My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1066 ศาสตร์แห่งการปรุงยาระดับอมตะ
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1066 ศาสตร์แห่งการปรุงยาระดับอมตะ
ตอนที่ 1066 ศาสตร์แห่งการปรุงยาระดับอมตะ
จมูกของลูกหมาสีดำกระตุกในขณะที่มันพยายามดมกลิ่นเพื่อค้นหากลิ่นอายของน้ำเต้าสีทอง
สุนัขมีจมูกที่ไวต่อกลิ่นมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหลายมันสามารถค้นหาติดตามได้แทบทุกสิ่งโดยอาศัยการดมกลิ่น
มันดมกลิ่นมานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
ก่อนหน้ามันสามารถติดตามร่องรอยได้ด้วยการดมกลิ่นเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแต่คราวนี้มันใช้เวลานานกว่าปกติมาก
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วอย่างร้อนใจและกล่าวว่า“เฮ้ ไอ้หมาน้อย ไหนแกบอกว่าแกเป็นหมาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไม่ใช่เหรอ แล้วหมาก็จมูกไวที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย แล้วทำไมแกตามกลิ่นตั้งนานแล้วยังไม่เห็นได้เรื่องเลยล่ะ ?” เขาเป็นกังวลว่าคนอื่นอาจจะได้รับน้ำเต้าสีทองไปก่อนซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นเขาจะตกอยู่ในอันตรายจากอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน
ลูกหมาสีดำครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“น้ำเต้าอยู่ใต้เถาวัลย์สีทองน่ะ”
ฉิงเฟิงมีสีหน้าประหลาดใจเขาไม่เชื่อคำพูดของมันแน่นอนเพราะว่าเขาเพิ่งเห็นกับตาว่ามันบินหนีไปแล้ว เช่นนั้นมันจะอยู่ใต้เถาวัลย์สีทองได้อย่างไร
ไม่เพียงแค่ฉิงเฟิงเท่านั้นที่ไม่เชื่อแม้แต่ฮวาเซียนจือและราชาอสูรฉลามคลั่งก็ไม่เชื่อเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเชื่อคำพูดของมันลูกหมาสีดำก็กล่าวพึมพำเงียบๆว่า “น้ำเต้าทองคำเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน มันทั้งบินและดำดินได้”
“
เจ้าหนูลูกหมาสีดำกล่าวถูกต้องแล้วเกี่ยวน้ำเต้าทองคำ ของสิ่งนั้นสามารถเคลื่อนไหวใต้พื้นดินได้ด้วย มันใช้
อุบายล่อพวกเจ้าออกไปและย้อนกลับมาซ่อนอยู่ที่เดิม”
เสียงมังกรอัคคีดังขึ้นในหัวของฉิงเฟิง
เมื่อได้ยินคำพูดของมังกรอัคคีฉิงเฟิงก็เข้าใจว่าของสิ่งนั้นฉลาดเพียงใด มันรู้ว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ต้องขอบคุณลูกหมาสีดำที่ดมกลิ่นของน้ำเต้าทองคำได้ไม่เช่นนั้นฉิงเฟิงคงถูกมันหลอกเหมือนจ้าวนิกายคนอื่นๆ
ฉิงเฟิงเดินช้าๆและระมัดระวังอย่างมากเขาใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ทำให้มันตกใจหนีไป
เขาขอให้ลูกหมาสีดำชี้ให้เห็นว่าน้ำเต้าทองคำซ่อนอยู่ที่ไหนจากนั้นมันก็ชี้ไปที่พื้นดินใต้เถาวัลย์สีทองและกระซิบกับฉิงเฟิงว่า “มันอยู่ใต้นี้…”
ฉิงเฟิงพยักหน้าและเดินอย่างระมัดระวังจากนั้นเขาก็ใช้พลังทั้งหมดของเขาในทันทีและคำรามออกมา “ม่านแสงวิญญาณสวรรค์ !”
ในขณะที่ม่านพลังงานถูกสร้างขึ้นในอากาศและปกคลุมพื้นดินเหนือเถาวัลย์สีทองฉิงเฟิงก็ทุบกำปั้นของเขาลงบนพื้นดินจนเศษหินดินทรายกระเด็นไปทั่วทุกที่
ตูม!
น้ำเต้าทองคำเปิดเผยตัวตนของมันขึ้นหลังจากดินทรายทั้งหมดกระเด็นไปในอากาศมันเปล่งแสงสีทองและพยายามจะหลบหนีอีกครั้ง
ฉิงเฟิงใช้ท่าร่างก้าวมังกรและบินเข้าหาน้ำเต้าทองคำราวกับมังกรเหินฟ้าเขาคว้ามันกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
น้ำเต้าทองคำดิ้นรนและพยายามหลบหนีแต่ฉิงเฟิงใช้ประโยชน์จากพลังของกายาแดนชำระเพื่อจับมันอย่างแน่นหนาและหยุดมันจากการหลบหนี น้ำเต้าทองคำไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดายแต่มันกลับยิงลำแสงพลังงานสีทองอันคมกริบออกมาและตัดผ่านแขนของฉิงเฟิงจนเลือดฉีดพุ่งไปทั่ว
ที่จริงแล้วเคล็ดกายาแดนชำระของฉิงเฟิงนั้นทำให้ผิวของเขาแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าจนถึงจุดที่สามารถต้านทานใบมีดและกระสุนปืนได้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่น้ำเต้าทองคำอันนี้สามารถทำร้ายเขาจนเกิดบาดแผลได้ ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมมันถึงเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน
เลือดของฉิงเฟิงที่ฉีดพุ่งกระเด็นไปโดนน้ำเต้าทองคำเข้าโดยบังเอิญมันเริ่มสั่นสะเทือนอย่างน่ากลัวราวกับว่ามันเป็นหนูที่เจอแมวอยู่ตรงหน้า
เลือดของฉิงเฟิงนั้นมีพลังของมังกรแฝงอยู่ซึ่งพลังของมังกรเทวะสามารถปราบพยศน้ำเต้าทองคำได้
มันสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวขณะที่เงาของมังกรอัคคีพุ่งออกมาจากหัวของฉิงเฟิงและกล่าวกับน้ำเต้าทองคำว่า
“
เจ้านายเก่าของเจ้าถูกผู้รุกรานต่างมิติสังหารไปนานแล้วเจ้าไม่คิดจะแก้แค้นให้เขาหรือไร
”
“
อย่างไรเล่า
“
น้ำเต้าทองคำส่งผ่านคลื่นวิญญาณที่อ่อนแอเพื่อตอบคำสนทนากับมังกรอัคคี
มังกรอัคคีพูดต่อไปว่า
“ชายหนุ่มผู้นี้ไง,หลี่ฉิงเฟิง เขาคือบุคลที่ถูกลิขิตไว้ซึ่งได้รับการยอมรับจากวังคุนหลุน เขาได้รับสืบทอดท่วงทำนองสวรรค์อมตะอีกด้วย ตราบเท่าที่เจ้ารับใช้ข้างกายเขา เขาย่อมช่วยเจ้าแก้แค้นอย่างแน่นอนเมื่อเขาก้าวเข้าสู่ตัวตนอมตะ” น้ำเต้าทองคำคิดเกี่ยวกับสิ่งที่มังกรอัคคีหว่านล้อมอยู่พักนึงไม่นานนักมันก็ตัดสินใจได้และกล่าวว่า
“ตกลงข้าจะยอมรับใช้หลี่ฉิงเฟิง”
จากนั้นมันก็หยุดดิ้นรนหลบหนีและปล่อยให้เลือดของฉิงเฟิงไหลผ่านเข้าตัวมันเพื่อทำพันธะสัญญาทางวิญญาณ
ฉิงเฟิงดีใจมากที่ได้ครอบครองมันในที่สุดเขาถามมันว่ามันมีความสามารถอะไรบ้าง ซึ่งมันก็บอกเขาว่าพลังงานสีทองของมันสามารถยิงผ่านผู้ฝึกตนทุกรูปนามที่อยู่ใต้ขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์
อย่างไรก็ตามพลังงานสีทองของมันนั้นเพียงพอสำหรับให้ฉิงเฟิงใช้ได้วันละสองครั้งเท่านั้น
ฉิงเฟิงพอใจแล้วกับพลังของมันแม้ว่าจะใช้ได้เพียงแค่วันละสองครั้งก็ตาม
เขารู้ว่าซื่อหยินหยางเซินกู่ เต๋าเจิ้นเทียนและเจียนซันเหอล้วนเป็นยอดฝีมือขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ขั้นสูงสุด ดังนั้นด้วยน้ำเต้าทองคำในมือ ย่อมสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหนุ่มหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหยียบย่างเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เจ้าจะล้างแค้นให้เจ้านายเก่าของข้าหรือไม่ ”
น้ำเต้าทองคำกล่าวถามฉิงเฟิงอีกครั้ง
เขาพยักหน้าและตอบกลับว่า“ฉันสาบานกับแกด้วยชีวิตเลยว่าหากวันหนึ่งฉันมีพลังในขอบเขตอมตะ ฉันจะสังหารศัตรูของแกให้แก”
น้ำเต้าทองคำรู้สึกมีความสุขที่ได้ยินเพราะนั่นเป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของมัน
“เอาล่ะเพื่อเป็นการขอบคุณ, หลี่ฉิงเฟิง ข้าจะมอบสมบัติให้เจ้าชิ้นหนึ่ง มันคือ ‘ศาสตร์การปรุงยาระดับอมตะ’
เจ้านายของข้าเหลือทิ้งไว้ให้ด้วยของสิ่งนี้เจ้าจะสามารถปรับแต่งการปรุงยาได้ดียิ่งขึ้น” น้ำเต้าทองคำคายตำราสีทองเล่มหนึ่งออกมาด้วยตัวอักษรสีทองที่สลักไว้บนนั้น
ในตำนานนักบุญของเกาะทองคำไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง แต่เขายังเป็นนักบุญแห่งการปรุงยาอีกด้วย
ชื่อของนักบุญแห่งการปรุงยาเป็นดั่งตัวแทนของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกแห่งการปรุงยาบุคลจำพวกนี้สามารถปรุงยาหรือใช้การเล่นแร่แปรธาตุสร้างยาอายุวัฒนะได้นับไม่ถ้วน
ฉิงเฟิงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับศาสตร์การปรุงยาอมตะเขาหรี่ตาลงขณะที่สแกนตำราและพบว่ามันมีหลายวิธีในการปรุงงยาที่ล้ำค่า
มันรวมถึงวิธีการปรับแต่งเม็ดยาระดับโลกา,ระดับสวรรค์, ระดับราชัน, ระดับจักรพรรดิและอื่นๆ …
หนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการโดยละเอียด,ส่วนประกอบ, ส่วนผสมรวมไปถึงชนิดของยาประเภทต่างๆ แน่นอนว่าส่วนผสมของยาระดับราชันและระดับจักรพรรดินั้นหายากมากนอกจากนี้ยังต้องใช้เปลวเพลิงในระดับสูงซึ่งฉิงเฟิงยังไม่อาจบรรลุระดับนั้นได้ในขณะนี้