My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1074 หนึ่งก้าวสังหารหนึ่งคน
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1074 หนึ่งก้าวสังหารหนึ่งคน
ตอนที่ 1074 หนึ่งก้าวสังหารหนึ่งคน
เมื่อได้เห็นพรรคพวกถูกน็อคไปแล้วยามเฝ้าประตูอีกคนก็หยิบเครื่องส่งสัญญาณและเตรียมที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือน แต่ชายคนนั้นก็ถูกฉิงเฟิงน็อคไปอีกคนด้วยการตบครั้งเดียว เครื่องส่งสัญญาณตกลงบนพื้นและถูกฉิงเฟิงทุบทำลาย
สำหรับคนทั่วไปยามสองคนนี้ทรงพลังอย่างยิ่งด้วยระดับพลังในขอบเขตจิตโลกาขั้นสูงสุด แต่สำหรับฉิงเฟิงนั้นพวกเขาเป็นเหมือนแมลงวันและสามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย
“นายท่านท่านทรงพลังมาก !” ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของโยชิโกะกลายเป็นสีแดง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสุข
เธอเป็นผู้ปกครองของตระกูลนินจาในตอนนี้แน่นอนว่าเธอย่อมรู้ซึ้งถึงพลังของยอดฝีมือในขอบเขตจิตโลกาขั้นสูงสุดว่าแข็งแกร่งเพียงใด แต่พวกเขากลับพ่ายแพ้ต่อฉิงเฟิงด้วยกระบวนท่าเดียว เธอเริ่มสงสัยแล้วว่าเจ้านายของเธอแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกันหลังจากพบกันครั้งสุดท้าย
นายท่านแข็งแกร่งเหลือเกินข้าหลงใหลท่านมากขึ้นอีกแล้ว…
โยชิโกะคิดในใจด้วยหัวใจที่เต้นระรัวเธอถูกดึงดูดด้วยตัวตนอันห้าวหาญของฉิงเฟิงจนไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับพาฮวาเซียนจือ โยชิโกะ ลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าเข้าไปภายในนิกายดาบปีศาจ
………
ในเวลาเดียวกันมีการจัดงานแต่งงานอยู่ภายใน มันเป็นงานแต่งงานของนายน้อย, ทาโร่ มุรามาสะ เขาคือทายาทแห่งนิกายดาบปีศาจและเป็นผู้มีอำนาจและอิทธิพลที่สูงส่ง ที่ยืนอยู่ข้างๆเขาเป็นผู้หญิงในชุดสีแดง
ผู้หญิงคนนี้งดงามอย่างยิ่งเธอมีใบหน้างดงามเหมือนดอกกุหลาบที่ละเอียดอ่อน ผิวพรรณขาวนวลเหมือนดอกบัวบาน ริมฝีปากแลดูนุ่มนวลเหมือนลูกเชอร์รี่และมีดวงตาที่สุกสกาวดั่งดวงดารา ทั่วเรือนร่างของเธอเปล่งประกายไปด้วยออร่าที่ทรงเสน่ห์
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแค่มีรูปลักษณ์ที่งดงามแต่เธอยังมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ผมของเธอยาวถึงไหล่ ท่อนขาเรียวเหยียดตรง มันคือรูปร่างของสตรีที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนตัวผู้หญิงคนนี้ดูสมบูรณ์แบบยกเว้นแต่เพียงแววตาที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาเนื่องจากเธอถูกฝังเข็มและถูกควบคุมโดยคนๆหนึ่ง
ถ้าหากฉิงเฟิงอยู่ที่นี่เขาย่อมจำผู้หญิงคนนี้ได้แน่นอนเธอไม่ใช่ใครอื่น เธอคือราชินีอสูรเพลิงนั่นเอง
ถัดจากราชินีอสูรเพลิงไปไม่ไกลนักเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาผู้หนึ่งที่มีอายุราวๆ20 ปี เขาไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อยเพราะถูกควบคุมไว้ด้วยการฝังเข็มสะกัดจุด ชายหนุ่มหล่อเหลาผู้นี้คือราชาอสูรค้างคาวม่วงเขาถูกควบคุมโดยคนของนิกายดาบปีศาจและบังคับให้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานครั้งนี้ในฐานะครอบครัวของราชินีอสูรเพลิง
ทาโร่มุรามาสะ, นายน้อยแห่งนิกายดาบปีศาจเป็นชายหนุ่มอายุราวๆ 27-28 ปี เขามีใบหน้าที่น่าดึงดูดใจต่ออิตสตรีและมีผิวสีเหลือง จมูกของเขาเชิดสูงขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกายอย่างก้าวแกร่ง ด้วยการเหลือบมองครั้งเดียวเราก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
“สาวงามเอ๋ยวันนี้เจ้าจะแต่งงานกับนายน้อยผู้นี้ เจ้ามีความสุขหรือไม่ ”
ทาโร่มุรามาสะถามด้วยรอยยิ้ม
ราชินีอสูรเพลิงส่ายหัวแสดงความไม่พอใจเธอมาที่เกาะแปซิฟิกเพื่อช่วยหวังลี่เลี่ยนแต่กลับถูกจับตัวโดยจ้าวนิกายดาบปีศาจโดยไม่คาดคิด
นายน้อยนิกายดาบปีศาจแรกพบหน้าราชินีอสูรเพลิงก็เกิดความชอบขึ้นและต้องการให้เธอเป็นสนมของเขาราชินีอสูรเพลิงขัดขืนต่อต้านแต่ก็ถูกควบคุมโดยผู้อาวุโสของนิกาย
นิกายแห่งนี้เป็นนิกายผู้ฝึกตนระดับสวรรค์บนเกาะแปซิฟิกกองกำลังที่มีอิทธิพลส่วนใหญ่บนเกาะแปซิฟิกต่างก็ได้มาร่วมงานแต่งงานของทาโร่ มุรามาสะในครั้งนี้
ในหมู่คนเหล่านั้นก็คือตระกูลเคนโด้ตระกูลบูชิโดและตระกูลคาราเต้ พวกเขาเป็นตระกูลของผู้ฝึกยุทธ์โบราณทั้งหมดบนเกาะแปซิฟิก นอกจากตระกูลชั้นสูงเหล่านี้แล้วยังมีนิกายผู้ฝึกตนอื่นๆอีกด้วย เช่น นิกายซากุระ นิกายโอโรจิ
งานแต่งงานครั้งนี้เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่โดยมีผู้เข้าร่วมเต็มไปทั่วโถงจัดงาน
……….
หลังจากล้มยามทั้งสองลงแล้วฉิงเฟิงก็ยังคงก้าวเท้าเข้าไปสู่ด้านในแต่เขาก็ถูกขัดขวางโดยเหล่าสาวกหลังจากที่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว
สาวกลาดตระเวนเหล่านี้ล้วนมีความแข็งแกร่งเช่นกันโดยผู้นำของพวกเขามีพลังในระดับจิตโลกขั้นสูงสุด
ฉิงเฟิงไม่ได้ลงมือในครั้งนี้แต่เป็นลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้าที่พุ่งออกหน้าโดยใช้อุ้งเท้าโจมตีในขณะที่อีกตัวหนึ่งกำลังสะบัดหาง
ฉิงเฟิงไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อผู้คนบนเกาะแปซิฟิกและรู้สึกโกรธแค้นต่อนิกายดาบปีศาจมากขึ้นไปอีก
ที่จริงเขาต้องการอาละวาดฆ่าสาวกเหล่านี้ให้สิ้นซากจริงๆแต่ก็กลัวกลิ่นคาวเลือดฟุ้งจนทำให้ผู้คนภายในจับสังเกตได้ ดังนั้นเขาจึงเพียงแค่ทำให้พวกมันสลบไป
ฉิงเฟิงสาวเท้าก้าวไปข้างในต่อไปซึ่งสาวกลาดตระเวนทั้งหมดที่พวกเขาพบจะถูกจัดการโดยลูกหมาสีดำและงูกลืนฟ้า หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงประตูห้องโถง
ประตูถูกปิดไว้อย่างแน่นหนาแต่ยังคงมีเสียงดังได้ยินจากภายนอก
ผู้คนบนเกาะแปซิฟิกชื่นชอบขนบธรรมเนียมประเพณีจากหัวเซี่ยพวกเขาจึงจัดพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิมของหัวเซี่ย (อันนี้ไม่จริงนะครับที่ว่าญี่ปุ่นชอบประเพณีของชาวจีน ญี่ปุ่นชาตินิยมมาก ผู้แต่งอุปโลกน์ขึ้นมาเอง)
ตูม!!!
ฉิงเฟิงเตะเปิดประตูเข้าไปเนื่องจากความแรงของการเตะนั้นรุนแรงเกินไปจนประตูใหญ่ระเบิดไปในอากาศกลายเป็นชิ้นส่วนจำนวนมาก
ทุกคนภายในงานต่างหันกลับมามองที่ประตูจากเสียงอันดังพวกเขาสงสัยว่าผู้ใดกันที่เสียสติก่อปัญหาภายในวันแต่งงานของนายน้อย
ทันทีที่หันกลับไปมองพวกเขาก็ได้เห็นชายหนุ่มหล่อเหลาชาวหัวเซี่ยคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาตกตะลึง พวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้อวดดีเกินไปแล้วแต่แน่นอนว่าเหล่าตระกูลผู้ฝึกยุทธ์โบราณบางส่วนต่างจดจำใบหน้าของฉิงเฟิงได้ ซึ่งก็คือตระกูลเคนโด้ ตระกูลบูชิโดและตระกูลคาราเต้ พวกเขามองหน้าฉิงเฟิงด้วยแววตาที่ตกตะลึงยิ่งกว่าคนอื่นๆ
พวกเขาต่างหวาดกลัวขึ้นในทันทีเพราะพวกเขาจดจำได้ว่าหัวหน้าตระกูลทั้งหมดต่างตายด้วยน้ำมือชายหนุ่มคนนี้ส่วนนิกายผู้ฝึกตนอื่นๆของเกาะแปซิฟิก เช่น นิกายซากุระและนิกายโอโรจิ พวกเขาไม่เคยพบและไม่รู้จักหลี่ฉิงเฟิงมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทราบเกี่ยวกับความสามารถของชายหนุ่มผู้นี้
“เป็นนายน้อย! นายน้อยมาแล้ว !” เมื่อได้เห็นใบหน้าของฉิงเฟิง ร่องรอยแห่งความปิติยินดีก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของราชาอสูรค้างคาวม่วง
เขาไม่ได้คาดหวังว่านายน้อยจะติดตามมาถึงสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าราชาอสูรทั้งสองคนจะสั่นสะท้านไปด้วยความหวัง ราชินีอสูรเพลิงที่อยู่ไกลออกไปมองไปที่ใบหน้าของฉิงเฟิงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนเธอเคยดูถูกเขาและคิดว่าเขาไม่แข็งแกร่งพอจนต้องให้เธอคอยปกป้อง แต่ทว่า ฉิงเฟิงกลับพัฒนาขึ้นมากอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลาสั้นๆ เขากล้าที่จะบุกเข้ามาในนิกายดาบปีศาจเพื่อช่วยเธอ
“แกเป็นใครกัน! ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ !” จ้าวนิกายซากุระซึ่งเป็นนิกายระดับโลกาคำรามขึ้นด้วยความหงุดหงิด
นิกายซากุระเป็นหน่วยย่อยภายใต้นิกายดาบปีศาจเขาผุดลุกขึ้นเป็นคนแรกและออกหน้าเพื่อสร้างความพอใจให้แก่นิกายดาบปีศาจ
ฉิงเฟิงไม่ตอบคำและก้าวไปข้างหน้าเขาโบกมือขวาที่ควบแน่นไปด้วยพลังแท้จนก่อตัวเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์และตบเข้าหาจ้าวนิกายซากุระจนอีกฝ่ายร่างระเบิด
เหล่าสาวกที่ได้เห็นว่าจ้าวนิกายถูกสังหารต่างก็พุ่งเข้าหาฉิงเฟิงทันทีหมายจะแก้แค้นให้หัวหน้า
แต่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขาและยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอวดดี
ในทุกย่างก้าวของเขาหนึ่งฝ่ามือที่โบกสะบัดจะปลิดปลงไปหนึ่งชีวิต หลังจากผ่านไปสิบก้าวก็มีสิบชีวิตที่ต้องตกตายด้วยน้ำมือของเขา ทุกคนภายในงานต่างตกใจและสีหน้าซีดเผือดไปโดยสิ้นเชิง
หนึ่งก้าวสังหารหนึ่งศพและไม่มีผู้ใดรอดชีวิตหลี่ฉิงเฟิงได้สำแดงความโหดเหี้ยมเลือดเย็นจนห้องโถงต่างตกอยู่ในความเงียบ