My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1092 ดวงอาทิตย์ตอนกลางดึก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1092 ดวงอาทิตย์ตอนกลางดึก
ตอนที่ 1092 ดวงอาทิตย์ตอนกลางดึก
ฉิงเฟิงกับพ่อตาของเขา,หลินซื่อดื่มกันอยู่สักพักและชนแก้วกันก่อนที่จะเริ่มเล่นเกมทายนิ้ว
แน่นอนเทคนิคของหลินซื่อย่อมไม่อาจเทียบเท่าฉิงเฟิงได้อย่างแน่นอนพวกเขาเล่นด้วยกันไปสิบเกมแล้วซึ่งผลออกมาหลินซื่อแพ้ยับ เขาไม่ใช่คู่มือฉิงเฟิง
เมื่อเห็นว่าหลินซื่อดื่มมากเกินไปแล้วมู่เสี่ยวหยุนจึงส่งสายไปให้ฉิงเฟิงเห็นได้ชัดว่ามันหมายความว่าให้ฉิงเฟิงแกล้งยอมแพ้หลินซื่อและไม่ควรให้เขาดื่มมากเกินไปซึ่งฉิงเฟิงก็เข้าใจดี
เนื่องจากฉิงเฟิงก็ไม่ต้องการให้พ่อตาของเขาดื่มมากเกินไปและในฐานะที่เป็นลูกเขยที่ดีเขาคิดที่จะแกล้งยอมแพ้พ่อตาของเขา
ในเกมค้อนกรรไกร กระดาษ ฉิงเฟิงแกล้งแพ้ติดต่อกัน 20 ครั้งและต้องดื่ม 20แก้ว สำหรับผู้ฝึกตนอย่างเขานั้นการดื่มเหล้า 20 แก้วก็ไม่ได้มีผลอะไรแม้แต่น้อย
“พ่อตาครับทักษะการเล่นค้อน กรรไกร กระดาษของคุณน่าทึ่งนัก คุณชนะผม 20 ครั้งรวด ผมซูฮกคุณจริงๆ” ฉิงเฟิงย่นจมูกซึ่งทำให้พ่อตาของเขาหัวเราะลั่น หลินซื่อมีความสุขมากจนฉีกยิ้มเกือบถึงใบหู
คำพูดที่เยินยอสามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาทุกคนชอบฟังคำพูดชื่นชม คำพูดที่ดีสามารถใช้แทนเงินได้
“เฟิงน้อยฉันเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเธอ มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้วที่ฉันเคยทำมา ที่ยกลูกสาวให้แต่งงานกับเธอ” หลินซื่อตบไหล่ฉิงเฟิง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
ด้วยลูกเขยคนนี้หลินซื่อรู้สึกพึงพอใจอย่างแท้จริงเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงอ่อนน้อมและพูดจาเอาใจเก่ง เพียงคำพูดไม่กี่คำของเขาก็ทำให้หลินซื่อมีความสุขมาก
ไม่เพียงแค่หลินซื่อเท่านั้นที่พอใจในตัวฉิงเฟิงแม้กระทั่งมู่เสี่ยวหยุนก็พอใจกับลูกเขยคนนี้เช่นกันที่รู้สถานการณ์เป็นอย่างดีและแกล้งยอมอ่อยให้พ่อตาชนะเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องดื่มมากเกินไป
แน่นอนว่ากุญแจสำคัญที่สุดในเรื่องความสัมพันธ์ก็คือการประจบประแจงโดยทั่วไปผู้สูงอายุชอบที่จะได้รับการยกย่องชมเชยเนื่องจากกลุ่มคนนี้อ่อนไหวเกี่ยวกับชื่อเสียงและหน้าตามาก ยกตัวอย่างเช่นความสามารถในการดื่มของพวกเขาในวัยนี้จะลดลงแต่ก็ยังชอบคุยโวว่าดื่มไหว…
เช่นเดียวกับอิตสตรีถึงแม้พวกเธอจะไม่สวยเราก็ต้องชมว่าสวยแล้วเธอจะชอบคุณมากขึ้นสิบเท่า
“โฮ่งๆ”ลูกหมาสีดำเห่าฉิงเฟิงสองครั้ง ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความรังเกียจ เจ้าหมอนี่ไม่เพียงแค่โกหกหลินเสวี่ย แต่มันยังโกหกกระทั่งพ่อของเธอ
เมื่อเห็นความรังเกียจในดวงตาของลูกหมาสีดำความโกรธก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของฉิงเฟิงเช่นกัน เขาไม่คาดว่าลูกหมาที่น่ารำคาญตัวนี้จะเกาะแกะอยู่กับเขาเหมือนพลาสเตอร์ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน มันน่ารำคาญจริงๆ
ฉิงเฟิงคิดจะทุบตีเจ้าลูกหมาสีดำอีกสักรอบแต่หลินเสวี่ยก็มาห้ามเอาไว้
เจ้าลูกหมาหน้าด้านตัวนี้ก็ยังเลียแข้งเลียขาแสดงละครเก่งเหมือนเดิมมันแสดงท่าทีที่ดูน่าสงสารของมันให้หลินเสวี่ยเห็นจนต้องปกป้อง
ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับนิสัยตามธรรมชาติที่ใจดีอ่อนโยนเมื่อหลินเสวี่ยเห็นมันดูน่าสงสารเธอก็เห็นใจมัน ไม่เพียงแค่ออกหน้าปกป้องแต่ยังให้มันกินอาหารอร่อยๆจากบนโต๊ะอาหารอีกด้วย
ฉิงเฟิงดูซึมเศร้าเพราะเขาทำอาหารเหล่านี้ด้วยความพยายามอย่างยิ่งแต่ตอนนี้มันถูกมอบให้กับเจ้าลูกหมาหน้าด้านตัวนี้เสียแล้ว
“พี่สาวลูกหมาดำตัวน้อยนี้สวยมาก พี่เลี้ยงมันไว้เหรอ ” ดวงตาของหลินไห่เปล่งประกายด้วยความสุขและกล่าวถาม
หลินเสวี่ยส่ายหัวแล้วพูดว่า“เปล่า ฉิงเฟิงพามันกลับมาบ้าน”
“พี่เขยๆผมขอหมาดำตัวน้อยนี่ได้ไหมครับ ผมชอบมันจัง” หลินไห่หันศีรษะไปกล่าวกับฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า“คงไม่ได้หรอก เจ้าหมาตัวนี้มันตามฉันคนเดียว มันไม่ค่อยเอาใคร” ฉิงเฟิงปฏิเสธคำขอของหลินไห่ที่ขอลูกหมาจากเขา มันทำให้หลินไห่อารมณ์เสียไม่น้อย เขารุ้สึกว่าพี่เขยของเขาขี้เหนียวจัง
“หลินไห่ทำไมเธอต้องอารมณ์เสียเพราะหมาตัวนึงด้วยล่ะ ลูกหมาตัวนี้เป็นของขวัญที่พี่เขยของเธอมอบให้ชั้น เป็นธรรมดาที่ชั้นจะยกให้เธอไม่ได้” หลินเสวี่ยมองไปหลินไห่และกล่าวขึ้น
ถึงจะไม่ใช่เจ้าของแต่แรกแต่หลินเสวี่ยก็รักลูกหมาสีดำที่น่าสงสารตัวนี้เช่นกัน มันเป็นเรื่องปกติที่เธอจะไม่ยอมมอบให้น้องชาย เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเสวี่ยหลินไห่ก็เข้าใจมากขึ้น ที่แท้มันเป็นของขวัญที่พี่เขยมอบให้พี่สาวของเขา มิน่าเขาถึงไม่ยอมยกให้
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอันที่จริงถ้าหลินเสวี่ยอยากได้ของขวัญชิ้นไหนก็ตาม เขาสามารถหามามอบให้เธอได้หมด แต่มันไม่ควรจะเป็นหมาตัวนี้ !
เนื่องจากลูกหมาตัวนี้เป็นหมาบัดซบที่หน้าด้านและเล่นละครเก่งจนดูเหมือนมันจะจับหัวใจของหลินเสวี่ยได้แล้วฉิงเฟิงกลัวว่าเธอจะถูกเอาเปรียบ
“
เฮ้ยฉันเตือนแกไว้ก่อนนะ แกจะประจบเอาใจหรือตามภรรยาฉันก็ไม่เป็นไร แต่แกอย่าไปหลอกลวงอะไรเธอไม่งั้นฉันทุบตีแกแน่
“
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วในขณะที่เขาส่งกระแสจิตไปเตือนลูกหมาสีดำ
ลูกหมาสีดำมองฉิงเฟิงด้วยความรังเกียจจากนั้นมันก็กระดิกหางของมันและไปหาหลินเสวี่ยด้วยท่าทีที่น่าสงสารเพื่อเล่นละครอีกรอบ
เจ้าหมาตัวนี้วางก้ามเขืองโขโอหังต่อคนอื่นแม้แต่ตอนแรกที่เขาพบมันมันก็ทำท่ายะโสและอ้างตัวว่าเป็นสุนัขชั้นเลิศ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเสวี่ยมันกลับกลายเป็นหมาเชื่องๆ
เด็กดีเชื่อฟังมักจะได้รับรางวัลในทำนองเดียวกัน ลูกหมาที่เชื่อฟังก็ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเช่นกัน หลินเสวี่ยเห็นมันทำท่าน่าสงสารจึงหยิบไก่ชิ้นนึงและป้อนเข้าปากโดยตรง
ในขณะที่ลูกหมาสีดำกำลังกินไก่ที่หลินเสวี่ยป้อนให้อย่างเอร็ดอร่อยมันก็มองไปหาฉิงเฟิงด้วยสีหน้าภาคภูมิใจเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า : ไงละน้อง เมียแกป้อนอาหารข้าแต่ดันไม่ป้อนแก
เมื่อเห็นใบหน้าที่ร่าเริงของลูกหมาสีดำหัวใจของฉิงเฟิงก็ลุกไหม้ไปด้วยความโกรธ เขาเหยียดเท้าขวาออกพร้อมที่จะเตะลูกหมาสีดำแต่หลินเสวี่ยก็มาห้ามไว้อีกครั้ง
หลินเสวี่ยถูกลูกหมาสีดำหลอกอย่างสมบูรณ์โดยคิดว่ามันเป็นหมาจรจัดที่น่าสงสารดังนั้นเธอจึงดูแลมันเป็นอย่างดี
สุดท้ายแล้วเนื่องจากการปกป้องของหลินเสวี่ยฉิงเฟิงจึงไม่สามารถทุบตีลูกหมาสีดำได้ เขาหันหลังกลับและไปดื่มกับพ่อตาต่อ
ในเกมภายหลังฉิงเฟิงแพ้พ่อตาอย่างต่อเนื่องซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของเขาที่พยายามจะทำตัวเป็นสุดยอดลูกเขย
ช่วงเวลาอาหารเย็นกินเวลานานหลายชั่วโมงและจบลงตอนสี่ทุ่ม
ที่โต๊ะอาหารฉิงเฟิงคุยกับพ่อตาแม่ยายของเขาเกี่ยวกับงานแต่งงานและกำหนดตารางเวลาในอีกสามวันข้างหน้า
หลังจากได้ยินการตัดสินใจของฉิงเฟิงหลินซื่อตอบตกลงอย่างยินดีด้วยรอยยิ้มที่เบ่งบานบนใบหน้าของเขา มู่เสี่ยวหยุนก็รอคอยเวลานี้มานานเช่นกันเวลาที่หลินเสวี่ยลูกสาวคนเดียวของเธอจะได้แต่งงานกับฉิงเฟิงซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกสามวัน งานแต่งงานครั้งก่อนหลินเสวี่ยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเกือบจะเสียชีวิต คราวนี้มู่เสี่ยวหยุนกำชับฉิงเฟิงนักหนาว่าให้ดูแลความปลอดภัยของหลินเสวี่ยและเขาต้องจัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบให้กับเธอ
จากคำขอของมู่เสี่ยวหยุน,ฉิงเฟิงยืนยันหนักแน่นด้วยความสัญญา เขาบอกมู่เสี่ยวหยุนว่างานแต่งงานครั้งนี้จะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน นอกจากนี้เขาจะเชิญบุคคลที่ทรงอิทธิพลและโด่งดังจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมงานแต่งงานของพวกเขาอีกด้วย !
ฉิงเฟิงได้วางแผนงานแต่งงานไว้ในใจแล้วในอีกสามวันข้างหน้าเขาจะแจกการ์ดเชิญไปทั่วโลก เขาจะเชิญผู้มีอำนาจทั้งหมดจากทั่วโลกเพื่อมอบเกียรติยศและเป็นหน้าเป็นตาให้แก่หลินเสวี่ย พอถึงเวลาสี่ทุ่มฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยก็ลากลับบ้านของพวกเขา
อย่างไรก็ตามมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังกลับ
สี่ทุ่มในตอนกลางคืนมันเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วตามหลักท้องฟ้าควรจะมืดสนิททั้งหมด แต่ทันใดนั้นเองมันกลับสว่างขึ้น
บนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ปรากฏดวงอาทิตย์สีแดงขึ้นโดยไม่คาดคิดดวงอาทิตย์คงอยู่ที่จุดนั้นเพียงไม่กี่วินาทีและก็หายไป แต่ปรากฏการณ์นี้ทำให้โลกทั้งใบต้องตกตะลึง !