My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1083 จับกุมหลี่ฉิงเฟิง
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1083 จับกุมหลี่ฉิงเฟิง
ตอนที่ 1083 จับกุมหลี่ฉิงเฟิง
“หา
ฉันเนี่ยนะอ่อนแอ”
ฉิงเฟิงพูดไม่ออกหลังจากได้ยินสิ่งที่สาวงามผมม่วงกล่าว
เขาเป็นอัจฉริยะและสามารถเข้าถึงขอบเขตครึ่งก้าวจิตวิญญาณแห่งราชันได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีแต่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ความสำเร็จของเขาไม่มีค่าอะไรเลยหรือ
เธอไม่สนใจฉิงเฟิงและยังคงค้นร่างกายของเขาต่อไปแต่เธอก็ยังไม่สามารถหาอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาของฉิงเฟิงได้พบ
“มันแปลกมากข้ารู้สึกได้ถึงการดำรงอยู่ของมันภายในร่างเจ้า แต่ทำไมถึงหาไม่เจอ ” สาวงามผมม่วงกล่าวอย่างงงงวย
“ในเมื่อข้าหาของในตัวเจ้าไม่พบงั้นข้าจะพาเจ้ากลับไปยังวังมังกรแล้วค่อยๆหาอีกที” เธอกล่าวพร้อมกับใช้เชือกมัดร่างเขาเอาไว้
เชือกเส้นนี้ไม่ใช่แค่เชือกทั่วไปแต่มันเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาที่ชื่อว่าเชือกม่วงวิญญาณราชา
ฉิงเฟิงได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามของอุปกรณ์ชิ้นนี้ในขณะที่เขาถูกมัดอย่างแน่นหนาจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
“อะไรวะนี่…ฉันกำลังจะกลับไปจัดงานแต่งงานกับหลินเสวี่ยแท้ๆแต่จู่ๆก็ถูกผู้หญิงจับตัว ซวยอะไรขนาดนี้วะเนี่ย… ” ฉิงเฟิงถอนหายใจและไม่รู้จะสาธยายความรู้สึกตอนนี้อย่างไร
เดิมทีฉิงเฟิงคิดว่าเขาจะปลอดภัยไร้กังวลหลังจากออกจากเกาะแปซิฟิกแต่เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้ประจันหน้ากับคนของวังมังกรในตำนาน
สาวงามผมสีม่วงมัดร่างฉิงเฟิงไว้แล้วกระโดดลงไปในมหาสมุทร เมื่อเธอหายไปข่ายอาคมระดับราชาและเสาวารีทั้งเก้าก็หายไปทำให้ทุกคนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระอีกครั้ง
“เจ้าหมาน้อย,พี่ใหญ่หลี่ถูกสาวน้อยคนนั้นจับตัวไป พวกเราควรทำอย่างไรดี ”
ฮวาเซียนจือถามอย่างกังวลใจ
หลังจากได้ยินสิ่งที่ฮวาเซียนจือกล่าวลูกหมาสีดำก็ส่ายหัวแล้วตอบว่า“แม่สาวสวยผมม่วงคนนั้นทรงพลังมาก หากข้าคาดไม่ผิดนางน่าจะมีพลังในขอบเขตจิตวิญญาณราชันซึ่งเหนือกว่าพวกเรา โชคดีที่นางไม่ได้มีเจตนาจะสังหารใคร ไม่งั้นพวกเราตายกันเรียบแล้ว”
ฮวาเซียนจือยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นหลังจากได้ยินสิ่งที่ลูกหมาสีดำพูด
แม้ว่าเธอจะมีพลังของบงกชโบราณแต่เธอก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นของขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์และอ่อนแอกว่าอีกฝ่ายที่มีพลังในระดับจิตวิญญาณราชัน อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจที่จะกระโดดลงไปในมหาสมุทรเพื่อพยายามช่วยฉิงเฟิง ฮวาเซียนจือเดินไปที่ขอบเรือและกำลังจะโดดลงไปแต่เธอกลับถูกขวางโดยลูกหมาสีดำ
“เจ้าหมาน้อยขวางข้าทำไมข้าจะไปช่วยพี่ใหญ่หลี่” ฮวาเซียนจือขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวอย่างเย็นชา
เธอไม่ค่อยพอใจกับอาการของมันนักมันได้รับผลประโยชน์มากมายจากการติดตามฉิงเฟิง แต่ตอนนี้มันกลับไม่ต้องการให้เธอไปช่วยยามที่เขาตกอยู่ในอันตราย
เห็นได้ชัดว่าลูกหมาสีดำมองออกว่าฮวาเซียนจือคิดอย่างไรดังนั้นมันจึงอธิบายว่า “แน่นอนว่าข้าก็ต้องการช่วยมัน แต่ข้าทำไม่ได้”
“เจ้าทำไม่ได้ เจ้าหมายความว่าอะไร ?” ฮวาเซียนจือกล่าวด้วยความงุนงง
ลูกหมาสีดำพูดว่า“เจ้าอย่าต๊องนักได้ไหม แม่สาวน้อยจากวังมังกรทะเลตะวันออกอาศัยอยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรนับหมื่นเมตร หากพวกเรากระโดลงไปช่วยฉิงเฟิง พวกเราจะตายจากแรงดันน้ำทะเลที่มหาศาลก่อนจะพบมันด้วยซ้ำ”
การแสดงออกของฮวาเซียนจือเปลี่ยนไปเห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจเรื่องแรงดันน้ำใต้ทะเล แม้ว่าเธอจะเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลัง แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะดำน้ำได้ลึกถึงหมื่นเมตร
ไม่ใช่เพียงแค่ฮวาเซียนจือเท่านั้นที่ทำไม่ได้แม้แต่คนอื่นๆก็ทำไม่ได้เช่นกันเพราะพวกเขาที่เหลือต่างก็อ่อนแอกว่าเธอ
“ไอ้งูน้อยเจ้าเคยเป็นถึงราชาแห่งท้องทะเลมาก่อน เจ้าโดดลงไปช่วยฉิงเฟิงซิ”
ลูกหมาสีดำหันศีรษะของมันไปกล่าวกับงูกลืนฟ้า
งูกลืนฟ้าส่ายหัวแล้วพูดว่า“ถ้าเป็นสมัยก่อนเรื่องแค่นี้ชิลมากๆ แต่ตอนนี้พลังข้าไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะดำน้ำลึกขนาดนั้น”
ลูกหมาสีดำผงกหัวและรู้ว่ามันไม่ได้พูดโกหกมันรู้แก่ใจอยู่แล้วว่างูกลืนฟ้าไม่อาจดำลงไปลึกได้ แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะงูเป็นสัตว์ที่คุ้นเคยกับทะเลมากที่สุด
ภายใต้การคุกคามและการล่อลวงของลูกหมาสีดำงูกลืนฟ้ากระโดดลงสู่ก้นทะเลอย่างไม่เต็มใจเพราะมันเป็นเพียงคนเดียวที่อย่างน้อยก็ยังสามารถหาเบาะแสะของวังมังกรได้
“เจ้าหมาน้อยแล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงต่อไปดี” ฮวาเซียนจือถามด้วยความกังวล
มันส่ายหัวแล้วพูดว่า“มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เจ้าและพวกเราที่เหลือจะทำได้ นั่นคือการ รอ”
ฮวาเซียนจือถอนหายใจอย่างหมดหนทางเธอทำได้เพียงยืนบนดาดฟ้าเรือและรอคอยฉิงเฟิงปรากฏตัวอีกครั้งในขณะที่เธอจ้องมองไปในทะเลที่ไร้ที่สิ้นสุด
“พี่ใหญ่หลี่….หวังว่าท่านจะปลอดภัย” ฮวาเซียนจือกล่าวกับตัวเองเบาๆ ……………
ปัจจุบันนี้ฉิงเฟิงถูกจับโดยสาวงามผมม่วงและพวกเขากำลังดำดิ่งสู่ก้นทะเลลึก
มีสัตว์อสูรมากมายใต้ทะเลซึ่งมีมากกว่าบนบก พวกมันเปี่ยมไปด้วยสีสันและทรงพลังอย่างมาก
ฉิงเฟิงได้เห็นสัตว์ร้ายมากมายไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับปลางู ปลาหมึก ปลาฉลามและบางชนิดก็มีลักษณะคล้ายกับสาหร่ายและปะการัง
เมื่อพวกเขาทั้งสองดำลึกลงไปเรื่อยๆแรงดันน้ำก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวตอนแรกฉิงเฟิงยังสามารถทนไหวแต่เมื่อลึกลงไปประมาณสามพันเมตรใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดจางลง ร่างกายของเขาเริ่มสั่นที่ระดับความลึกห้าพันเมตร
เมื่อพวกเขาอยู่ใต้ทะเลลึกในระดับแปดพันเมตรเลือดก็เริ่มไหลออกมาจากปากฉิงเฟิงเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก “อั่ก….”
ฉิงเฟิงทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและกล่าวว่า“ฉันไม่สามารถลงไปลึกกว่านี้ได้แล้ว ไม่งั้นแรงดันน้ำจะกดร่างฉันจนตาย”
ผู้ฝึกตนโดยทั่วไปสามารถดำน้ำลึกได้เพียงหนึ่งถึงสองพันเมตรเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะกระอักเลือดส่วนยอดฝีมือระดับจิตวิญญาณราชันจะสามารถดำน้ำได้ลึกประมาณหกพันเมตร แต่ฉิงเฟิงกลับทนได้ที่ระดับความลึกแปดพันเมตร มากกว่าผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวจิตราชันจะทนได้ถึงสองพันเมตร ! ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาได้บ่มเพาะเคล็ดวิชากายาแดนชำระซึ่งทำให้ร่างกายของเขาทนทานดั่งอุกกาบาต
“เจ้านี่มันอ่อนแอเสียจริง”สาวงามผมม่วงกล่าวกับฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงพูดไม่ออกเถียงไม่ขึ้นเธอเป็นคนของวังมังกรซึ่งอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกโดยตลอด ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวแรงดันน้ำ แต่ฉิงเฟิงเป็นมนุษย์บนบก เขาไม่สามารถทนได้เท่ากับเธอ เด็กสาวผมม่วงหยิบเปลือกหอยสีม่วงออกมาและสร้างเป็นเกราะป้องกันขึ้นมันห่อหุ้มร่างของฉิงเฟิงและตัวเธอเอง จากนั้นแรงดันน้ำมหาศาลก็หายไปทันที
เมื่อปราศจากแรงดันน้ำสาวงามผมม่วงก็เร่งความเร็วขึ้นและพวกเขาก็มาถึงที่ระดับความลึกหนึ่งหมื่นเมตร
มีร่องลึกขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้าพวกเขาและกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ซ่านออกมาจากความมืด
กล่าวให้เจาะจงนี่เป็นคูน้ำที่อยู่ด้านล่างของพื้นทะเล มันกว้างหนึ่งร้อยเมตร แต่ลึกจนมองไม่เห็นก้น สีหน้าของสาวงามผมม่วงเริ่มกลายเป็นจริงจัง
“สถานที่แห่งนี้เรียกว่าอเวจีใต้ทะเลลึกมันเชื่อมต่อกับมิติที่ไม่รู้จักที่มีสัตว์อสูรอาศัยอยู่ภายในนั้น วังมังกรของข้าอยู่อีกฝากหนึ่งของก้นเหวนี่”
สาวงามผมม่วงเกาจมูกน้อยๆของเธอและกล่าวกับฉิงเฟิง