิงเฟิง
ถือเป็นโชคดีสำหรับฉิงเฟิงนี่เป็นโอกาสที่ดีในการฝึกฝนเทคนิคที่สองของวิชาดรรชนีผู้พิชิตที่เขาเพิ่งเรียนรู้ เขายิงดรรชนีผู้พิชิตออกไปอย่างไม่หยุดยั้งที่เหล่าสัตว์อสูรและฆ่าพวกมันทั้งหมด
สัตว์อสูรเหล่านี้ก็ไม่ได้โง่เขลานักทันทีที่พวกมันเห็นพรรคพวกตายไปเรื่อยๆ พวกมันก็รู้ตัวว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมนุษย์คนนี้ จากนั้นก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงอย่างรวดเร็วเพื่อเอาชีวิตรอด
……………
วันต่อมาดวงอาทิตย์เริ่มลอยขึ้นสูงและส่องแสงลงมาบนโลกมันทำให้ทั่วทั้งแดนต้องห้ามภูเขาคุนหลุนเริ่มอุ่นขึ้น
เมื่อถึงวันใหม่ดวงอาทิตย์ส่องสว่างทั่วแดนต้องห้ามคุนหลุน สรรพชีวิตก็เริ่มดำเนินชีวิตราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
กลุ่มของฉิงเฟิงเดินทางต่อไปและพบสิ่งปลูกสร้างที่ถูกทิ้งร้างจำนวนมากที่ใจกลางแดนต้องห้ามมีปราสาทที่ถูกทิ้ง ซากปรักหักพังและเสาหินที่แตก ทั้งหมดทั้งมวลดูเก่าแก่ทรุดโทรมมากราวกับว่าพวกมันดำรงอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ
เมื่อได้เห็นปราสาทร้างขนาดมหึมาฉิงเฟิงก็รู้สึกหนักอึ้งในใจของเขา การที่ได้เห็นว่าปราสาททองคำขนาดใหญ่เหล่านี้ ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อนในสมัยโบราณแต่กลับกลายเป็นซากปรักหักพังอย่างน่าสลดใจ
ซากปรักหักพังเหล่านี้ถูกปกคลุมไปด้วยม่านแสงอาคมอันลึกลับฉิงเฟิงและทุกคนไม่สามารถเข้าไปได้ พวกเขาทำได้เพียงอยู่ในพื้นที่รอบๆเท่านั้น
“รอยมือใหญ่โตอะไรขนาดนี้….” ฉิงเฟิงขมวดคิ้วของเขาด้วยความตกใจ
จากการทอดสายตามองที่ซากปรักหักพังนี้มีรอยฝ่ามือขนาดมหึมาร่วม 1,000 เมตรรอยนิ้วทุกนิ้วมีความยาวมากกว่า 500 เมตร มันดูราวกับว่าเป็นฝ่ามือของอะไรบางอย่างที่ฟาดลงมาจากสวรรค์และทำให้พื้นโลกที่จุดนี้เกิดเป็นหลุมลึกขนาดมหึมาถึงห้าหลุม !
ในหลุมลึกนี้มีศพของสัตว์อสูรขนาดมหึมายาวนับพันเมตรทอดร่างอยู่เลือดเนื้อของมันหายไปเหลือเพียงกองกระดูกสีขาวที่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
“เฟิงน้อยในสมัยโบราณเคยเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่สะท้านโลกขึ้นที่นี่ สถานที่แห่งนี้ถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตจากสวรรค์ (แดนดาราชั้นสูงกว่าโลก) พวกเราควรจะรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็ว ราชาอสูรมีดวายุกล่าวกระตุ้นเตือนให้ฉิงเฟิงและคนอื่นๆออกไปโดยเร็ว
ไม่เพียงแค่ฉิงเฟิงเท่านั้นที่รู้สึกหวาดหวั่นต่อกลิ่นอายคงเหลือในซากปรักหักพังและรอยฝ่ามือยักษ์นี้แม้แต่ราชาอสูรมีดวายุก็ใจสั่นสะท้านเช่นกัน พวกเขาต่างสัมผัสได้อย่างเลือนลางว่ามีสัตว์อสูรโบราณหลบซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังเหล่านี้ ด้วยความช่วยเหลือของราชาอสูรมีดวายุและลูกหมาสีดำพวกเขาเดินทางต่อด้วยความรวดเร็วมาก
สามชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็มาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง
มันเป็นหน้าผาขนาดใหญ่สูง3,000 เมตรซึ่งเป็นหินสีดำทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หินเหล่านี้ไม่ใช่หินธรรมดา แต่มันคือหินอุกกาบาตที่ล้ำค่า !
หินอุกกาบาตทั่วไปนั้นใหญ่ที่สุดก็มีขนาดเท่าใบหน้าของมนุษย์คนหนึ่งเนื่องจากแรงเสียดทานเมื่อผ่านชั้นบรรยากาศ พวกมันส่วนใหญ่หลุดลอกออกไปก่อนจะตกถึงโลก อย่างไรก็ตาม หินอุกกาบาตเบื้องหน้าพวกเขานี้มีขนาดใหญ่มากจนพวกมันทับถมจนเป็นภูเขาลูกหนึ่ง มันเป็นภาพที่น่าหวาดกลัวมาก !
หินอุกกาบาตในแดนต้องห้ามคุนหลุนมีพลังบ่มเพาะมากกว่าหินอุกกาบาตของทุกนิกายและกองกำลังต่างๆรวมกันทั้งหมดเสียอีก ในส่วนที่พวกเขาอยู่นี้เรียกว่าผาทลายฟ้าและเป็นหนึ่งในหน้าผาที่ลึกลับที่สุดในแดนต้องห้ามคุนหลุนตามตำนานกล่าวไว้ว่า หน้าผานี้สามารถแยกสวรรค์ออกจากกันได้ใบสมัยโบราณ ซึ่งชื่อของมันก็มาจากสิ่งนี้นั่นเอง
“เฟิงน้อยพ่อของเจ้าถูกขังไว้ในข่ายอาคมระดับราชันใต้ผาทลายฟ้าแห่งนี้”
ราชาอสูรมีดวายุกล่าวกับฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงดูเป็นกังวลเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่น่ากลัวที่เปล่งออกมาจากส่วนลึกของใต้หน้าผาทลายฟ้า พลังงานนี้เปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจมหาศาลจนทำให้เขาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและทำให้เขาอยากแสดงความเคารพ
“ดูนั่นสิมีลูกพีชศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ผาทลายฟ้าด้วย” ฮวาเซียนจือชี้ไปที่ต้นพีชด้วยมือที่เพรียวบางของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ
ลูกพีชศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่มีเพียงพระแม่ตะวันออกเท่านั้นที่ครอบครองได้แต่นั่นเป็นเพียงแค่ตำนานเล่าขาน เป็นไปได้อย่างไรที่มันจะปรากฏที่หน้าผาแห่งนี้
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากด้านข้างว่า
“นั่นไม่ใช่ต้นพีชศักดิ์สิทธิ์หรอกมันคือลูกพีชวิญญาณสวรรค์ที่ดูเหมือนพีชศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น”
เมื่อได้น้ำยินเสียงที่คุ้นเคยฉิงเฟิงก็มีสีหน้ายินดี เขาหันหลังไปตามต้นเสียงและได้เห็นราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวง
“ท่านลุงเนี่ยท่านมาที่นี่ได้อย่างไรครับ” ฉิงเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับเนี่ยอู๋ซวงอีกครั้งที่หน้าผาทลายฟ้า
ตอนที่ 1037 สามประมุขพร้อมหน้า !
ราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวงยิ้มแผ่วเบาและกล่าวว่า“ฉิงเฟิง ข้ามาที่นี่ผ่านถ้ำลึกลับ”
ฉิงเฟิงเขกหัวตนเองเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เนี่ยอู๋ซวงเคยบอกเขาเกี่ยวกับถ้ำมิติที่ลึกลับแห่งหนึ่งในแดนต้องห้ามที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้เขาลืมเสียสนิทและไม่คิดว่าเนี่ยอู๋ซวงจะพบมันจริงๆ
“ท่านลุงเนี่ยท่านทะลวงผ่านถึงขอบเขตจิตโลกาแล้ว ”
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าเนี่ยอู๋ซวงมีพลังในระดับจิตโลกาเช่นเดียวกับเขา
ครั้งล่าสุดที่พบกันเนี่ยอู๋ซวงเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ในระดับแกรนด์มาสเตอร์เท่านั้น ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของราชันกระบี่ผู้นี้ทำให้ฉิงเฟิงตกตะลึง
“ฉิงเฟิงที่นี่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า