My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1082 หญิงสาวแห่งวังมังกรทะเลตะวันออก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1082 หญิงสาวแห่งวังมังกรทะเลตะวันออก
ตอนที่ 1082 หญิงสาวแห่งวังมังกรทะเลตะวันออก
“คนสวยที่อยู่บนหัวเธอนั่นเขาวัวเหรอ ” ฉิงเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม
เขารู้สึกว่ารอยนูนบนหัวของสาวสวยคนนี้ดูเหมือนเขาวัวมาก
อะไรนะ
!
เขาวัว
!
ทันใดนั้นเองสาวงามผมม่วงก็ควันออกหูเจ้ามนุษย์งี่เง่าคนนี้กล้าพูดได้ยังไงว่าเธอมีเขาวัวที่หน้าผาก นี่เป็นการดูถูกเธออย่างแน่นอน !
“ไอ้บ้า! เจ้าน่ะสิที่มีเขาวัวอยู่บนหัว ! นี่คือเขามังกร เข้าใจไหม” ใบหน้าของสาวงามผมม่วงเปลี่ยนไป เธอตอบอย่างโกรธเคือง
อะไรนะ นั่นคือเขามังกรงั้นหรือ
ฉิงเฟิงและคนอื่นๆบนเรือโดยสารต่างก็ตกตะลึงพวกเขาเคยเห็นเขามังกรจากในจอโทรทัศน์เท่านั้นไม่เคยเห็นของจริง และสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็คือเขามังกรในตำนานซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกับเขาของสาวงามผมม่วงผู้นี้
“เฮ้เจ้าหมา ที่อยู่บนหัวของสาวสวยคนนั้นคือเขามังกรงั้นหรือ ” ฉิงเฟิงถามลูกหมาสีดำ
ลูกหมาสีดำจองหองยะโสและกวนประสาทดูไม่ค่อยน่าไว้ใจแต่เรื่องที่ดีเกี่ยวกับมันก็คือความรอบรู้มากมายเกี่ยวเคล็ดวิชาและยุคโบราณ
ลูกหมาสีดำสังเกตอย่างจริงจังก่อนที่จะนิ่งไปพักหนึ่งและพูดว่า“ดูเหมือนจะเป็นเขามังกรนะแต่ข้าก็ไม่แน่ใจ”
ป้าบ!
ฉิงเฟิงเหวี่ยงมือออกไปตบหน้าของลูกหมาสีดำและกล่าวอย่างเย็นชาว่า“อะไรวะ แกเรียกตัวเองว่าสัตว์อสูรในตำนาน แต่แกกลับแยกแยะไม่ออกว่านี่เป็นเขามังกรหรือเปล่า”
ลูกหมาสีดำไม่พอใจที่ถูกฉิงเฟิงตบก่อนหน้านี้มันเพิ่งกินแก่นอสูรของราชาเต่าอสูรทะเลมา ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นมันจึงรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองมีคุณสมบัติพอที่จะท้าทายฉิงเฟิงแล้ว
เมื่อเห็นลูกหมาสีดำมีสีหน้าโกรธกริ้วฉิงเฟิงก็กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ทำไม มองหน้าหาเรื่องเรอะ ? อย่าลืมนะว่าใครเป็นคนจัดการกับเต่าอสูรตัวนั้นและให้แกกินแก่นอสูรสบายใจ”
ใบหน้าของลูกหมาสีดำเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉิงเฟิงพูดสีหน้าที่ดูเป็นอันตรายของมันอ่อนลงและเข้าใจว่าฉิงเฟิงพูดถูก หากไม่ใช่เพราะเขา มันก็ไม่สามารถได้แก่นอสูรระดับสูงเช่นนี้มากิน
“อ่าเอาเป็นว่าข้ามั่นใจสัก 60% ก็แล้วกันว่านั่นคือเขามังกร” ลูกหมาสีดำมองสาวงามผมม่วงอีกครั้งและกล่าวขึ้น
มันคิดว่าเขามังกรของสาวงามผมสีม่วงนั้นดูแตกต่างจากเขามังกรตัวอื่นเล็กน้อยมันดูเหมือนจะกลายพันธุ์
ฉิงเฟิงพยักหน้าเขารู้ว่าสาวงามผมสีม่วงผู้นี้น่าจะมาจากวังมังกรทะเลตะวันออก มิเช่นนั้นเธอคงจะไม่มีเขาบนหัวและไม่สามารถเรียกเสาวารีเก้ามังกรออกมาที่นี่ได้
“เธอมาจากวังมังกรงั้นหรือ” ฉิงเฟิงถามอย่างจริงจัง
เขารู้ว่าอาจเป็นปัญหาหากไม่ว่างตัวและจัดการกับสมาชิกของวังมังกรทะเลตะวันออกให้ดีวังมังกรนั้นเป็นกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดในมหาสมุทร พวกเขาเป็นผู้ปกครองท้องทะเลและมันก็ไม่ได้เกินเลยหากจะพูดว่าพวกเขาคือราชาแห่งมหาสมุทร
“ฮึเจ้าฉลาดมาก ถูกต้องข้ามาจากมังกร” สาวงามผมสีม่วงยิ้มอย่างสวยงามและตอบอย่างภาคภูมิใจ
ในฐานะสมาชิกของวังมังกรเธอมีสิทธิ์ที่จะภาคภูมิใจและทำให้สัตว์อสูรทุกชนิดโค้งคำนับให้เธอและแม้แต่มองข้ามมนุษยชาติทั้งปวง
เธอเป็นสมาชิกอันน่าภาคภูมิใจของวังมังกรฉิงเฟิงมองสาวงามผมม่วงชัดๆอีกครั้งและยังไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าผู้หญิงคนนี้มาจากวังของราชามังกรซึ่งปรากฏตัวในตำนานเท่านั้น
“ส่งมอบอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาออกมามิเช่นนั้นอย่าคิดหมายจะผ่านที่นี่ไปได้”
สาวงามผมม่วงกล่าวขณะชี้ไปที่ฉิงเฟิงด้วยมือเล็กๆสีชมพูของเธอ
ฉิงเฟิงดูไม่พอใจและพูดว่า“ฉันขอพูดอีกครั้งนะ ฉันไม่มีอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาอย่างที่เธอต้องการหรอก”
สาวงามผมม่วงยกมุมปากของเธอขึ้นแล้วพูดว่า“เจ้าไม่อาจโป้ปดต่อข้าได้หรอก ข้าถือครองหอยสังข์ญาณสัมผัส มันจะเปล่งแสงสีม่วงเมื่อใดก็ตามที่มันตรวจจับอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาหรือใกล้เคียงได้” ในขณะที่สาวงามผมม่วงกำลังพูดอยู่เธอก็หยิบเปลือกหอยสังข์สีม่วงที่เธอสวมไว้ที่คอซึ่งมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือออกมา
เธอถอดมันออกและก็เป็นอย่างที่เธอเพิ่งพูดไปเปลือกหอยสังข์สีม่วงส่องแสงสีม่วงไปทางฉิงเฟิงอย่างน่าอัศจรรย์
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจเปลือกหอยสังข์สีม่วงนี้แท้จริงแล้วกลับกลายเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาเช่นเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันสามารถตรวจจับได้ว่ามีอุปกรณ์อื่นในระดับเดียวกันอยู่ในละแวกใกล้เคียง
ฉิงเฟิงรู้ว่าอุปกรณ์วิญญาณระดับราชานั้นหายากมากและมีเพียงยอดฝีมือชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถครอบครองได้ตัวเขาเองยังต้องต่อสู้แลกชีวิตจนเกือบตายกว่าจะได้ครอบครองมาเพียงแค่สองชิ้น
เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสาวงามผมม่วงที่อายุยังน้อยคนนี้กลับถือครองอุปกรณ์วิญญาณระดับราชา เขารู้ชัดเจนว่าสาวงามผมม่วงผู้นี้ต้องเป็นตัวตนที่พิเศษเธอน่าจะมีระดับสูงส่งภายในวังมังกร
“เอาล่ะสาวงามฉันยอมรับก็ได้ แต่ฉันไม่สามารถมอบอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาให้เธอได้หรอก” ฉิงเฟิงยอมรับและตอบด้วยรอยยิ้มที่เบาบาง
สีหน้าของสาวงามผมม่วงเปลี่ยนไปเธอกล่าวขึ้นอย่างหยิ่งยะโสว่า “ในเมื่อเจ้าไม่เต็มใจมอบของมาดีๆ งั้นข้าจะจับกุมพวกเจ้าทุกคน”
“คุกเสาวารีเก้ามังกร”สาวงามผมม่วงส่งเสียงพึมพำ รังสีของน้ำพุ่งเข้าหาเรือ เสาน้ำทั้งเก้าหมุนไปรอบๆเรือและก่อตัวเป็นข่ายอาคมขึ้นเพื่อคร่ากุมทุกคนบนเรือโดยสาร
“มันเป็นข่ายอาคมระดับราชา!” ลูกหมาสีดำอุทานขึ้นด้วยความตกตะลึง
เป็นที่ทราบกันดีว่าเทคนิคการสร้างข่ายอาคมนั้นฝึกฝนได้ยากมากไม่ต้องพูดถึงระดับจิตวิญญาณด้วยซ้ำ แม้แต่ผู้ฝึกตนอาวุโสหลายคนที่ฝึกฝนศาสตร์นี้มาชั่วชีวิตก็ยังไม่อาจเชี่ยวชาญมันได้ แต่ตอนนี้มันถูกปลดปล่อยออกมาโดยหญิงสาววัยแรกรุ่น ลูกหมาสีดำรู้สึกประหลาดใจมาก
สาวงามที่มีผมสีม่วงผู้นี้กลับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข่ายอาคมเธออาจถูกเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุกๆห้าร้อยปี
ลูกหมาสีดำต้องยอมรับพลังของสาวงามผู้นี้แม้ว่าเธอจะเป็นศัตรูก็ตาม
ใบหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปทันทีที่เขาได้ยินลูกหมาสีดำกล่าวถึง“ข่ายอาคมระดับราชา”
เขาเรียนรู้เกี่ยวกับข่ายอาคมมาก่อนและเข้าใจในพลังของข่ายอาคมระดับราชาเป็นอย่างดีมันสามารถดักจับได้แม้กระทั่งผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตวิญญาณราชัน ดังนั้นเขาจึงหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน
ฉิงเฟิงและคนอื่นๆไม่สามารถขยับได้แม้แต่เพียงนิ้วเดียวภายใต้ข่ายอาคมของเธอจากนั้นสาวงามผมม่วงก็กระโดดลงไปที่เรือ
“ไหนว่าเก่งนักหนา ตอนนี้เจ้าถูกข้าจับแล้ว !” สาวงามผมม่วงกล่าวกับฉิงเฟิงด้วยสีหน้าที่ดูภาคภูมิใจ
ฉิงเฟิงยิ้มและไม่สนใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าเขาจะติดข่ายอาคมแต่เขาก็ไม่หวาดหวั่นแม้ว่าสาวงามผมม่วงจะแสดงออกถึงความเย่อหยิ่งและต้องการอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาของเขา แต่ตัวเธอนั้นไม่มีจิตสังหารแม้แต่น้อย เธอไม่ได้คิดจะฆ่าพวกเขา
สาวงามผมม่วงเห็นฉิงเฟิงยังคงนิ่งเฉยไม่ตอบคำเธอยิ้มเย้ยหยันและกล่าวว่า “ข้าหยุดการเคลื่อนไหวพวกเจ้าไว้แล้วทำไมยังดูนิ่งเฉยกันนัก คอยดูข้าชิงของของเจ้าเถอะ”
สาวงามผมม่วงเดินมาถึงข้างๆฉิงเฟิงเธอเหยียดฝ่ามือสีขาวที่นุ่มนวลออกมาและเริ่มค้นไปทั่วร่างกายของฉิงเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า “เฮ้ๆแม่นาง! มันไม่เหมาะมั้งที่จะมาแตะเนื้อต้องตัวคนแปลกหน้าแถมยังเป็นเพศตรงข้ามอีก หรือว่าเธอตกหลุมรักฉันงั้นหรือ ” ฉิงเฟิงกล่าวสัปยอกอย่างสนุกสนาน
“อะ..ไอ้บ้า ! ระดับพลังของเจ้าอ่อนแอกว่าข้า ทำไมข้าต้องตกหลุมรักเจ้าด้วย เหอะ ผู้ที่สมควรจะได้ความรักจากข้าต้องเป็นสุดยอดฝีมือที่สามารถแยกสวรรค์ผ่าปฐพีได้เท่านั้นย่ะ”
สาวงามผมม่วงบุ้ยปากและมองฉิงเฟิงด้วยความรังเกียจ