My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1100 สมุนไพรระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณราชัน
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1100 สมุนไพรระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณราชัน
ตอนที่ 1100 สมุนไพรระดับครึ่งก้าวจิตวิญญาณราชัน
สมุนไพรนี้ล้ำค่ามากมันสามารถช่วยให้ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์พัฒนาไปสู่ขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันได้ หากยอดฝีมือในจุดนั้นได้ดูดซับมันเข้าไปก็จะช่วยเพิ่มพลังแท้พวกเขาได้มากยิ่งขึ้น
กล่าวโดยสังเขปสมุนไพรครึ่งก้าวจิตราชันนี้เป็นสมบัติที่แท้จริงสำหรับผู้ฝึกตน ทุกคนที่เห็นมันล้วนต้องการที่จะใช้มันเพื่อตัวเอง
เชาเฟิงอู่มองไปที่สมุนไพรต้นนั้นอย่างกังวลสายตาของเธอเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เธออยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตจิตวิญญาณสวรรค์สมุนไพรนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเธอ แต่เธอก็รู้ตนเองว่าระดับพลังยังห่างไกลเกินกว่าจะช่วงชิงมัน
ด้วยความคิดนี้เชาเฟิงอู่จึงรู้สึกหดหู่ใจแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ฉิงเฟิงสังเกตเห็นอาการหม่นหมองของเธอและกล่าวว่า“ไม่ต้องห่วง ผมจะไปเอาสมุนไพรนั้นมาให้คุณเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้เชาเฟิ่งอู่ก็รู้สึกยินดีและมองฉิงเฟิงด้วยความตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามสมุนไพรต้นนี้ล้ำค่ามากเกินไปจ้าวเกอควาง, ปิงซีเยว่, โซวพั่วเทียนและฟู่โตวตี้ต่างก็มารวมตัวกันรอบๆและเตรียมพร้อมที่จะคว้ามันได้ทุกขณะ
ฟุ่บ!
จ้าวเกอควางรีบออกไปก่อนใครเขาพุ่งไปดั่งลูกศรอย่างรวดเร็วและเอื้อมมือไปที่สมุนไพรต้นนั้น
“อย่าฝันเฝื่อง!”
ในขณะที่เขากำลังจะเด็ดมันด้วยมือขวาปิงซีเยว่ก็โจมตีเขาด้วยกระบี่ยาวจนทำให้เขาไม่สามารถแตะต้องกับสมุนไพรได้
เมื่อรู้สึกได้ถึงพลังของกระบี่สีขาวจากปิงซีเยว่จ้าวเกอควางก็ตื่นตระหนก เขาละจากการช่วงชิงสมุนไพรต้นนี้ทันทีและชักกระบี่ออกมาปะทะกับกระบี่ของปิงซีเยว่จนเกิดเสียงตูมดังสนั่น
พลังงานกระบี่แผ่กระจายออกไปและตัดผ่านอากาศทั้งคู่ต่างถอยหลังกันคนละก้าวและจ้องมองกันด้วยสายตาเย็นชา
จ้าวเกอควางเป็นยอดฝีมือขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันและกระบี่ยาวในมือของเขาถูกเรียกว่ากระบี่จิตพิโรธมันเป็นอุปกรณ์วิญญาณที่ทรงพลังในขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชันและยังสามารถตัดผ่านอุปกรณ์วิญญาณอื่นๆได้อย่างง่ายดาย
แต่ปิงซีเยว่ก็ไม่สามัญธรรมดาในฐานะที่เป็นธิดาเทพแห่งนิกายราชันเหมันต์ เธอครองกระบี่สีขาวพิเศษเล่มหนึ่งที่เรียกว่ากระบี่เยือกแข็ง มันเป็นกระบี่ในระดับเดียวกันกับจ้าวเกอควาง
เมื่อได้เห็นปิงซีเยว่กำลังต่อสู้กับจ้าวเกอควาง,โซวพั่วเทียนก็รีบฉวยโอกาสพุ่งไปหาสมุนไพรต้นนั้น มันเป็นความคิดที่ดีแต่เขาถูกขัดขวางโดยคู่แข่งอีกรายหนึ่ง,ฟู่โตวตี้นั่นเอง
ในทางเทคนิคแล้วทั้งสองเป็นสหายที่ดีต่อกันแต่เบื้องหน้าเป็นสมบัติล้ำค่า พวกเขาจึงมีความขัดแย้งกันเป็นธรรมดา
“ท่านพี่โตวตี้ต้องการจะขวางข้างั้นหรือ” โซวพั่วเทียนขมวดคิ้วและถาม
ฟู่โตวตี้พยักหน้าและกล่าวว่า“ท่านพี่พั่วเทียน สมุนไพรนี้มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเราทุกคน”
หลังจากพูดจบฟู่โตวตี้ก็เริ่มต่อสู้กับโซวพั่วเทียนพวกเขาทั้งสองต่างเป็นยอดฝีมือครึ่งก้าวจิตราชัน การต่อสู้รุนแรงมากและทำให้คนอื่นไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้
ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขามีอัตลักษณ์อันสูงส่งซึ่งมาจากนิกายผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตราชันดังนั้นเหล่านิกายขนาดเล็กที่อยู่รอบๆจึงไม่มีความกล้าพอที่จะรุกรานพวกเขา
คนอื่นไม่กล้าทำให้พวกเขาคับข้องใจแต่มีคนผู้หนึ่งที่เป็นข้อยกเว้น นั่นก็คือหลี่ฉิงเฟิง
ฟุ่บ!
ฉิงเฟิงสำแดงท่าร่างพันมังกรกลายเป็นเงาร่างของมังกรและเคลื่อนที่ไปหาสมุนไพรครึ่งก้าวจิตราชันเขาดูราวกับสายฟ้าฟาดสีแดงในขณะที่คนอื่นกำลังต่อสู้
ฉิงเฟิงฉวยโอกาสทองคว้าจับสมุนไพรขึ้นมาด้วยมือขวาของเขา
“บัดซบ! หลี่ฉิงเฟิงชิงสมุนไพรไปแล้ว !”
“หลี่ฉิงเฟิงช่างกล้าหาญนักเขาไม่ไว้หน้ายอดฝีมือทั้งสี่จากนิกายใหญ่เหล่านั้นเลย”
“ถูกต้องหลี่ฉิงเฟิงอวดดีเกินไป ทั้งสี่คนนั้นจะต้องสั่งสอนบทเรียนเขาอย่างหนักแน่”
ผู้คนรอบข้างต่างพูดคุยกันเสียงดัง
พวกเขาอ่อนแอและไม่สามารถเข้าไปช่วงชิงสมุนไพรครึ่งก้าวจิตราชันได้ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกอิจฉาริษยาฉิงเฟิงอย่างมากจนไม่อยากเห็นเขาได้ครอบครองมัน
จ้าวเกอควางปิงซีเยว่ โซวพั่วเทียนและฟู่โตวตี้ต่างก็เห็นสมุนไพรในมือฉิงเฟิงและพวกเขาก็เต็มไปด้วยสีหน้าที่ขุ่นเคือง
พวกเขาหยุดการต่อสู้กันทันทีและล้อมกรอบฉิงเฟิงเอาไว้
“หลี่ฉิงเฟิงเจ้าจงมอบสมุนไพรมาซะดีๆ”
สมุนไพรนี้จ้าวเกอควางเป็นคนที่พบคนแรกแต่ตอนนี้ฉิงเฟิงกลับได้มันไปครอง แน่นอนว่าเขาย่อมอยู่ไม่สุข
ไม่เพียงแค่จ้าวเกอควางเท่านั้นที่กล่าวแต่ยังรวมไปถึงอีกสามคนที่ขอให้ฉิงเฟิงมอบสมุนไพรมา
พวกเขาทุกคนต่างคิดว่าตนเองเต็มไปด้วยเกียรติยศและชื่อเสียงมากในฐานะผู้สืบทอดนิกายระดับราชันพวกเขาสมควรได้ครอบครองสมุนไพรนี้
พวกเขาคิดว่าหลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้ฝึกตนพเนจรที่ทำตัวเหมือนโจรเขาไร้สังกัดและไม่มีนิกายหนุนหลัง เขาไม่เหมาะสมที่จะได้สมบัติระดับสูงเช่นนี้ไว้ครอบครอง “มอบมันออกมา ฝันเฝื่อง มีฝีมือก็มาแย่งเอาไปเองซี่” ฉิงเฟิงจ้องมองทั้งสี่คนด้วยสายตาเย็นชาและกล่าวอย่างโอหัง
ถึงแม้ว่าจะถูกล้อมรอบไปด้วยยอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งสี่แต่ฉิงเฟิงก็ยังคงสงบเยือกเย็นและไร้ความกังวล
เขามีไพ่ลับอยู่ในมือมากมายด้วยอุปกรณ์และเคล็ดวิชาของเขา เขาเหนือกว่าทุกคนในที่นี้
“วิชากระบี่จิตพิโรธ!”
จ้าวเกอควางคือคนแรกที่ทนไม่ได้เขาพลิกข้อมือและฟาดฟันกระบี่จิตพิโรธไปข้างหน้าเผยให้เห็นพลังงานระเบิดของสายลมอันหนาวเหน็บ
กระบี่ฉีกกระชากอากาศรอบๆและสะเทือนห้วงมิติมันฟาดฟันไปที่ฉิงเฟิงด้วยพลังอันเกรี้ยวกราด
เมื่อได้เห็นวิชากระบี่ของจ้าวเกอควางฉิงเฟิงก็ขมวดคิ้ว เขาไม่ใช้กระบี่เพลิงคะนองเพราะมันยังเป็นเพียงอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด มันไม่ใช่คู่ต่อกรของกระบี่จิตพิโรธซึ่งเป็นกระบี่วิญญาณระดับครึ่งก้าวราชัน
ฉิงเฟิงต้องการกระบี่หรืออาวุธที่ล้ำค่ามากกว่านี้ในระดับราชันโดยด่วนเพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาได้
แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สำคัญน้อยกว่าสถานการณ์ในตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำตอนนี้คือหลบการจู่โจมจากจ้าวเกอควาง
เขาขยับร่างกายและใช้ท่าร่างพันมังกรอีกครั้งเขาเคลื่อนไหวเหมือนแสงเลเซอร์, หมุนร่างของเขาไป 180 องศาและหลบการจู่โจมจากจ้าวเกอควางได้
จ้างเกอควางรู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของเขาได้โดยไม่คาดคิดท่าร่างของชายหนุ่มผู้นี้รวดเร็วเกินไป
เมื่อได้เห็นว่าจ้างเกอควางโจมตีพลาดปิงซีเยว่,ฟู่โตวตี้และโซวพั่วเทียนต่างก็โจมตีฉิงเฟิงในเวลาเดียวกัน
ความคิดของพวกเขานั้นง่ายมากสมุนไพรครึ่งก้าวจิตราชันอยู่ในมือฉิงเฟิง พวกเขาทำได้เพียงล้มชายหนุ่มคนนี้ก่อนเท่านั้น
ฉิงเฟิงโคจรพลังแท้ในร่างให้หนาแน่นขึ้นและใช้ท่าร่างพันมังกรออกไปอีกครั้งและเปลี่ยนเป็นเงาที่เคลื่อนที่ไปมาระหว่างพวกเขาราวกับสายฟ้าฟาดซึ่งสามารถหลบการโจมตีพวกเขาได้ทั้งหมด
ฉิงเฟิงรวดเร็วยิ่งความเร็วของเขาเร็วยิ่งกว่าพายุหมุนจนทำให้การโจมตีทั้งหมดพลาดเป้า
มีมนต์ผนึกอยู่ทั่วภูเขาลูกนี้การโจมตีจากจ้าวเกอควางและคนที่เหลือไม่โดนตัวฉิงเฟิงแม้แต่น้อย แต่พลังเหล่านั้นกลับไปโดนผนึกที่อยู่ทั่วภูเขาและทำให้ผนึกหนึ่งในนั้นระเบิดด้วยเสียงอันดัง
การระเบิดของผนึกนั้นทรงพลังมากแรงระเบิดทำให้พวกเขาทั้งหมดก้าวถอยหลัง ทุกคนหน้าซีดเซียวด้วยความหวาดกลัวในสายตา