My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1093 โลกที่กำลังผิดแผก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1093 โลกที่กำลังผิดแผก
ตอนที่ 1093 โลกที่กำลังผิดแผก
ณเวลาสี่ทุ่มตอนกลางดึก, ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้า เหตุการณ์นี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนบนโลก
บรรดาสื่อและหนังสือพิมพ์ทั้งหมดทั่วโลกรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ดาราศาสตร์และแผนกวิจัยทำการศึกษาติดตามผล ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงข้อสรุปที่ว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลง
เผ่าพันธุ์มนุษย์รู้สึกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนโลกตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือการลดลงของหมอกควันและมลภาวะทางอากาศรวมถึงสิ่งต่างๆที่ปรากฏในอากาศ
มนุษย์ธรรมดาไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไรไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่ผู้บ่มเพาะพลังทั่วโลกต่างรู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันคือพลังแท้ นอกจากนี้มันยังหนาแน่นมากขึ้นและมากขึ้นจนอากาศบนโลกบริสุทธิ์ยิ่ง
ในเวลาเดียวกันบนโลกได้ปรากฏดินแดนลึกลับขึ้น เช่นดินแดนต้องห้ามของเทือกเขาคุนหลุน, พระราชวังมังกรทะเลตะวันออก, เกาะอมตะเพ็งไหล, เขตภูเขาหิมะลี้ลับ, ก้นแม่น้ำเหลือง, สันตะสำนักของทวีปเสือ, เทือกเขาแอลป์, หุบเขามรณะและทะเลเดดซี ปรากฎการณ์เหตุการณ์แปลกประหลาดหลายอย่างลามไปทั่ว
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินข่าว
เขารู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้คือการฟื้นตัวของโลกโดยสมบูรณ์วัตถุบรรพกาลและตัวตนในตำนานจะปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง !
ครืนนน
!
เมื่อพวกเขามาถึงครึ่งทางระหว่างทางกลับบ้านพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง บ้านทั้งสองข้างทางพังทลายลงมา ต้นไม้ล้มลงกับพื้นและเกิดรอยแตกกระจายไปตามท้องถนน
เมื่อเห็นฉากนี้ใบหน้าของฉิงเฟิงก็ซีดลงเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นในทันที
แผ่นดินไหวไม่น่ากลัวแต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือฉิงเฟิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายชั่วร้ายที่ปรากฏออกมาจากใต้โลก
สัตว์อสูรสีดำปีนป่ายขึ้นจากพื้นดินมันคล้ายกับตัวหนอนยักษ์
หนอนตัวนี้มีขนาดใหญ่มากมันยาวกว่าสิบเมตรและทั้งตัวมีสีดำสนิท มันปกคลุมไปด้วยหนามสีดำและร่างกายของมันปลดปล่อยพลังงานปีศาจสีดำ
ใบหน้าของลูกหมาสีดำเปลี่ยนไปมันส่งข้อความไปหาฉิงเฟิงว่า “นี่คือสัตว์อสูรพิภพที่กลับมาจากยุคโบราณ พวกมันอาศัยอยู่ใต้โลกและกินมนุษย์เป็นแหล่งอาหาร พวกมันชั่วร้ายอย่างยิ่ง !”
“ในสมัยของจักรพรรดิสวรรค์เพื่อปกป้องมนุษยชาติ เขาเข้าสู่โลกใต้พิภพและสังหารเทพปีศาจปฐพีจากนั้นก็ผนึกโลกใต้พิภพไว้อย่างสมบูรณ์ ใครจะไปคิดว่าหลังจากนั้นผ่านมาห้าพันปีแล้วสัตว์อสูรใต้พิภพจะทะลวงผ่านผนึกและหลบหนีออกมา”
หลังจากฟังคำกล่าวของลูกหมาสีดำใบหน้าของฉิงเฟิงก็ซีดลง เดิมเขาคิดว่าศัตรูของโลกคือผู้รุกรานจากมิติอื่น เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีการต่อสู้ภายในโลกเช่นกัน
“เจ้าหมาแกปกป้องหลินเสวี่ยด้วยฉันจะฆ่าหนอนปีศาจใต้พิภพตัวนี้” ฉิงเฟิงกล่าวกับลูกหมาสีดำ
ลูกหมาสีดำพยักหน้าอย่างสง่างามถึงแม้ว่ามันมักจะทำตัวยะโสโอหังและหัวแข็งแต่ในช่วงวิกฤตมันไว้ใจและพึ่งพาได้
นอกจากนี้หลินเสวี่ยก็ดีกับมันมากดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วมันก็ต้องการปกป้องหลินเสวี่ย
ฉิงเฟิงเปิดประตูรถและเดินไปหาหนอนปีศาจใต้พิภพ
หนอนปีศาจใต้พิภพคำรามเสียงแปลกๆออกมาเมื่อฉิงเฟิงเข้าใกล้มันมันพูดอะไรออกมาบางอย่างแต่ฉิงเฟิงก็ไม่เข้าใจสักประโยค หนอนปีศาจใต้พิภพตัวนี้กำลังพูดภาษาโลกใต้พิภพซึ่งแตกต่างจากภาษามนุษย์
“อย่างน้อยแกก็ควรจะพูดอะไรบางอย่างที่ฉันเข้าใจได้แต่ช่างมันเถอะ ฉันจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้” ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองของเขาออกมาและเดินเข้าประชิดมันด้วยเจตน่าฆ่าที่รุนแรง
หนอนปีศาจรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าจากตัวฉิงเฟิงมันถ่มน้ำลายพลังงานปีศาจไปทางฉิงเฟิงทันที
พลังงานปีศาจสีดำนี้มีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรงและสามารถทำลายทุกสิ่งในแนวเส้นทางรวมไปถึงต้นไม้และพื้นดิน
ฉิงเฟิงแทงกระบี่เพลิงคะนองในมือของเขาไปข้างหน้าและแยกพลังงานปีศาจสีดำออกเป็นสองส่วน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาก็ทำให้ฉิงเฟิงรู้สึกตกใจ หลังจากแยกพลังงานปีศาจนี้ออกสองส่วนแล้วมันกลับไม่ได้หายไปแม้แต่น้อย มันกลับมารวมตัวกันและพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงอีกครั้ง
ฉิงเฟิงเก็บกระบี่เพลิงคะนองกลับไปอย่างรวดเร็วและตัดสินใจที่จะโจมตีด้วยวิชาหมัดเนื่องจากการโจมตีด้วยกระบี่เหมือนจะไร้ประโยชน์
“
หมัดทลายนรกานต์
!!
“
เขาใช้หมัดทลายนรกานต์ออกไปร่างเงาของกำปั้นขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศ
มันคือการรวมตัวของแก่นพลังแท้ในร่างเขามันพุ่งกระแทกเข้ากับกลุ่มก้อนพลังงานปีศาจสีดำอย่างดุเดือดและแตกสลายไปในที่สุด
แต่ในเวลาต่อมาพลังงานปีศาจที่กระจัดกระจายก็มารวมตัวกันอีกครั้ง มันเหมือนแมลงสาบที่ทำอย่างไรก็ไม่ตาย
“ เจ้าหนู
พลังงานปีศาจสีดำนี้เป็นการโจมตีจากโลกใต้พิภพการโจมตีทางกายภาพใดๆไร้ประโยชน์ แต่มันแพ้ต่อเปลวเพลิง
,
สายฟ้าและฟ้าผ่าเจ้าสามารถทำลายมันได้ด้วยเปลวเพลิงสีทองในร่างกายของเจ้าหรือไม่ก็มุกอัสนี
“
เสียงของจักรพรรดิแห่งราตรีดังขึ้นในใจของฉิงเฟิง
เขาเข้าใจในที่สุดและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ตัดสินใจใช้เปลวเพลิงสีทอง เขาไม่คิดจะใช้มุกอัสนีในเมืองเพราะอาจทำให้ผู้คนแตกตื่นตกใจ
ฉิงเฟิงตั้งสมาธิร่างของเขาปลดปล่อยเปลวเพลิงสีทองออกมาและรวบรวมมันไว้ในฝ่ามือของเขา
เขาได้รับเปลวเพลิงสีทองนี้มาในถ้ำของนักบุญทองคำและได้กลั่นมันเขาเคยใช้มันในการปรุงโอสถมาก่อน ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาจะใช้มันในการสังหาร
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่ใช้เปลวเพลิงสีทองในการต่อสู้แต่เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเพราะนี่เป็นเปลวเพลิงในระดับนักบุญ
“ไป!” ฉิงเฟิงชี้มือขวาของเขาและยิงเปลวเพลิงสีทองไปสู่พลังงานปีศาจอันมืดมิด
เปรี้ยง
!
เปรี้ยง
!
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังกึกก้องพลังงานปีศาจสีดำนั้นก็ถูกเผาไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงสีทอง
เปลวเพลิงสีทองมีอุณหภูมิสูงถึงห้าพันองศาและเป็นหนึ่งในร้อยเปลวเพลิงที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลแม้ว่าฉิงเฟิงจะดูดซับมาได้เพียงบางส่วนแต่มันกลับเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่สูงมาก
เมื่อเห็นว่าเมฆพลังปีศาจถูกเผาไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงสีทองหนอนปีศาจใต้พิภพก็รู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัว ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตใต้พิภพ สิ่งที่มันหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจก็คือเปลวเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลวเพลิงระดับนักบุญ
หวือ!
หนอนปีศาจใต้พิภพหันกลับและต้องการหนีมันหวาดกลัวต่อเปลวเพลิงสีทองของฉิงเฟิง
“แกจะหนี แกคิดหรือว่าจะทำได้ ?” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างเย็นชา
ฉิงเฟิงยกมือขึ้นเล็กน้อยและควบคุมเปลวเพลิงสีทองที่เปล่งอุณหภูมิอันน่าสะพรึงกลัวเขาเหวี่ยงมือไปข้างหน้าและเปลวเพลิงสีทองก็พุ่งไปราวกับสายฟ้าฟาดจับหนอนปีศาจใต้พิภพไว้ทันทีแล้วห่อหุ้มมันไว้ หนอนปีศาจใต้พิภพส่งเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดออกมาแต่ฉิงเฟิงก็รีบกางม่านพลังงานแสงทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้คนรอบข้างได้ยินเสียง ในระยะเวลาสั้นๆหนอนปีศาจใต้พิภพก็ถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า
ต้องพูดว่าเปลวเพลิงสีทองนี้มีพลังมากเกินไปจนสามารถเผาปีศาจใต้พิภพไปสู่ความว่างเปล่าได้
แต่ทว่าพลังงานประเภทนี้ใช้พลังงานวิญญาณมากมายดังนั้นฉิงเฟิงสามารถใช้ได้เพียงวันละสองครั้งเท่านั้น เขาจะไม่ใช้มันเว้นแต่จะเป็นช่วงเวลาสำคัญจริงๆ
เมื่อฉิงเฟิงฆ่ามันแล้วเขาก็เดินกลับไปที่รถ
“ที่รักผมทำให้คุณกลัวหรือเปล่า ” ฉิงเฟิงถามหลินเสวี่ย เขากังวลว่าหนอนปีศาจใต้พิภพจะสร้างความตื่นตระหนกให้เธอ
ขนตาที่เรียวงามของหลินเสวี่ยกระพริบเล็กน้อยราวกับว่าเธอผงะไปด้วยคำถามเธอส่ายหัวและพูดว่า “ไม่หรอก ฉันเคยเห็นสมาชิกของนิกายโลหิตสีชาดมาก่อนแล้ว คุณไม่ได้ทำให้ชั้นกลัวเลย”
ก่อนหน้านี้หลินเสวี่ยเคยถูกลักพาตัวไปโดยนิกายโลหิตสีชาดจนเธอเกือบจะถูกสูบโลหิตออกไปจากร่างเธอเคยเห็นผู้ฝึกตนนอกรีตมาแล้วมากมายจนล่วงรู้ว่าบนโลกนี้มีกลุ่มคนที่เรียกว่าผู้ฝึกตนอยู่ เธอไม่กลัวเรื่องพวกนี้อีกต่อไป
ฉิงเฟิงพยักหน้าเขาพอใจที่การต่อสู้ของเขากับหนอนปีศาจใต้พิภพไม่ได้ทำให้เธอตกใจอย่างที่คิด
ในหัวใจของฉิงเฟิงหลินเสวี่ยเป็นคนที่สำคัญที่สุด คนอื่นๆล้วนสำคัญรองจากเธอ