My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1078 สายเลือดปีศาจนภา
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1078 สายเลือดปีศาจนภา
ตอนที่ 1078 สายเลือดปีศาจนภา
ผู้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุเหล่านี้ล้วนแต่ตกใจใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าอู่ตี้ มุรามาสะจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฉิงเฟิง ความจริงที่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บด้วยฝีมือของชายหนุ่มผู้นี้ทำให้พวกเขาต่างก็หวาดกลัว
เมื่อได้ยินการสนทนาของผู้คนรอบตัวใบหน้าของอู่ตี้ มุรามาสะก็สลด เขารู้สึกละอายใจเล็กน้อยเนื่องจากตนเองเป็นถึงจ้าวนิกายดาบปีศาจ เขาจะพ่ายแพ้ต่อหลี่ฉิงเฟิงได้อย่างไร !
“
สายเลือดปีศาจนภา
!
“
อู่ตี้มุรามาสะคำรามลั่นและเปิดใช้งานสายเลือดปีศาจในร่างกายของเขา เรียกปีศาจยักษ์บนท้องฟ้า ปีศาจนภาตนนี้ปล่อยพลังที่สะกดข่มและพุ่งไปหาฉิงเฟิง
สายเลือดปีศาจนภาเป็นหนึ่งในสายเลือดบรรพกาลมันมีพลังที่โดดเด่นและสามารถเพิ่มพลังโจมตีของผู้ฝึกตนได้เป็นสองเท่า
ใบหน้าของฉิงเฟิงดูจริงจังเขารู้ว่ายามที่อู่ตี้ มุรามาสะเปิดใช้งานสายเลือดปีศาจจะไม่อ่อนแอกว่าตัวเขาอีกต่อไป ซึ่งถ้าเปรียบเทียบจริงๆ ตอนนี้อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเขาแล้วด้วยซ้ำ ฉิงเฟิงรู้ว่าถ้าเขาต้องการเอาชนะ เขาต้องกระตุ้นพลังสายเลือดด้วยเช่นกัน
“
สายเลือดผู้กลืนกิน
!
“
ฉิงเฟิงเปิดใช้งานสายเลือดผู้กลืนกินภายในร่างของเขามันก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนสีดำบนท้องฟ้า สร้างแรงดึงดูดที่ฉีกขาดสรรพสิ่งอันแข็งกร้าว กระแสน้ำวนสีดำนี้มีความคล้ายคลึงกับหลุมดำในอวกาศและเป็นพลังที่ลึกลับที่สุดจากสวรรค์และปฐพีมันสามารถกลืนกินสายเลือดปีศาจนภาได้โดยตรงเปลี่ยนและเปลี่ยนพลังงานนั้นให้เป็นพลังงานของตัวเอง
อู่ตี้มุรามาสะผู้โง่เขลา เขากล้าใช้พลังสายเลือดมาประชันกับฉิงเฟิงโดยไม่รู้ถึงพลังของสายเลือดผู้กลืนกิน เขากำลังมองหาที่ตาย
พรู่ดดด!
ศรโลหิตฉีดพุ่งออกจากปากของเขาพลังสายเลือดถูกกลืนหายไปโดยฉิงเฟิง และด้วยการสูญเสียแก่นโลหิต ร่างกายของเขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากกลืนสายเลือดปีศาจนภาของอีกฝ่ายพลังของฉิงเฟิงก็พุ่งสูงขึ้น แก่นพลังแท้ควบแน่นภายในตันเถียนของเขาและทำให้เขาเข้าสู่ขอบเขตใหม่, ขอบเขตครึ่งก้าวจิตวิญญาณราชัน !
เมื่อรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลในร่างกายฉิงเฟิงก็ตื่นเต้นยินดีมาก ขอบเขตจิตราชันนี้เป็นความใฝ่ฝันของผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน หลายคนต้องการที่จะมาถึงขั้นนี้ แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม บัดนี้ชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีอย่างเขาสามารถทำได้
แน่นอนว่าฉิงเฟิงไม่ได้ทะลวงผ่านด้วยตนเองแต่มันมาจากกระบวนการดูดซับสายเลือดปีศาจนภาของอู่ตี้ มุรามาสะ มันทำให้พลังแท้ของเขาเพิ่มสูงขึ้นจนพอที่จะทะลวงด่านได้
ในเมื่อความแข็งแกร่งของฉิงเฟิงเพิ่มขึ้นระดับพลังของอู่ตี้ มุรามาสะย่อมถดถอยลง การถูกกลืนพลังสายเลือดทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียวและร่างกายอ่อนแอลงจนไม่สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง
“อู่ตี้มุรามาสะ วันนี้จะเป็นวันครบรอบวันตายของแก” ฉิงเฟิงเหวี่ยงกระบี่เพลิงคะนองในมือ เกิดเป็นเส้นโค้งในอากาศและฟาดฟันลงสู่ร่างของอีกฝ่ายอย่างไร้ความปราณี พลังงานกระบี่ทะลุทะลวงอากาศและปลดปล่อยมายาสายฟ้าผ่าลงมา
“
ท่าร่างปีศาจนภา
!
“
อู่ตี้ตะโกนลั่นเท้าขวาของเขากระทืบลงที่พื้นเล็กน้อย เขากระโดดไปทางด้านหลังหมุนตัว 360 องศาเพื่อหลบหนีการโจมตีจากพลังกระบี่อันเกรี้ยวกราดของฉิงเฟิง
รูม่านตาของฉิงเฟิงรวมศูษย์เล็กน้อยเขาคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะหลบพลังกระบี่ของเขาได้ ท่าร่างนี้ช่างว่องไวและน่าทึ่งโดยแท้
ท่าร่างปีศาจนภาเป็นเคล็ดวิชาท่าร่างระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดและทรงพลังมากส่วนท่าร่างก้าวมังกรของฉิงเฟิงนั้นยังเป็นเพียงแค่ท่าร่างระดับโลกาเท่านั้น มันจึงไม่รวดเร็วเท่าอีกฝ่าย
ฉิงเฟิงเก็บกระบี่เพลิงคะนองกลับไปเขารู้ว่าวิชากระบี่ทำได้เพียงคุกคามอู่ตี้ มุรามาสะเท่านั้น แต่หากจะสังหารอีกฝ่ายเขาต้องใช้เคล็ดวิชาอื่น
“
หนึ่งดรรชนีแยกสรรพสิ่ง
!
“
ฉิงเฟิงใช้ออกด้วยดรรชนีผู้พิชิตนิ้วชี้ขวาของเขายิงเป็นลำแสงสีเขียวและพุ่งทะลุอากาศเข้าสู่ร่างของอู่ตี้ มุรามาสะ
แต่ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงเร็วกว่า ด้วยท่าร่างปีศาจนภา เขาหมุนตัวไปทางซ้ายแล้วหลบลำแสงสีเขียวได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ท่าร่างของอู่ตี้มุรามาสะนั้นรวดเร็วยิ่ง แม้ว่าการโจมตีของฉิงเฟิงจะทรงพลัง แต่หากไม่เข้าเป้าก็นับว่าไร้ประโยชน์
“หลี่ฉิงเฟิงแม้เจ้าจะกลืนกินพลังสายเลือดของข้าไปได้ แต่ความเร็วของเจ้ายังคนละชั้นกับข้า เจ้าอย่าหวังจะแตะต้องตัวข้าได้เลย !” อู่ตี้ มุรามาสะแสยะยิ้ม ดวงตาของเขากระพริบด้วยการเยาะเย้ย
ในฐานะที่เป็นจ้าวนิกายดาบปีศาจเขาไร้เทียมทานต่อยอดฝีมือทุกคนบนเกาะแปซิฟิกได้ โดยธรรมชาติแล้วเขาครอบครองเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังมากมาย เพียงแค่ท่าร่างปีศาจนภา เขาก็สามารถหลบหลีกการโจมตีของฉิงเฟิงได้แล้ว
“
เจ้าหนูข้าจะช่วยเจ้าเอง ครานี้ข้าจะสอนเคล็ดท่าร่างระดับราชันให้เจ้า มันชื่อว่า
[
ท่าร่างพันมังกร
]
วิชานี้รวดเร็วกว่าก้าวมังกรของเจ้านับสิบเท่ามันย่อมช่วยให้เจ้าสามารถตามติดชายผู้นั้นได้อย่างง่ายดาย
”
จู่ๆเสียงของมังกรอัคคีก็ดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
ในสมัยโบราณกาล,เคยมีสงครามระหว่างหัวเซี่ยและเกาะแปซิฟิก เนื่องจากชาวเกาะแปซิฟิกได้ทรยศต่อมวลมนุษยชาติและยอมจำนนต่อบุคคลภายนอกผู้ทรงอำนาจ มันนำมาซึ่งความสูญเสียต่อโลกมนุษย์
มังกรอัคคีซึ่งเป็นมังกรเทพในเวลานั้นได้สังหารตัวตนระดับอมตะชาวเกาะแปซิฟิกไปสามคนด้วยความโกรธกริ้วสำหรับชาวเกาะแปซิฟิกและผู้คนที่นี่นั้น มังกรอัคคียังคงขุ่นเคืองและไม่พอใจ
“
การเดินทางคือสุญญะตาของมังกร(ความว่างเปล่า)
,
สรรพสิ่งอยู่บนเท้า
,
ร้อยพันแห่งการเปลี่ยนแปลง
, ย่างก้าวพันมังกร….
“
มังกรอัคคีท่องท่วงทำนองแห่งท่าร่างพันมังกรเพื่อส่งต่อไปให้ฉิงเฟิง
ในขณะที่โจมตีอู่ตี้มุรามาสะ, ฉิงเฟิงก็ฝึกฝนท่าร่างจากมังกรอัคคีไปด้วย
นิ้วเท้าของเขาชี้ไปในทิศทางที่ต่างกันทุกครั้งที่มันชี้ไปยังสถานที่แห่งใหม่ เขาก็เข้าใจถึงกฎแห่งสวรรค์และปฐพีได้ดีขึ้น มันมีข้อมูลเชิงลึกและเทคนิคบางอย่างที่น่าอัศจรรย์
ตอนแรกฉิงเฟิงนั้นยังคงช้ากว่าเล็กน้อยเพราะเขายังไม่ค่อยเชี่ยวชาญแต่เมื่อเวลาผ่านไปความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นภาพติดตาที่ฉายออกมาเป็นมายาของมังกร
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่มังกรจริงๆแต่ท่าร่างของเขานั้นลื่นไหลและรวดเร็วราวกับว่าเขามีรูปลักษณ์ของมังกรปรากฏขึ้นจริงๆ ภายในเวลาไม่นานฉิงเฟิงก็เข้าถึงเคล็ดวิชาและท่าร่างพันมังกรได้อย่างถี่ถ้วน
“อู่ตี้มุรามาสะ แกกำลังจะตาย” ดวงตาของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“เพ้อเจ้อ! ความเร็วของเจ้ายังไม่อาจตามข้าได้ทันแล้วเจ้าจะเอาอะไรมาฆ่าข้า ”
อู่ตี้มุรามาสะยิ้มเย้ยหยัน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการดูถูก
นับตั้งแต่เขาใช้ท่าร่างปีศาจนภาฉิงเฟิงยังไม่สามารถโจมตีถูกเขาได้แม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นเขาเชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายไม่มีวันฆ่าเขาได้
วูบ!
ฉิงเฟิงเปิดใช้งานท่าร่างพันมังกรของเขาปล่อยพลังงานจากปลายเท้า ร่างกายของเขาลอยขึ้นทันทีและบินไปที่ด้านข้างอู่ตี้ มุรามาสะในเสี้ยวพริบตา ความเร็วนี้เร็วกว่าที่อีกฝ่ายจะตอบสนองได้ทัน
ฉัวะ!
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาตัดผ่าไปที่แขนขวาของอีกฝ่ายจนตกลงสู่พื้น
“อ้ากกกก!”
อู่ตี้มุรามาสะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและมองที่แขนของเขาที่ถูกตัดออก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นปีศาจจริงๆ ! ก่อนหน้านี้เขายังไม่อาจตามทันความเร็วของตนเองได้เลยแท้ๆ แล้วทำไมจู่ๆถึงรวดเร็วยิ่งเขากว่าได้ !
ฉิงเฟิงไม่ให้เวลาอีกฝ่ายได้ตอบสนองและตั้งตัวเขาโบกสะบัดกระบี่เพลิงคะนองออกไปอีกครั้งและครั้งนี้ตัดแขนซ้ายอีกข้าง
อู่ตี้มุรามาสะส่งเสียงกรีดร้องอีกครั้ง แขนทั้งสองของเขาถูกตัดขาดล่องแล่งด้วยฝีมือของฉิงเฟิง เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงด้วยใบหน้าซีดเซียวและเริ่มมีเหงื่อออกอย่างมากบนหน้าผากของเขา
“ยะ..อย่าฆ่าข้า !” อู่ตี้ มุรามาสะกล่าวอ้อนวอนขอชีวิต
สุดยอดฝีมือผู้หยิ่งยะโสก่อนหน้านี้กลับต้องร่ำร้องขอชีวิตต่อฉิงเฟิง
ผู้คนโดยรอบล้วนแต่ตกใจเมื่อได้เห็นสิ่งนี้
หลี่ฉิงเฟิงผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปอู่ตี้ มุรามาสะเป็นยอดฝีมือขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะแปซิฟิก แต่บัดนี้เขาต้องร้องขอชีวิตจากชายหนุ่มอย่างหลี่ฉิงเฟิง