My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1101 สตรีผู้เย้ายวนใจ
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1101 สตรีผู้เย้ายวนใจ
ตอนที่ 1101 สตรีผู้เย้ายวนใจ
มีดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีอยู่ภายในมนต์ผนึกและตอนนี้มันเปิดเผยออกมาเนื่องจากการระเบิดของผนึก
โดยปกติแล้วดอกไม้จะมีเพียงสีเดียวแต่ดอกไม้ดอกนี้กลับมีถึงห้าสีที่แตกต่างกันและทุกสีต่างก็เปล่งแสงที่แตกต่างกันปกคลุมทุกคน
ภายใต้อิทธิพลของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีทุกคนหยุดการต่อสู้พวกเขาทั้งหมดยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างโง่งม ใบหน้าของพวกเขามืดครึ้มและไร้ซึ่งการแสดงออกใดๆ มันดูราวกับว่าวิญญาณของพวกเขาแยกออกจากร่างและเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้เข้าสู่โลกอื่นแต่เป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นโดยดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
อย่างไรก็ตามโลกแห่งภาพลวงตากลับมีความคล้ายคลึงกับความเป็นจริงอย่างมากด้วยการปรากฏขึ้นของท้องฟ้า แผ่นดิน แม่น้ำและทุ่งหญ้า
สูงขึ้นไปบนภูเขามีศาลาหลังหนึ่งข้างในนั้นมีสตรีนางหนึ่งกำลังดีดกู่ฉิน(พิณ)
สตรีนางนี้งดงามอย่างมากที่จริงแล้วคำว่างดงามไม่ค่อยเข้ากับนางเท่าใดนัก คำอธิบายที่ถูกต้องคือ นางเป็นสตรีที่ค่อนข้างเย้ายวนใจ
ใบหน้าของนางงดงามในแบบที่เย้ายวนใจมันมีขนาดเล็กและมีรูปร่างเป็นวงรี ผิวของนางเรียกได้ว่าไร้ที่ติ มันขาวผุดผ่องดั่งหิมะและดูเรียบเนียน
คุณสมบัติที่งามที่สุดคือดวงตาคู่โตที่น่ารักของนางพวกมันเปล่งประกายด้วยการล่อลวงและเชื้อเชิญ เพียงหนึ่งสายตาที่นางเหลือบมองพวกเขา มันทำให้ทั้งหมดต่างเคลิบเคลิ้มและมึนเมา
หญิงสาวเอื้อมมือไปข้างหน้าด้วยแขนและมือที่เรียวงามของนางนิ้วของนางขยับไปมาบนกู่ฉินทำให้เกิดเสียงดนตรีที่คมชัดและอ่อนหวาน
สตรีนางนี้บรรเลงกู่ฉินได้อย่างยอดเยี่ยมและเสียงของนางก็ฟังแล้วสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ที่ได้สดับรับฟัง
ทุกคนต่างหลงใหลไปกับเสียงดนตรีอันไพเราะนี้พวกเขายืนนิ่งไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
สตรีที่ดูเย้ายวนใจมองดูกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้านางอย่างเยือกเย็นและดูเย้ยหยันนางรู้ว่าพวกเขาทั้งหมดถูกขังอยู่ในภาพลวงตาของนาง นางวางแผนที่จะสังหารพวกเขาทั้งหมดเพื่อสกัดแก่นแท้พลังออกจากร่างกายของพวกเขาเพื่อช่วยให้นางแข็งแกร่งขึ้น
“
เจ้าหนู
,
ตื่นเดี๋ยวนี้จงสลัดภาพลวงตานี่ซะ
!
“ คำพูดที่ดูเป็นกังวลของมังกรอัคคีเริ่มดังก้องเข้าไปในหัวของฉิงเฟิง
เนื่องจากมันไม่มีกายหยาบและยังเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณที่อ่อนแอมังกรอัคคีจึงเป็นเพียงกายจิตวิญญาณที่เปราะบาง ดังนั้น ถึงแม้ว่ามันจะต้องการจะช่วยเหลือฉิงเฟิงเพียงใดก็ไม่อาจทำได้ มันไม่อาจต่อกรสตรีที่เย้ายวนใจนางนี้ได้
ด้วยน้ำเสียงอันเย้ายวนของกู่ฉินที่บรรเลงด้วยสตรีทรงเสน่ห์นางนี้ฉิงเฟิงดูเหมือนจะเคลิบเคลิ้มหลงใหลหมดสิ้น แต่ถึงกระนั้นด้วยการเรียกอันกระวนกระวายของมังกรอัคคีก็ทำให้จิตใจของฉิงเฟิงชัดเจนขึ้น ดวงตากลับมารวมศูนย์อีกครั้ง
ในขณะที่ฉิงเฟิงตื่นขึ้นมาเขาก็นึกได้ถึงเชาเฟิ่งอู่เย่หงตี้ ดราก้อนคิงและคนอื่นๆทันที ทั้งหมดนี้เป็นฝ่ายเดียวกันและเขาไม่สามารถปล่อยคนเหล่านี้ไว้ในภาพลวงตาที่อาจคุกคามถึงชีวิต
คนแรกที่ฉิงเฟิงเดินไปหาก็คือเชาเฟิ่งอู่เขาเคาะไหล่ของเธอด้วยฝ่ามือ แต่เธอไม่ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วและรู้ว่าการจะปลุกคนที่ตกอยู่ในมนต์สะกดจำเป็นต้องใช้พลังจิตวิญญาณดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาวิธีอื่นๆในการช่วยเหลือเธอ
เขาส่งพลังจิตวิญญาณและนำมันเข้าสู่สมองของเชาเฟิ่งอู่อย่างระมัดระวัง
สมองเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในร่างกายมนุษย์ดังนั้นฉิงเฟิงจึงต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างยิ่ง เนื่องจากความประมาทใดๆอาจสร้างความเสียหายให้กับเซลล์ประสาทในสมองและอาจทำให้คนๆนั้นวิกลจริตได้
“ผู้อำนวยการเชาตื่นเร็ว !” พลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิงได้เข้าสู่สมองของเชาเฟิ่งอู่และเริ่มเรียกหาเธอ
ในที่สุดหลังจากนั้นเรียกขานเธอไม่นานเชาเฟิ่งอู่ก็ตื่นจากภาพลวงตาและได้สติกลับมา เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นและใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอก็ยังคงดูสับสน
ฉิงเฟิงอธิบายรวบรัดให้เธอเข้าใจว่าทุกคนติดอยู่ในภาพลวงตาและการที่เธอได้สติกลับมาก็เพราะเขาช่วย
ในที่สุดเชาเฟิ่งอู่ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากฟังคำกล่าวของฉิงเฟิงเธอมองไปที่เขาด้วยดวงตาคู่งามที่เปี่ยมไปด้วยการขอบคุณ
เธอโชคดีที่ฉิงเฟิงพาเธอออกมาจากภาพลวงตาได้มิฉะนั้นผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะอย่างไม่คาดคิด
หลังจากปลุกเชาเฟิ่งอู่ฉิงเฟิงก็เดินไปหาเย่หงตี้และดราก้อนคิงเพื่อใช้วิธีการเดียวกันในการปลุกพวกเขาและนำทั้งสองกลับสู่โลกแห่งความจริง
“ขอบคุณ”ดราก้อนคิงกล่าวคำขอบคุณฉิงเฟิงด้วยความซาบซึ้ง
เขารู้ว่าหากไม่ได้ฉิงเฟิงช่วยไว้ป่านนี้คงตกอยู่ในภาพลวงตาอย่างน่าสังเวชไปแล้ว
นอกจากความซาบซึ้งแล้วดราก้อนคิงก็เริ่มให้ความเคารพอย่างสูงต่อเขาคนที่วางตัวเหมาะสมก็สมควรจะได้รับความเคารพนับถือ
หลังจากเห็นว่าฉิงเฟิงช่วยดึงสติผู้คนกลับมาหลายคนใบหน้าที่เย้ายวนใจของสตรีผู้บรรเลงกู่ฉินก็มืดมนลง ประกายแห่งความอาฆาตแค้นพาดผ่านดวงตาคู่งามของนาง
คนเหล่านี้คือชีวิตที่นางควรจะได้รับแต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่มคนนี้ มันทำให้ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
นางกระชับกู่ฉินและบรรเลงอย่างเมามันการโจมตีทางจิตวิญญาณเริ่มก่อตัวขึ้นและพุ่งไปหาฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงตอบโต้การโจมตีของนางด้วยวิชาเกลียวคลื่นวิญญาณคู่เกลียวคลื่นพลังวิญญาณที่มองไม่เห็นด้วยสายตาคนธรรมดาสองสายได้ปะทะกับคลื่นเสียงจากกู่ฉินที่สร้างขึ้นโดยสตรีที่มีใบหน้าเย้ายวนใจ มันทำให้เกิดเสียงที่แหลมและรุนแรงดังกึกก้องอยู่ในหูของเขา
ฉิงเฟิงก้าวถอยหลังทันทีและรู้สึกเจ็บปวดในสมอง
การโจมตีของสตรีผู้นี้กับกู่ฉินของนางนั้นทรงพลังมากจนแม้เคล็ดวิชาเกลียวคลื่นวิญญาณคู่ของฉิงเฟิงก็ไม่สามารถเบี่ยงเบนมันได้
ฉิงเฟิงเริ่มโคจรฟูกจิตวิญญาณในหัวของเขาเมื่อมันเริ่มหมุนวนอย่างช้าๆเหมือนกับเครื่องบดเต้าหู้ มันก็ได้บดบังพลังจิตวิญญาณในการโจมตีของสตรีผู้เย้ายวนใจนางนั้นและดูดซับพลังส่วนนั้นเข้าสู่ห้วงจิตวิญญาณของฉิงเฟิง
ในขณะที่เขาได้รู้สึกถึงพลังงานทางจิตวิญญาณที่กำลังเติบโตในหัวของเขาใบหน้าของฉิงเฟิงก็เริ่มแสดงความยินดีออกมา
ฟูกแห่งวิญญาณนั้นน่าเกรงขามและมีพลังมันสามารถดูดซับพลังวิญญาณของศัตรูได้ ในขณะนั้นเขาก็ชี้ไปที่สตรีผู้เย้ายวนนางนั้นด้วยนิ้วชี้ขวาและกล่าวอย่างขบขันว่า“เธอหิวข้าวเหรอ นี่ช่างเป็นพลังงานโจมตีทางวิญญาณที่อ่อนแอนัก”
ใบหน้าของสตรีนางนั้นดูมืดมนยิ่งขึ้นและดวงตาของเธอก็เย็นชาราวกับน้ำแข็งนางใช้นิ้วทั้งห้าบนมือข้างหนึ่งกรีดกรายไปบนกู่ฉินเพื่อบรรเลงบทเพลงพลังจิตวิญญาณ นางควบแน่นมันมากยิ่งขึ้นและก่อตัวเป็นเงากระบี่ยาวสายหนึ่ง
“กระบี่จิตวิญญาณ เป็นไปไม่ได้!” ฉิงเฟิงตื่นตระหนกและรู้สึกตกใจ
การโจมตีทางจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการบ่มเพาะของเหล่าผู้ฝึกตนมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าของมนุษย์และสัมผัสถึงมันได้แค่เพียงผู้ที่มีพลังจิตวิญญาณ แต่กระนั้นมันก็นับเป็นการโจมตีที่มีอำนาจทำลายล้างสูงมาก
ผู้ที่ฝึกฝนเกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งบางคนจะสามารถเปลี่ยนพลังจิตวิญญาณของพวกเขาให้กลายเป็นวัตถุทางกายภาพได้เช่น กรบี่ ดาบ ค้อน ฯลฯ
อาวุธจิตวิญญาณที่สร้างขึ้นและที่เกิดขึ้นจริงโดยพลังจิตวิญญาณจะสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อสมองมากยิ่งขึ้น
“
เกลียวคลื่นวิญญาณคู่
!!
“
ฉิงเฟิงใช้เคล็ดวิชาเดิมอีกครั้ง
นี่เป็นการโจมตีทางจิตวิญญาณเพียงอย่างเดียวที่เขารู้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยได้ผลกับการโจมตีของสตรีผู้เย้ายวนใจ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้มัน
ไม่น่าแปลกใจทันทีที่เกลียวคลื่นวิญญาณคู่ของเขาก่อตัวขึ้น มันก็ถูกเสียบทะลุด้วยกระบี่จิตวิญญาณของนาง
กระบี่จิตวิญญาณแข็งแกร่งพอที่จะทำให้ฉิงเฟิงไร้ทางตอบโต้ภายในพริบตามันแทงเข้าสู่สมองของเขาและสร้างหลุมเล็กๆในนั้น
พลังงานจิตวิญญาณเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์มันคือสิ่งที่ความรู้สึกนึกคิดใดๆก่อตัวขึ้น ความเสียหายต่อส่วนนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยต่อร่างกายเหมือนกระดูกหัก แต่มันเลวร้ายกว่านั้นมาก
อะอ้ากกกกกกกกกกกกกกก
!!!
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้ฉิงเฟิงเปล่งเสียงกรีดร้องออกมาดังลั่นไม่มียอดนักรบคนใดที่สามารถทนต่อความเจ็บปวดของสมองที่ถูกทิ่มแทงได้
โชคดีที่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งกว่าคนปกติหากเขาเป็นคนธรรมดาคงจะหมดสติหรือเป็นบ้าไปแล้วนานแล้ว
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ฟูกจิตวิญญาณในสมองของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งมันตอบสนองอย่างเชื่องช้าแต่ก็เต็มไปด้วยความน่าอัศจรรย์ มันทำให้สมองของฉิงเฟิงค่อยๆกลับสู่รูปแบบเดิม
หลังจากนั้นฟูกจิตวิญญาณก็กลายเป็นประกายแสงสีขาวและกดทับลงบนกระบี่จิตวิญญาณและดูดซับมัน