My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1048 วานรอสูรห้วงมิติ
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1048 วานรอสูรห้วงมิติ
ตอนที่ 1048 วานรอสูรห้วงมิติ
ฉากที่ได้เห็นหลี่ฉิงเฟิงโดยสารรถลากของมังกรทั้งเก้านั้นเป็นเพียงช่วงเวลาแวบเดียวและมันก็หายไปในความโกลาหล
อย่างไรก็ตามผู้พิทักษ์มิติจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เขาได้เห็นเมื่อครู่ไปตลอดชั่วชีวิต !
“หลี่ฉิงเฟิงเมื่อครู่เจ้าบอกให้ข้าทำสิ่งใดนะ ” ผู้พิทักษ์มิติถามในขณะที่ข่มความรู้สึกหวาดกลัวไว้ภายใน
ฉิงเฟิงยิ้มและกล่าว“ผมต้องการให้คุณฆ่ากู่อิงและช่วยอาจารย์ของผม”
“ย่อมได้ข้าจะสังหารกู่อิงให้เจ้า” ผู้พิทักษ์มิติพยักหน้าโดยไม่ลังเล
“ทะทะ ท่าน…… ท่านลงมือกับข้าไม่ได้ ! ท่านเป็นผู้พิทักษ์มิติ! หากท่านสังหารข้า ท่านจะถูกเต๋าสวรรค์ลงโทษ !”
“หนวกหูต่อให้ทวยเทพลงทัณฑ์ ข้าก็จะสังหารเจ้าเพื่อหลี่ฉิงเฟิงอยู่ดี ชายหนุ่มผู้นี้เปี่ยมไปด้วยศักยภาพไร้ที่สิ้นสุด สักวันเขาจะต้องเป็นจักรพรรดิสวรรค์ได้อย่างแน่นอน” ผู้พิทักษ์มิติกล่าวด้วยดวงตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
กู่อิงต้องการหลบหนีแต่ภายใต้การสะกดข่มของเคล็ดวิชาของผู้พิทักษ์มิติ กู่อิงไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
เปรี้ยง
!
มือขวาของผู้พิทักษ์มิติกางออกเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเขาทุบไปที่ร่างของกู่อิงจนแบนเละด้วยฝ่ามือเดียว
ฉิงเฟิงสูดหายใจด้วยอากาศเย็นที่หนาวเย็นผู้พิทักษ์มิติผู้นี้ทรงพลังเกินไป เขาสามารถทุบยอดฝีมือขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงจนเละได้ในฝ่ามือเดียวก็แสดงว่าอย่างน้อยคนๆนี้ต้องมีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณราชันหรือสูงกว่านั้น ! ตูม
!
ไม่นานหลังจากที่ผู้พิทักษ์มิติสังหารกู่อิงด้วยความลำเอียงสายฟ้าสายหนึ่งก็พุ่งทะลุท้องฟ้าด้วยความเร็วยิ่งกว่าความเร็วแสง มันผ่าใส่ร่างของผู้พิทักษ์มิติและเผาร่างกายของเขา ทันใดนั้นเองดูเหมือนว่าเขาจะแก่ลงไปอีกหลายสิบปีและสูญเสียพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ระดับพลังของเขาลดลงไปอยู่ที่ระดับจิตวิญญาณสวรรค์
ทุกคนที่เห็นสิ่งนี้ต่างอ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์
ราชันผู้พิชิตมีการแสดงออกที่ซับซ้อนเขาพูดว่า “เฟิงน้อย เจ้าเป็นหนี้ผู้พิทักษ์มิติ เขาฆ่ากู่อิงตามคำขอของเจ้า เขาทำผิดกฏจนถูกสวรรค์ลงทัณฑ์”
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้ยินคำพูดของพ่อเขาเดินไปที่ผู้พิทักษ์มิติและโค้งคำนับขอบคุณ “ขอบคุณท่านมากที่ช่วยผมหากท่านต้องการความช่วยเหลือใดๆโปรดบอกผมได้ทุกอย่าง”
ผู้พิทักษ์มิติยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า“ไปหาพ่อของเจ้าเถอะ ร่างกายของข้าได้รับบาดเจ็บอย่างลึกล้ำ ข้าช่วยอะไรเจ้าไม่ได้อีกแล้ว”
ฉิงเฟิงโค้งคำนับอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของผู้พิทักษ์มิติจากนั้นเขาก็เดินไปที่ข่ายอาคมที่กักขังพ่อของเขาเอาไว้
จากคำพูดของพ่อฉิงเฟิงรู้ว่ามันเป็นข่ายอาคมระดับราชันที่เป็นอันตรายมากเพราะมันก่อตัวขึ้นในรอยแยกระหว่างสองมิติ
ฉิงเฟิงก้าวเข้ามาในข่ายอาคมอย่างระมัดระวังทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็รู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนครั้งใหญ่จากพื้นที่ว่าง มันราวกับว่าร่างกายของเขาถูกฉีกขาดออกจากกัน
โชคดีที่เขาได้รับการฝึกฝนกายาแดนชำระซึ่งเป็นเคล็ดบ่มเพาะพลังที่สามารถสะกดข่มได้กระทั่งพลังแห่งขุมนรกร่างกายของเขาแข็งแกร่งผิดธรรมดาจนพอจะทานรับกระแสความปั่นป่วนภายในมิติได้
ในระยะสิบเมตรจู่ๆกรงเล็บที่ดุร้ายก็โผล่มาจากข้างหลังของเขาและฟาดเข้ากลางหลัง
ฉิงเฟิงใช้ท่าร่างก้าวมังกรหลบเลี่ยงในทันทีและรอดพ้นจากการโจมตีของกรงเล็บลอบทำร้ายได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นกรงเล็บก็หายไปทันทีที่มันปรากฏตัวราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ฉิงเฟิงไม่อาจมองเห็นอะไรได้นอกจากแรงลมที่เกิดจากการโจมตี
“
เจ้าหนูจงระวังด้วย นั่นเป็นสัตว์อสูรห้วงมิติ มันสามารถซ่อนร่างของมันในห้วงมิติได้”
จักรพรรดิราตรีกล่าวเตือนฉิงเฟิง
การแสดงออกของฉิงเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวเขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรห้วงมิติมาก่อน แต่เขาก็รู้ว่ามันทรงพลังแค่ไหน สัตว์อสูรเหล่านี้หลบซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับเสมอและถ้าคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับข่ายอาคมมิติก็ไม่มีทางที่จะเห็นมัน
ฟุ่บ!
กรงเล็บสีดำอันแหลมปรากฏขึ้นอีกครั้งคราวนี้อยู่ที่เท้าขวาของฉิงเฟิง ก่อนที่เขาจะตอบสนองได้ทัน รองเท้าขวาของเขาก็ถูกดึงเข้าไปในรูมิติขนาดใหญ่
แม้ว่าฉิงเฟิงจะมีผิวหนังที่หนาและทนทานแต่กรงเล็บอันแหลมคมยังคงทิ้งร่องรอยเล็บไว้ห้ารอยที่เท้าของเขา
ความตกใจปรากฏในดวงตาของเขาสัตว์อสูรตัวนี้รวดเร็วเกินไปจนเขาไม่อาจมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทัน อีกทั้งมันยังซ่อนตัวในรอยแยกมิติซึ่งเป็นการยากในการจับมัน
จากนั้นเสียงของจักรพรรดิราตรีก็ดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง
“
เจ้าหนูข้าจะสอนความรู้เกี่ยวกับข่ายอาคมมิติให้ ห้วงมิตินั้นเป็นพื้นที่เสมือนจริงและเปลี่ยนแปลงเสมอ มันสามารถสัมผัสได้ด้วยพลังวิญญาณเช่นเดียวกับออกซิเจนในอากาศ มันไม่อาจมองเห็นแต่เราก็รู้สึกถึงมันได้”
จักรพรรดิราตรีถ่ายทอดความรู้เกี่ยวพลังมิติไปให้ฉิงเฟิงและเนื่องจากความเข้าใจและการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมของเขา ไม่นานนักฉิงเฟิงก็เข้าใจทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับพลังมิติ
ฉิงเฟิงแผ่พลังวิญญาณออกไปตรวจสอบและพบว่ามีวานรอสูรสีดำอยู่ที่มิติด้านซ้ายของเขาวานรอสูรดำตัวนี้สูงเท่ากับมนุษย์และแตกต่างจากวานรทั่วไป มันปกคลุมไปด้วยขนสีดำสนิทและมีดวงตาที่ดูโกรธจัด
นี่ไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาสามัญแต่เป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังในบรรดาสัตว์อสูรห้วงมิติ
ฉิงเฟิงตรวจพบวานรตัวนี้แล้วแต่มันกลับคิดว่าฉิงเฟิงยังไม่รู้ตัว มันทำท่าทางราวกับกำลังหยอกล้อฉิงเฟิงอย่างจงใจด้วยการกระโดดไปมารอบๆ
วูบ!! วานรอสูรเหวี่ยงกรงเล็บแหลมออกไปอีกครั้งแล้วคว้าเท้าขวาของฉิงเฟิง
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงได้เห็นเทคนิคการโจมตีของมันมาก่อนแล้ว เขารีบยกเท้าขวาขึ้นหลบทันทีในขณะที่กรงเล็บของวานรอสูรพุ่งเข้ามาถึง จากนั้นเขาก็กระทืบซ้ำลงไปทันทีจนมันร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด
รูปแบบการโจมตีของมันนั้นลึกลับยากจะคาดเดาเสมอแต่ฉิงเฟิงกลับสามารถล่วงรู้ถึงมันได้ ทำให้วานรอสูรตกใจอย่างมาก
นอกจากนี้เท้าขวาของฉิงเฟิงยังโคจรพลังของเคล็ดวิชาทลายนรกานต์แฝงไว้อีกด้วยดังนั้นจากการเหยียบลงที่กรงเล็บของมันครั้งนี้ทำให้กรงเล็บของวานรอสูรหลุดออก
วานรอสูรห้วงมิตินั้นโดยปกติจะมีลักษณะนิสัยเด็ดขาดและก้าวร้าวมากเมื่อเห็นว่ากรงเล็บของมันถูกทำลายและติดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฉิงเฟิง มันจึงชักดาบออกมาและตัดมือออกโดยตรง !
ลำแสงของความโกรธเกรี้ยวพาดผ่านดวงตาของวานรอสูรห้วงมิติมันกุมดาบด้วยมืออีกข้างและพุ่งเป้าไปที่หัวใจของฉิงเฟิง มันต้องการแทงทะลุหัวใจของมนุษย์ที่น่ารังเกียจผู้นี้ให้จงได้ !
ฉิงเฟิงได้เรียนรู้เกี่ยวกับห้วงมิติมาแล้วดังนั้นการหลบซ่อนตัวในรอยแยกมิติของวานรอสูรนั้นไม่ทำให้เขาหวาดหวั่นอีกต่อไป เขายกสองนิ้วขึ้นคีบจับดาบของมันและออกแรงบิดจนมันหักเป็นสองส่วนทันที
หลังจากฉิงเฟิงทำลายดาบของมันแล้วเขาก็คว้าคอของมันไว้ทันที
“เจ้ามนุษย์ปล่อยข้า !” วานรอสูรร่ำร้องออกมา
กร๊อบ!
ฉิงเฟิงไม่ตอบคำเขาแสยะยิ้มและหักคอฆ่ามันในทันที
เขาไม่เคยยอมจำนนต่อการคุกคามข่มขู่นับประสาอะไรกับสัตว์อสูรห้วงมิติ