My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1054 ออกจากภูเขาคุนหลุน

ตอนที่ 1054 ออกจากภูเขาคุนหลุน
　　“เจ้ามนุษย์ปล่อยข้า! ไม่งั้นข้าจะปลดปล่อยพลังสายเลือดเพื่อกลืนกินเจ้า”
　　งูกลืนฟ้ากล่าวคุกคามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
　　ฉิงเฟิงเย้ยหยันและพูดอย่างเมินเฉยว่า“ปลดปล่อยสายเลือดของแกออกมาได้เลย ฉันขอดูหน่อยว่าพลังที่แท้จริงของแกทรงพลังแค่ไหน”
　　งูกลืนฟ้าปลดปล่อยพลังสายเลือดออกมาอย่างรวดเร็ววังวนสีดำขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนหัวของมัน วังวนสีดำนี้ราวกับหลุมดำในจักรวาลที่ปล่อยแรงดูดอันยิ่งใหญ่ราวกับว่ามันต้องการดูดกลืนฉิงเฟิงเข้ามา
　　“
　　สายเลือดผู้กลืนกิน
　　!”
　　ฉิงเฟิงตอบโต้ด้วยพลังสายเลือดของเขาวังวนสีดำขนาดยักษ์ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า
　　ฉิงเฟิงไม่เพียงแค่ปลดปล่อยพลังสายเลือดผู้กลืนกินออกมาเท่านั้นแต่เขายังกระตุ้นโลหิตมังกรภายในร่างกายของเขาอีกด้วย เขาพวยพ่นพลังของมังกรเทวะและมันก็เริ่มสะกดข่มสายเลือดของงูกลืนฟ้า
　　มันตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้ด้วยความหวาดกลัวเหมือนหนูที่เห็นแมว
　　สำหรับสัตว์อสูรเลื้อยคลานที่เหมือนงูพลังของมังกรเทวะไม่อาจล่วงล้ำได้
　　“เจ้างูน้อยฉันมีทางเลือกชีวิตให้แกสองทาง หนึ่งติดตามฉัน สองฉันจะกลืนกินสายเลือดของแกให้แห้งเหือด, ถลกหนังและจับแกไปทำเนื้อบาร์บีคิว”
　　ฉิงเฟิงข่มขู่ด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็น
　　ดวงตาของงูกลืนฟ้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆมันแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในใจที่ซับซ้อน มันเป็นถึงสัตว์อสูรโบราณเช่นเดียวกับลูกหมาสีดำ มันเคยโลดแล่นไปทั่วแดนอมตะอย่างอิสระเสรี ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วมันไม่ต้องการรับใช้มนุษย์
　　“
　　ไอ้งูน้อยยอมแพ้เถอะ ขนาดตอนนี้ข้ามีพลังมากกว่าเจ้าก็ยังต้องยอมจำนนต่อเขา อีกอย่าง ข้าจะบอกความลับบางอย่างแก่เจ้า มนุษย์คนนี้
　　,
　　หลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ที่ถูกลิขิตไว้แล้ว เขาได้รับการยอมรับจากวังคุนหลุนและผู้พิทักษ์มิติ
　　“
　　ลูกหมาสีดำกระซิบทางจิตไปบอกงูกลืนฟ้า
　　ใบหน้าของงูกลืนฟ้าเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อมันได้ยินเสียงลูกหมาสีดำมันรู้โดยธรรมชาติเกี่ยวกับคนที่ถูกลิขิต นั่นคือบุคลที่มีศักยภาพพอที่จะเป็นจักรพรรดิแห่งสวรรค์ในอนาคต !
　　หลี่ฉิงเฟิงย่อมต้องมีความสามารถอย่างมากถึงได้รับการยอมรับจากผู้พิทักษ์มิติและวังคุนหลุนเขามีศักยภาพและอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด
　　งูกลืนฟ้าเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า“ตกลง ข้าจะยอมติดตามเจ้าไป แต่เจ้าต้องมอบอิสระให้ข้า ยามที่ข้าฟื้นพลังเต็มที่”
　　ฉิงเฟิงพยักหน้าเห็นด้วยจากนั้นเขาก็พาทุกคนออกจากแดนต้องห้ามคุนหลุน
　　ในการเดินทางเข้ามาแดนต้องคุนหลุนครั้งนี้ฉิงเฟิงเก็บเกี่ยวได้มากมายไม่เพียงแค่ช่วยพ่อออกมาได้ แต่ระดับพลังของเขาก็ยังไปถึงขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นกลาง นอกจากนี้เขายังได้รับท่วงทำนองสวรรค์อมตะและอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน เจดีย์สีเขียว
　　ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะจากโลกใบนี้เพื่อไปยังมิติที่สูงกว่าแต่ฉิงเฟิงก็รู้ว่าตราบเท่าที่พ่อของเขายังมีชีวิต ในที่สุดจะต้องได้พบกันอีกครั้ง
　　ในระหว่างที่กลุ่มฉิงเฟิงกำลังจะเดินทางกลับพวกเขาก็ปะทะกับสัตว์อสูรอีกหลายตัว แต่ครั้งนี้เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่พรรคพวกของเขาก็สามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดาย
　　กลุ่มของเขาเดินทางอย่างรวดเร็วและพวกเขาก็ออกจากแดนต้องห้ามคุนหลุนได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดินพวกเขามาถึงเมืองที่ใกล้ที่สุด, เมืองคุนหลุน
　　“
　　หลินเสวี่ยรอผมก่อนนะ ผมจะกลับไปหาคุณเร็วๆนี้แล้ว”
　　ดวงตาของฉิงเฟิงแสดงออกอย่างอ่อนโยนเมื่อเขามาถึงในเมือง
　　อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงและคนอื่นๆเริ่มรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยเมื่อพวกเขาได้กลับสู่วิถีชีวิตในเมืองใหญ่อีกครั้ง
　　แสงไฟนีออนและถนนที่เต็มไปด้วยรถยนต์และผู้คนมันมีกลิ่นอายของความทันสมัยที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากผู้ฝึกตนและสัตว์อสูรที่ตามรังควานในภูเขาคุนหลุน
　　ชายหนุ่มหญิงสาววัยรุ่นหลายคนเดินจับมือกันบนท้องถนนบางคู่ที่สนิทสนมกันก็จูบกันในที่สาธารณะ
　　ฮวาเซียนจือและฉินเซียนจื่อถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมของการฝึกฝนมรรคายุทธ์และไม่ค่อยได้พบเจอฉากเหล่านี้ใบหน้าอันงดงามของพวกเธอกลายเป็นเขินอาย
　　“ว้ายสุดหล่อมาดื่มกับชั้นหน่อยม้ายยย ~” หญิงสาวคนหนึ่งยิ้มแย้มทักทายฉิงเฟิงทันทีที่เขาเดินผ่านหน้าบาร์
　　ผู้หญิงคนนี้สวยมากเธอมีผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า จมูกโด่งเข้ารูป ผิวขาวและหุ่นเซ็กซี่ เธอสวมกระโปรงสั้นเผยให้เห็นขาเรียวยาว ผิวพรรณของเธอขาวเนียนราวกับน้ำนม
　　“คุณอยากดื่มกับผมงั้นหรือ” ฉิงเฟิงยิ้มในขณะที่มองผู้หญิงคนนี้
　　ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉิงเฟิงเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์แต่เขาก็รู้คุณค่าของตนเอง ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะตกหลุมรักเขาทันทีที่เห็นเช่นนี้
　　หญิงสาวผมบลอนด์ชวนฉิงเฟิงดื่มซึ่งดูเหมือนเธอจะอ่อยเขาแต่ฉิงเฟิงกลับรู้สึกได้ถึงกลิ่นเลือดจางๆจากร่างของเธอ
　　แม้ว่ากลิ่นนี้จะจางมากแต่ฉิงเฟิงก็ยังรู้สึกถึงมันได้มันเป็นกลิ่นของนิกายโลหิต
　　ฉิงเฟิงได้พบกับนิกายโลหิตในยุโรปมาก่อนพวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังอำนาจเทียบเท่ากับศาสนจักร
　　“โทษทีแต่ผมไม่ชอบดื่ม” ฉิงเฟิงปฏิเสธสาวผมบลอนด์ด้วยรอยยิ้ม
　　“ไม่ได้นะวันนี้คุณต้องดื่มกับชั้น” สาวผมบลอนด์ยิ้มอย่างเย็นชา เธอเอื้อมมือขวาจับแขนฉิงเฟิงทันที
　　สาวผมบลอนด์มาจากนิกายโลหิตและเลือดในตัวฉิงเฟิงทำให้เธอหลงใหลมากผู้ชายคนนี้มีเลือดที่แข็งแกร่ง มันมีกลิ่นหอมหวานและน่าอร่อย หากเธอได้ดูดเลือดของเขา พลังของเธอจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
　　ทันใดนั้นเองเล็บของสาวผมบลอนด์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดและเจาะทะลวงเข้าไปในผิวหนังของฉิงเฟิง
　　ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและเปิดใช้งานกายาแดนชำระเพื่อเปลี่ยนผิวของเขาให้กลายเป็นเหล็กกล้า
　　เล็บของสาวบลอนด์ทำได้เพียงทะลวงเสื้อผ้าของฉิงเฟิงเท่านั้นแต่ไม่ระคายผิวของเขาแม้แต่น้อย
　　“เธอเป็นคนของนิกายโลหิตสินะ”ฉิงเฟิงถามในขณะที่ยิ้มเล็กน้อย
　　การแสดงออกของสาวผมบลอนด์เปลี่ยนไปเธอตอบอย่างเย็นชาว่า “คุณรู้ได้ยังไง”
　　“เหอๆตัวเธอมีกลิ่นเลือดซึ่งเป็นกลิ่นของพวกนิกายโลหิต เธอปิดบังฉันไม่ได้หรอก และที่สำคัญเธอไม่ควรมาหาเรื่องกับฉัน” ฉิงเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาและคว้าคอสาวผมบลอนด์ทันที　　การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไปและตกใจอย่างที่สุดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอรวดเร็วเกินไปจนเธอไม่มีเวลาตอบสนอง อีกทั้งกลิ่นอายของเขาที่แผ่ออกมาก็ทรงพลังอย่างยิ่ง มันสร้างความกลัวให้เธอทุกตารางนิ้ว
　　“คุณฆ่าชั้นไม่ได้สาวกนิกายโลหิตหลายคนกำลังเดินทางมาถึงเมืองคุนหลุนพร้อมกับผู้อาวุโสระดับสูงของนิกาย” สาวผมบลอนด์หัวเราะเยาะพร้อมกับข่มขู่
　　แกร่ก!
　　ฉิงเฟิงไม่ได้ตอบสนองต่อคำขู่ของสาวผมบลอนด์และกระชับมือหักคอเธอในทันที
　　“ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ เหตุใดถึงสังหารสตรีเช่นนี้ ช่างโหดร้ายนัก”
　　ฮวาเซียนจือกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น
　　ฉิงเฟิงกล่าวว่า“เธอเป็นคนของนิกายโลหิตจากทวีปเสือ พวกมันคือกลุ่มปีศาจร้ายที่ดูดเลือดมนุษย์” 　　ในที่สุดฮวาเซียนจือก็เข้าใจว่าสาวผมบลอนด์เป็นกลุ่มวายร้ายหลังจากที่เธอได้ยินคำอธิบายของฉิงเฟิง
　　ศพของสาวผมบลอนด์ปลดปล่อยกลิ่นคาวเลือดอันคละคลุ้งออกมารูปลักษณ์ที่งดงามน่าดึงดูดใจของเธอกลายเป็นแห้งเหี่ยวและซีดเซียว มันราวกับว่าชั้นผิวหนังหลุดร่วงออกมาจากศพของเธอและเผยให้เห็นภาพลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัวของสาวกนิกายโลหิต
　　“ไปที่สนามบินกันเถอะ”ฉิงเฟิงนำพรรคพวกเดินจากไปโดยไม่เหลียวมองศพของสาวผมบลอนด์แม้แต่นิดเดียว