My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1090 หลินเสวี่ยหลงกล
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1090 หลินเสวี่ยหลงกล
ตอนที่ 1090 หลินเสวี่ยหลงกล
“ว้าย,ฉิงเฟิง หมาน้อยตัวนี้กำลังร้องจากความหิวโหย คุณไปเตะมันทำไมอีก ”
หลินเสวี่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจบนใบหน้าของเธอ
เธอชอบสัตว์ตัวเล็กๆมากเธอเคยเลี้ยงแมวและสุนัข เธอรู้สึกแย่เมื่อเห็นลูกหมาสีดำที่ดูน่าสงสารตัวนี้
“ที่รักคุณอย่าคิดว่าเจ้าหมาดำตัวนี้มันน่าสงสารนะ มันเสแสร้ง อย่าหลงกลมัน !”
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและกล่าวกับหลินเสวี่ย
แต่หลังจากฉิงเฟิงพูดจบหยดน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของลูกหมาสีดำอีกครั้ง…
มันแสร้งทำเป็นว่าอ่อนแอและล้มลงกับพื้นมันมองไปที่หลินเสวี่ยด้วยแววตาที่ ‘สิ้นหวัง’ ราวกับมันกำลังจะบอกว่า ‘ดูสิ ข้ากำลังจะตายจากความหิวโหย ข้าเป็นสุนัขที่น่าสงสาร” ฉิงเฟิงรู้สึกเคืองมากที่เห็นเจ้าลูกหมาตัวนี้เล่นละครมันกล้าที่จะหลอกลวงภรรยาของเขาต่อหน้าเขา ! การเล่นละครของมันสมจริงมากพอที่จะได้รับรางวัลออสการ์เลยทีเดียว …
หลินเสวี่ยถูกเจ้าหมาตัวนี้หลอกอย่างสมบูรณ์เธอไปที่ห้องครัวและทำก๋วยเตี๋ยวไข่มะเขือเทศให้ลูกหมาสีดำอีกชามหนึ่ง
เจ้าลูกหมาสีดำตัวน้อยนี้เป็นสัตว์อสูรวิญญาณตั้งแต่สมัยบรรพกาลมันเคยกินแต่วัสดุระดับสวรรค์,สมบัติของโลกและผลไม้วิญญาณ มันไม่เคยกินอาหารฝีมือมนุษย์มาก่อนเลย
ก๋วยเตี๋ยวไข่มะเขือเทศเป็นอาหารฝีมือมนุษย์จานแรกที่ลูกหมาสีดำเคยกินมันตื่นเต้นสุดๆยามที่ได้กัดกินครั้งแรก มันเป็นอาหารที่อร่อยมาก !
เจ้าหมาไม่เคยกินอาหารที่อร่อยเช่นนี้มาก่อนมะเขือเทศมีรสเปรี้ยวและหวาน ไข่มีกลิ่นหอมและบะหมี่ก็นุ่มนิ่ม มันให้รสชาติที่ดีกว่าผลไม้วิญญาณเหล่านั้น ลูกหมาสีดำกินเร็วมากจนก๋วยเตี๋ยวหมดในเวลาไม่นานมันกระดิกหางของมันและดูมีความสุขมาก
“
หลี่ฉิงเฟิง
ก๋วยเตี๋ยวไข่มะเขือเทศของเมียเจ้าอร่อยมากข้าตัดสินใจแล้ว นับจากนี้ไปข้าจะอยู่กินที่บ้านเจ้า
ฮ่าๆๆ”
ลูกหมาสีดำส่งสัญญาณเสียงกับฉิงเฟิง
เมื่อได้ยินสัญญาณเสียงของมันฉิงเฟิงก็ขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยพอใจ เจ้าลูกหมาบัดซบตัวนี้ตัวติดเขาเป็นตังเมแถมยังคิดจะกินอยู่บ้านเขาเป็นกาฝากอีก ยังงี้มันต้องสั่งสอน !
ฉิงเฟิงเดินดุ่ยๆไปตรงหน้าของลูกหมาสีดำและเตะมันกระเด็นไปไกลหลายเมตร
“ที่รัก! ทำไมคุณถึงทำร้ายมันตลอดเลยล่ะ ลูกหมาตัวเล็กนิดเดียวเอง มันน่าสงสารจะตาย บางทีมันอาจจะไม่มีพ่อแม่ก็ได้ ชั้นอยากจะรับเลี้ยงมัน”
หลินเสวี่ยจ้องมองไปฉิงเฟิงจากนั้นเธอก็เดินไปที่ลูกหมาสีดำและอุ้มมันขึ้นมา
เธอเดินไปที่ตู้กดน้ำและเทน้ำให้ลูกหมาสีดำถ้วยหนึ่ง
ฉิงเฟิงโกรธมากเพราะเจ้าลูกหมาตัวนี้กล้าหลอกหลินเสวี่ยจนทำให้เธอตกหลุมพรางของมันเธอลงทุนทำก๋วยเตี๋ยวไข่มะเขือเทศให้มัน และตอนนี้เธอยังเทน้ำให้มันกินอีกด้วย
ลูกหมาสีดำแลบลิ้นออกมามันเลียน้ำในชามและเหลือบตามองไปที่ฉิงเฟิงในเวลาเดียวกัน การแสดงออกของมันดูกวนตีนมาก
ฉิงเฟิงเดินไปหามันและเตรียมจะเตะมันอีกครั้งแต่หลินเสวี่ยก็ยื่นมือห้ามเขาไว้
“ที่รักมันก็แค่ลูกหมาตัวเล็กๆ ปล่อยมันเถอะ” หลินเสวี่ยกล่าวกับฉิงเฟิงด้วยสายตาอ้อนวอน เมื่อฉิงเฟิงเห็นหลินเสวี่ยกล่าวขอร้องเขาก็พูดไม่ออก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้
“
เฮ้ไอ้หมา ฉันจะบอกแกไว้อย่างนะ ภรรยาของฉันปกป้องแกเพราะเธอจิตใจดี แต่เธอเป็นแค่
มนุษย์ธรรมดาไม่ใช่ผู้บ่มเพาะพลัง(เหรอ..)ถ้าแกกล้าทำให้เธอกลัวฉันจะไม่ไว้ชีวิตแกแน่”
ฉิงเฟิงส่งเสียงเตือนทางกระแสจิตไปยังลูกหมาสีดำ
“
เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นแม้เจ้าจะเป็นคนบัดซบแต่เมียเจ้าก็เป็นคนดีและดีต่อข้า ข้าไม่ทำอะไรเธอแน่นอน
”
ลูกหมาสีดำส่งกระแสจิตตอบฉิงเฟิง
ถึงแม้ว่ามันจะมีนิสัยจองหองกวนตีนแต่มันก็เฉลียวฉลาดและรู้อะไรควรไม่ควรมันพูดได้เต็มปากว่าหลินเสวี่ยเป็นคนดี และมันก็มีความสุขมาก
นอกจากนี้หลินเสวี่ยก็ยังมีพลังสายเลือดฟินิกซ์เหมันต์และลูกหมาสีดำก็ติดใจสายเลือดประเภทนี้
…………
ตกเย็นหลินเสวี่ยก็จัดแจงที่นอนและผ้าห่มให้ลูกหมาสีดำด้วย
ฉิงเฟิงพูดไม่ออกเมื่อเขาเห็นวิธีที่ลูกหมาสีดำได้รับการปฏิบัติเขาพูดว่า “คุณก็ดีกับมันเกินไป แม้แต่ผมคุณยังไม่เคยจัดแจงอะไรให้ขนาดนี้มาก่อนเลย”
หลินเสวี่ยหน้าแดงและพูดว่า“ฉันจะให้คุณเข้าไปในห้องของฉันคืนนี้ … “
ฉิงเฟิงรู้สึกพอใจทันทีที่เขาได้ยินเรื่องนี้เขาเข้าไปในห้องนอนของหลินเสวี่ยตอนกลางคืน
ในห้องนอน ฉิงเฟิงระดมจูบหลินเสวี่ยในขณะที่มือของเขาสาละวนกับการลูบไล้เรืองร่างอันเซ็กซี่ของเธอตั้งแต่บนลงล่าง จากซ้ายไปขวา เขายังคงเคลื่อนไหวไปรอบๆหน้าอกคู่งามของเธอซึ่งจุดนั้นได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากเขา
“
เฮอะเจ้าบอกว่าข้าหน้าไม่อาย แต่ข้าว่าเจ้ามากกว่าที่หน้าไม่อาย เจ้ากล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้ต่อลูกพี่หมาได้อย่างไร
“
แน่นอนว่าลูกหมาสีดำเรียกตัวเองว่าลูกพี่หมาในใจของมันเท่านั้นมันไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าฉิงเฟิงเพราะถ้าอีกฝ่ายได้ยิน มันคงโดนทุบตีอีกรอบ
…………
ดวงอาทิตย์ขึ้นในวันถัดมาและท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีส้ม
ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยตื่นแต่เช้าเพราะพวกเขาต้องหารือเรื่องการเตรียมงานแต่งงาน
แน่นอนว่าก่อนจะคุยกันเรื่องการแต่งงานพวกเขาต้องเข้าบริษัทและพบปะผู้คนในบริษัทIce Snow เสียก่อน
เมื่อพูดถึงบริษัทIce Snow ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างซับซ้อน เขาไม่เข้าบริษัทมานานมากแล้ว เขาคิดทุกคนไม่ว่าจะเป็น จางเสี่ยวเยวี่ย, เซี่ยอวานชิว, ลั่วเฮา
หลินเสวี่ยขับรถโดยมีฉิงเฟิงนั่งข้างๆพวกเขามุ่งหน้าไปยังบริษัท Ice Snow
เมื่อมาถึงเขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทุกคนในบริษัทต่างก็เดินมาอวยพรให้ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ย
“พี่ใหญ่หลี่ในที่สุดพี่ก็มาทำงาน !!” ลั่วเฮาผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยวิ่งมาหาฉิงเฟิงและกล่าวอย่างตื่นเต้น
ลั่วเฮาคือชายร่างอ้วนที่ฉิงเฟิงรู้จักเป็นคนแรกตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้พวกเขาสนิทสนมกันมากและเป็นดั่งพี่น้อง ฉิงเฟิงช่วยให้เขาได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย
ฉิงเฟิงยิ้มและพูดว่า“ช่วงนี้ฉันยุ่งๆน่ะเลยไม่ได้เข้าบริษัทเลย ว่าแต่ นายอ้วนขึ้นอีกแล้วนะนี่”
หลังจากได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงลั่วเฮาก็ยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความเขินอาย
นับตั้งแต่ที่เขาได้แต่งงานภรรยาของเขาดูแลเป็นอย่างดีและทำอาหารอร่อยๆให้ทานเสมอ ลั่วเฮาก็คิดอยากจะลดน้ำหนัก แต่เขาทำไม่ได้เพราะไม่มีเวลา
ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบริษัทใหญ่ๆเช่นบริษัทIce Snow เขามีกิจกรรมทางสังคมมากมายทุกวัน สมมติว่าวันนี้ไม่มีคนพาไปเลี้ยง พรุ่งนี้ก็ต้องมี เขาง่วนอยู่กับงานสังคมจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย
“โอ้ใช่สิพี่ใหญ่หลี่ ภรรยาของผมเพิ่งคลอดเจ้าหญิงน้อยออกมาคนหนึ่ง พี่ว่างไปงานวันเกิดครบรอบหนึ่งเดือนของลูกสาวผมมั้ยอะ ” ลั่วเฮามองไปที่ฉิงเฟิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
เขาหวังว่าฉิงเฟิงจะเข้าร่วมงานฉลองวันเกิดของลูกสาวแต่เขาก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเขามักจะธุระรัดตัวอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าตั้งความหวังมากเกินไปในเรื่องนี้
“แน่นอนว่าฉันต้องไปพรุ่งนี้เจอกันที่งาน” ฉิงเฟิงแตะไหล่ของลั่วเฮาและตอบรับคำเชิญ
เขาอยู่คุยกับลั่วเฮาอีกสักพักหนึ่งก่อนที่จะเดินไปที่ฝ่ายขายบนชั้นสาม
ฝ่ายขายเป็นที่ที่ฉิงเฟิงเคยทำงานมาก่อนมันเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายตั้งแต่ที่เขาเข้ามาอยู่ในเมืองนี้
เมื่อฉิงเฟิงเดินเข้ามาทุกคนก็ลุกขึ้นยืนและทักทายเขาอย่างอบอุ่น