My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1065 การช่วงชิงอันเข้มข้น
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1065 การช่วงชิงอันเข้มข้น
ตอนที่ 1065 การช่วงชิงอันเข้มข้น
ฉิงเฟิงพุ่งไปข้างหน้าเพื่อแย่งชิงน้ำเต้าทองคำ
ศิษย์ของนิกายกระบี่วิญญาณผู้หนึ่งหยุดเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะไปถึงที่หมายกล่าวไปแล้วก็นับว่าแปลกที่นิกายกระบี่วิญญาณมักจะมีเรื่องกับเขาอยู่เสมอ…
“คนนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าในเขตหวงห้าม!” ศิษย์นิกายกระบี่วิญญาณขมวดคิ้วและประกาศออกมา
ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและเดินต่อไปโดยไม่สนใจแต่หลังจากอีกฝ่ายถูกเขาเพิกเฉยก็เหวี่ยงกระบี่เข้าใส่ทันที
ฉิงเฟิงไม่ขยับเขยื้อนแต่ลูกหมาสีดำที่ข้างๆเขาลงมือแทน มันเหวี่ยงอุ้งมือของมันไป ที่หัวของศิษย์ผู้นั้นและกระแทกอีกฝ่ายออกไป
ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างก็ประหลาดใจเมื่อเห็นว่าลูกหมาสีดำตัวนี้โอหังหยิ่งผยองเกินไปราวกับว่ามันไม่ได้ตระหนักถึงสถานการณ์รอบข้าง
จากนั้นศิษย์ของนิกายกระบี่วิญญาณอีกหลายคนก็ล้อมรอบพวกเขาหลังจากที่ได้เห็นศิษย์ร่วมสำนักถูกทำร้ายหมดสติและครั้งนี้งูกลืนฟ้าก็เข้ามาวงร่วมด้วยเช่นกัน
ลูกหมาสีดำใช้อุ้งเท้าโจมตีส่วนงูกลืนฟ้าใช้หาง พวกมันทั้งสองจัดการกับเหล่าศิษย์ที่เข้ามาขัดขวางจนกระเด็นกระดอนออกไปในเวลาอันสั้น
เหล่าศิษย์สาวกจากนิกายอื่นๆต่างก็ก้าวถอยหลังด้วยความประหลาดใจพวกเขาหวาดกลัวเกินกว่าที่จะขวางทางฉิงเฟิง พูดตามตรงพวกเขากลัวลูกหมากับงูตัวนี้มากกว่า เพราะการที่ถูกสัตว์ทำร้ายจนสิ้นท่านั้นเป็นเรื่องน่าอายอย่างยิ่ง
“จงหยุดตรงนั้นหลี่ฉิงเฟิง น้ำเต้าทองคำไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะได้ไว้ในครอบครอง” เจียนซันเหอจ้าวนิกายกระบี่วิญญาณขมวดคิ้วและตะโกนออกมาอย่างเย็นชา
เจียนซันเหอเปี่ยมล้นไปด้วยความแค้นต่อฉิงเฟิงเขาคงลงมือไปนานแล้วหากไม่ใช่เพราะว่าต้องถนอมแรงไว้ชิงน้ำเต้าทองคำกับนิกายอื่นๆ
แต่แน่นอนว่าฉิงเฟิงไม่ยอมวางมือจากคำพูดของเจียนซันเหอเพราะน้ำเต้าทองคำเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของทองคำอมตะ ดังนั้นทุกคนต่างก็ต้องการของสิ่งนี้เป็นสมบัติในครอบครองของตัวเอง
ฉิงเฟิงไม่สนใจเจียนซันเหอและเดินต่อไปการกระทำของเขาทำให้อีกฝ่ายโกรธมากขึ้น ดวงตาของเจียนซันเหอเปล่งประกายด้วยแสงเย็นเยียบ
เปรี้ยง!
เขาหยิบกระบี่สีขาวออกมาด้วยพลังอันแรงกล้าที่เปล่งออกมาจากมันภาพสายน้ำสีขาวและขุนเขาสูงชันถูกสลักอยู่บนตัวกระบี่ นี่คืออุปกรณ์วิญญาณระดับสูงที่มีนามว่ากระบี่สายน้ำขุนเขาที่ทรงพลังมากในทันทีที่เจียนซันเหอกวัดแกว่งมันก็ก่อให้เกิดพลังงานกระบี่สูงถึง 200 เมตรและสับไปที่ฉิงเฟิง
เขาไม่กล้าประมาทเพราะรู้สึกได้ถึงพลังกระบี่อันแข็งแกร่งจากกระบี่สายน้ำขุนเขาของเจียนซันเหอชายผู้นี้เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยพบมา
ฟุ่บ!
ฉิงเฟิงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและหลบการโจมตีจากพลังงานกระบี่จากนั้นก็พลิกข้อมือของเขาและเหวี่ยงกระบี่เพลิงคะนองเข้าปะทะกับกระบี่สายน้ำขุนเขาจนเกิดเสียงดังสนั่น
ตูม!
หลังจากการปะทะฉิงเฟิงยืนหยัดอยู่กับที่แต่เจียนซันเหอถอยหลังกลับไปก้าวหนึ่ง แม้ว่ากระบี่ของพวกเขาจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ฉิงเฟิงมีเคล็ดวิชาที่ดีกว่า ดังนั้นจึงสำแดงอานุภาพได้สูงกว่าจนสามารถบีบให้อีกฝ่ายต้องถอยหลัง
กระบี่เพลิงคะนองเล่มนี้เป็นของขวัญที่ได้รับสืบทอดจากราชันกระบี่เนี่ยอู๋ซวงเดิมทีมันเป็นเพียงแค่กระบี่วิญญาณทั่วไป แต่หลังจากทลายผนึกทั้งสามขั้นแล้วมันก็กลายเป็นกระบี่วิญญาณระดับสวรรค์ได้ในที่สุด
ใบหน้าของเจียนซันเหอเปลี่ยนไปกลายเป็นจริงจังยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
จ้าวนิกายกระบี่วิญญาณเป็นผู้ฝึกตนระดับท็อบในขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์หากเขากล่าวอ้างว่าตนเองเป็นหมายเลข 2 ในเชิงกระบี่ ไม่มีกล้าเรียกตนเองว่าหมายเลข 1 สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเรื่องเหนือคาดหมายที่เขาพ่ายแพ้ในเชิงกระบี่ต่อชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง
ตูม!
ในเวลานี้เองน้ำเต้าทองคำก็ส่องแสงสีทองที่สว่างยิ่งขึ้นราวกับว่ามันได้สัมผัสถึงอันตรายและพยายามที่จะออกจากเถาวัลย์และหลบหนีไป แน่นอนว่าบรรดาผู้ฝึกตนย่อมไม่ยอมปล่อยให้มันหนีไปได้ซื่อหยินหยางจากนิกายศพนภา, เซินกู่นิกายกระดูกขาวและเต๋าเจิ้นเทียนจากนิกายดาบฟ้า พวกเขาทั้งหมดต่างก็รีบวิ่งไปที่มันเพื่อคว้าเอาไว้
เจียนซันเหอกับฉิงเฟิงต่างหยุดการต่อสู้พร้อมกันโดยมิได้นัดหมายและกระโจนเข้าหาน้ำเต้าทองคำด้วยเช่นกันพวกเขารู้ว่าใครก็ตามที่ได้ครอบครองสมบัติชิ้นนี้จะสามารถสังหารคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
ฝ่ามืออันทรงพลังทั้งห้าต่างก็เหยียดเข้าหาน้ำเต้าทองคำและพยายามจะคว้าจับมันไว้แต่ทว่าสิ่งของเพียงชิ้นเดียวย่อมไม่เพียงพอสำหรับห้าคนที่จะแบ่งปัน
ซื่อหยินหยางเริ่มต่อสู้กับเซินกู่เจียนซันเหอปะทะฉิงเฟิง อย่างไรก็ตามเต๋าเจิ้นเทียนเข้าร่วมวงด้วยเช่นกันแต่อยู่ฝ่ายกับเจียนซันเหอเพื่อกรุ้มรุมฉิงเฟิงอย่างหน้าด้าน
ฉิงเฟิงทรงพลังอย่างแท้จริงเขาดูไม่มีทีท่าจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับเจียนซันเหอและเต๋าเจิ้นเทียน
“
วิชาดาบสะเทือนฟ้า
!
“
เต๋าเจิ้นเทียนเหวี่ยงดาบของเขาไปที่ฉิงเฟิงสร้างระลอกคลื่นตัดผ่านอากาศ
ระลอกคลื่นเหล่านี้ทรงพลังมากมันฉีกอากาศออกเป็นส่วนๆราวกับว่าเกิดแผ่นดินไหว
“
วิชากระบี่สายน้ำขุนเขา
!!
“
พลังงานกระบี่ของเจียนซันเหอสร้างเงาของขุนเขาและแม่น้ำในอากาศ
มันเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ยาวหลายร้อยเมตรพร้อมด้วยสายน้ำที่บ้าคลั่งแน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ใช่น้ำจริงๆแต่เป็นพลังงานกระบี่นั่นเอง ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกโจมตีเข้าไปจะต้องตายอย่างแน่นอน
ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจกับการโจมตีของเต๋าเจิ้นเทียนและเจียนซันเหอไม่น้อยไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นยอดฝีมือของนิกายระดับสวรรค์ การโจมตีของพวกเขารุนแรงและทรงพลังจนทำให้ฉิงเฟิงประหลาดใจอย่างแท้จริง
“
หมัดที่สาม
–
สวรรค์พินาศโลกาสลาย
!!
“
ฉิงเฟิงใช้ออกด้วยหมัดที่สามของเพลงหมัดทลายนรกานต์กำปั้นสีดำขนาดมหึมาก่อตัวขึ้นและทุบเข้าใส่ดาบสะเทือนฟ้าจนทำให้อากาศแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พื้นดินและท้องฟ้าเริ่มสั่นคลอนราวกับมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น
“
ผสานเพลิงอัสนี
!
“
เปลวเพลิงแผดเผาพื้นดินขณะที่ประกายวิชชุพุ่งผ่านอากาศพลังทั้งสองสายนี้กระแทกเข้ากับวิชากระบี่สายน้ำขุนเขาจนทำลายเงามายาที่ก่อเกิดขึ้นจากพลังงานกระบี่จนแหลกเป็นชิ้นๆ
ศิษย์สาวกที่รอบข้างต่างก็ประหลาดใจเมื่อเห็นฉากนี้หลี่ฉิงเฟิงที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขานั้นกลับมีพลังอำนาจมากพอที่จะต่อสู้กับจ้าวนิกายทั้งสองพร้อมกัน
ฟุ่บ!!
ทันใดนั้นเองน้ำเต้าทองคำก็ลอยขึ้นไปในอากาศและบินออกไปในขณะที่ทุกคนกำลังต่อสู้กันอยู่ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาทุกคนก็เปลี่ยนไป ทุกคนวางมือจากการต่อสู้และไล่ตามน้ำเต้าทองคำไป
น้ำเต้าบินเร็วมากจนดูเหมือนเป็นลำแสงสีทองมันหายไปจากกรอบสายตาของทุกคนภายในพริบตา
ซื่อหยินหยางมุ่งหน้าออกไปค้นหาทางทิศตะวันออก,เซินกู่ไปทิศตะวันตกพร้อมกับเหล่าศิษย์ในนิกายของเขา, เต๋าเจิ้นเทียนมุ่งลงใต้และสุดท้ายเจียนซันเหอไปทางทิศเหนือ
จ้าวนิกายทั้งสี่แยกย้ายกันออกไปสี่ทิศทางเหลือเพียงฉิงเฟิงที่อยู่ที่เดิม
“ไอ้หมาน้อยแกลองดมกลิ่นรอบๆดูซิว่าน้ำเต้าทองคำไปที่ไหน” ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและถามลูกหมาสีดำ