My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1084 วังมังกรทะเลตะวันออก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1084 วังมังกรทะเลตะวันออก
ตอนที่ 1084 วังมังกรทะเลตะวันออก
อเวจีใต้ทะเลลึก
ตามคำพูดของสาวงามผมสีม่วงการแสดงออกของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไป เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะยังคงมีเหวลึกล้ำในมหาสมุทรทั้งที่พวกเขาดำลงมาลึกขนาดนี้แล้ว
อะไรอยู่ที่อีกด้านของฟากฝั่งนั้น มันเชื่อมต่อกับส่วนลึกของแก่นโลกหรือว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่รู้จักงั้นหรือ ? กล่าวรวบรัด มันทำให้ผู้คนรู้สึกน่าขนลุก
สาวงามผมม่วงพาฉิงเฟิงไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังแม้แต่เธอเองที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความทนงตนก็ยังต้องระวังที่นี่ด้วย
พวกเขาเดินไปได้เพียงประมาณสิบเมตรก็มีงูสีดำพุ่งออกมาจากส่วนลึกของเหวใต้สมุทร
มันดูแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตบนโลกมากมันเปิดปากใหญ่แล้วกัดไปที่ฉิงเฟิงและสาวงามผมม่วง
สาวงามผมม่วงยังคงมีท่าทีสงบอย่างเห็นได้ชัดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้เธอกระแทกฝ่ามือขวาออกไปอย่างกระทันหันซึ่งกลายเป็นพลังงานสายฟ้าสีม่วงที่ฆ่างูดำปีศาจได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในขณะที่ยืนอยู่ข้างๆเธอใบหน้าของฉิงเฟิงก็ดูเคร่งขรึมเพราะเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพลังในขอบเขตจิตวิญญาณราชันทันทีที่เธอลงมือ
เห็นได้ชัดว่าสาวงามผู้นี้เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งระดับจิตวิญญาณราชันและมีเคล็ดบ่มเพาะชั้นสูง
จากนั้นเธอนำฉิงเฟิงเดินต่อไปข้างหน้าและในเวลาสั้นๆพวกเขาก็พบกับสัตว์อสูรร้ายอีกตัวมันไม่ใช่ทั้งสัตว์อสูรบนบกหรือสัตว์อสูรในมหาสมุทร แต่มันเป็นสัตว์อสูรอเวจี มันเต็มเปี่ยมไปด้วยรัศมีอันเยือกเย็น มันมีทั้งพลังและความน่าสะพรึงกลัว ซึ่งสัตว์อสูรที่พวกเขาพบก็คือจระเข้อเวจีที่เปล่งออร่าสีดำทะมึนออกมามันเปิดปากขนาดใหญ่และกัดเข้าหาฉิงเฟิงกับสาวงามผมม่วง มันแตกต่างจากจระเข้ทั่วไปด้วยฟันที่ดำทมิฬและลิ้นสีดำ
สาวงามผมม่วงยกฝ่ามือของเธอขึ้นและฆ่ามันโดยไม่ลังเลโลหิตสีดำพุ่งออกมาจากลำตัวที่แตกหักของจระเข้อเวจี มันแตกต่างจากโลหิตแดงของสิ่งมีชีวิตบนบก
……
ถึงแม้ว่าอเวจีใต้สมุทรจะมีความยาวเพียงหนึ่งร้อยเมตรแต่พวกเขาต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าหนึ่งชั่วโมง
ในขณะที่พวกเขาอยู่ในหุบเหวพวกเขาก็พบกับสัตว์อสูรร้ายมากมายแต่พวกมันทั้งหมดถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของสาวงามผมม่วง
หลายครั้งที่เธอตกอยู่ในอันตรายเธอจะหยิบอุปกรณ์วิญญาณระดับราชาออกมาเพื่อช่วยในการฆ่าสัตว์อสูรที่ทรงพลังสิ่งหนึ่งที่ฉิงเฟิงรับรู้ได้อย่างแน่นอนก็คือแม่สาวผู้นี้มีสมบัติมากมายติดตัว
เมื่อออกจากหุบเหวใต้ท้องทะเลมาได้แล้วสาวงามผมม่วงก็นำฉิงเฟิงไปยังทุ่งหญ้าแห่งหนึ่งมันคือทุ่งหญ้าที่เติบโตใต้ก้นมหาสมุทรนั่นเอง
แน่นอนว่าหญ้าบนนั้นไม่ได้เป็นหญ้าแบบเดียวกันกับบนพื้นดินแต่มันเป็นวัชพืชทะเลชนิดหนึ่งที่มีสีเขียวเข้มและสามารถเติบโตได้ในระดับความลึกของมหาสมุทรเท่านั้น
สัตว์ทะเลหลายตัวใช้ชีวิตโดยอาศัยวัชพืชในทะเลเช่น เต่าทะเล กุ้งก้ามกรามและกระต่าย…
เมื่อฉิงเฟิงได้เห็นกระต่ายเขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากกระต่ายมาอยู่ที่ที่ก้นมหาสมุทรได้อย่างไร
“เจ้ามองอะไร ไม่เคยเห็นกระต่ายทะเลหรือไง ?” กระต่ายสีเขียวพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจจากการจ้องมองของฉิงเฟิง พระเจ้าช่วย…กระต่ายไม่เพียงแค่อาศัยในทะเลลึกได้เท่านั้นแต่มันยังสามารถพูดได้เช่นกัน ! ฉิงเฟิงรู้สึกงงงวยอย่างสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความตกใจ
“ฉันขออนุญาตถามนะ…แกเป็นกระต่ายจริงๆเหรอ” ฉิงเฟิงกลั่นคำพูดอันยากลำบากออกมาจากปากของเขา
“ฮึข้าไม่ใช่กระต่ายบนบก ข้าคือกระต่ายมหาสมุทร เจ้าจะเรียกข้าว่าคุณหนูกระต่ายก็ได้นะ” กระต่ายสีเขียวเชิดหน้าขึ้นและกล่าวอย่างภูมิใจ
ได้ยินเช่นนั้นฉิงเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจมากจนเขารู้สึกว่ามุมมองที่มีต่อโลกของเขาถูกทำลายโดยสิ้นเชิงเขาสามารถทำความเข้าใจได้ว่ามีปลาและงูในมหาสมุทร แต่เขาไม่อาจยอมรับความจริงได้ว่ามีกระต่ายอาศัยอยู่ในมหาสมุทร !
สาวงามผมม่วงถลึงตาใส่กระต่ายสมุทรเพื่อแจ้งเตือนให้มันหุบปาก
กระต่ายสมุทรก้มตัวลงภายใต้การถลึงตาใส่ของสาวงามผมม่วงและไม่กล้าพูดอะไรอีกเห็นได้ชัดว่าเธอค่อนข้างมีอิทธิพลบางอย่างที่นี่
จากนั้นเธอก็นำฉิงเฟิงเดินทางต่อไป
ระหว่างทางฉิงเฟิงได้เห็นสัตว์ประหลาดอีกหลายชนิดซึ่งบางชนิดดูเหมือนสัตว์อสูรบนบกยกเว้นความแตกต่างกันในเรื่องของผิวและขน
พวกมันทั้งหมดอาศัยอยู่ในมหาสมุทรและบางตัวก็เป็นสัตว์อสูรร้ายที่ไม่สามารถพบได้บนบก
จากคำพูดของสาวงามผมม่วงเนื่องจากพื้นที่มหาสมุทรคิดเป็นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมดบนโลก มีสิ่งต่างๆมากมายในมหาสมุทรที่ไม่สามารถพบได้บนบก
แต่แน่นอนว่าสมัยโบราณกาลยุคก่อกำเนิดบนโลกมีพื้นดินปกคลุมมากยิ่งกว่ามหาสมุทร
มหาสมุทรบางส่วนเหือดแห้งไปในสมัยโบราณจนกระทั่งมีผู้บุกรุกจากดาวเคราะห์ดวงอื่นมาบุกโลกมันเกิดการสู้รบครั้งใหญ่และทำให้ทะเลเล็กๆเชื่อมต่อกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่จนกลายเป็นสภาพดั่งในปัจจุบัน
…….
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาสาวงามผมม่วงก็พาฉิงเฟิงมาถึงจุดหมายมันเป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่อย่างน้อยหลายพันตารางเมตร มันถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐทองคำพร้อมเสาทองคำอันบริสุทธิ์
พื้นปูด้วยหยกสีขาวคุณภาพสูงและผนังถูกประดับไว้ด้วยคริสตัลและไข่มุกที่ส่องแสงสว่างไสวไปทั่วทั้งวัง
ม่านป้องกันแสงขนาดมหึมาครอบคลุมโครงสร้างทั้งหมดเอาไว้ทำให้น้ำในมหาสมุทรอยู่ด้านนอกและไม่อาจเล็ดลอดเข้ามาภายในวังได้
เมื่อมาถึงสาวงามผมม่วงมีท่าทางที่ดูลับ ๆ ล่อๆ ดวงตาที่มีเสน่ห์ของเธอมองไปมองมารอบๆราวกับกลัวที่จะถูกพบ ที่ด้านหน้าของพระราชวังมีประตูทองคำขวางไว้อยู่และบนประตูเขียนตัวอักษรใหญ่สี่ตัวว่า– วังมังกรทะเลตะวันออก มียามสองคนยืนเฝ้าที่ประตูด้วยหอกปลาในมือ
เพื่อหลีกเลี่ยงยามทั้งสองคนสาวงามผมม่วงไม่ได้ตรงเข้าประตูหน้าแต่เธอนำฉิงเฟิงเข้าประตูด้านข้างซึ่งซ่อนอยู่หลังปะการัง
ในที่สุดเธอก็นำฉิงเฟิงเข้ามาในวังได้อย่างราบรื่นโดยไม่มีใครสังเกตสถานที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้นั้นเป็นวังเล็กๆที่มีห้องเก้าห้องด้วยกัน (น่าจะเป็นห้องโถงใหญ่ๆอะครับ)
เมื่อสาวงามผมม่วงกลับคืนสู่วังของเธอก็มีหญิงสาวคนหนึ่งคุกเข่าลงและกล่าวด้วยความเคารพว่า“คารวะองค์หญิงสามเพคะ”
สาวงามผมม่วงพยักหน้าเล็กน้อยและชี้ไปที่ฉิงเฟิงพร้อมทั้งกล่าวว่า“คนผู้นี้เป็นเชลยของข้า ! เจ้าอย่าบอกใครเกี่ยวกับเขา”
สาวใช้ส่ายหัวแล้วพูดว่า“ตะ.. แต่ว่า องค์หญิงสามเพคะ ฝ่าบาทราชามังกรสั่งห้ามมิให้องค์หญิงพาบุรุษเพศเข้ามาที่นี่” การแสดงออกของสาวงามผมม่วงเปลี่ยนไปเธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ เสด็จพ่ออยู่ในระหว่างการเก็บตัวและไม่มีเวลามายุ่งเรื่องของข้าหรอกน่า ยังไงก็เถอะเจ้าห้ามบอกใครแม้แต่คนเดียวว่าข้าจับมนุษย์ผู้ชายมา มิฉะนั้นข้าจะขับไล่เจ้าออกไปซะ !”
สาวใช้พยักหน้าอย่างรีบเร่งและตอบว่า“เพคะองค์หญิงสาม บ่าวจะไม่บอกใครทั้งสิ้น”
สาวงามผมม่วงพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพาฉิงเฟิงเข้าสู่ส่วนลึกของพระราชวัง