My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1102 ราชสีห์คำราม !
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1102 ราชสีห์คำราม !
ตอนที่ 1102 ราชสีห์คำราม !
หลังจากกลืนกระบี่จิตวิญญาณของสตรีผู้เย้ายวนใจไปแล้วฟูกจิตวิญญาณก็กลับเข้าสู่ส่วนลึกสมองของฉิงเฟิงและหลบซ่อนในนั้น
ในเวลาเดียวกันฟูกจิตวิญญาณก็ยังได้แบ่งปันพลังจิตวิญญาณบางส่วนให้กับฉิงเฟิงเพื่อให้เขาสามารถทะลวงด่านเข้าสู่ขอบเขตจิตราชันอย่างสมบูรณ์ !
ก่อนหน้านี้พลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิงยังมีไม่มากนักแต่หลังจากการดูดกินพลังงานจิตวิญญาณของสตรีผู้เย้ายวนใจสองครั้งติดต่อกัน เขาก็รู้สึกว่าพลังจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉิงเฟิงมองไปที่นางและพูดจาอวดดีว่า“ฉันคิดว่าเธอไม่ได้กินข้าว แต่ดูเหมือนจะคิดผิด ที่จริงแล้วเธออดข้าวมาสามวันมากกว่า ไม่งั้นทำไมพลังจิตวิญญาณของเธอถึงได้อ่อนระโหยโรยแรงเช่นนี้ เธอทำได้แค่นี้เหรอไง ”
ตอนที่ 1102 ราชสีห์คำราม !
หลังจากกลืนกระบี่จิตวิญญาณของสตรีผู้เย้ายวนใจไปแล้วฟูกจิตวิญญาณก็กลับเข้าสู่ส่วนลึกสมองของฉิงเฟิงและหลบซ่อนในนั้น
ในเวลาเดียวกันฟูกจิตวิญญาณก็ยังได้แบ่งปันพลังจิตวิญญาณบางส่วนให้กับฉิงเฟิงเพื่อให้เขาสามารถทะลวงด่านเข้าสู่ขอบเขตจิตราชันอย่างสมบูรณ์ !
ก่อนหน้านี้พลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิงยังมีไม่มากนักแต่หลังจากการดูดกินพลังงานจิตวิญญาณของสตรีผู้เย้ายวนใจสองครั้งติดต่อกัน เขาก็รู้สึกว่าพลังจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉิงเฟิงมองไปที่นางและพูดจาอวดดีว่า“ฉันคิดว่าเธอไม่ได้กินข้าว แต่ดูเหมือนจะคิดผิด ที่จริงแล้วเธออดข้าวมาสามวันมากกว่า ไม่งั้นทำไมพลังจิตวิญญาณของเธอถึงได้อ่อนระโหยโรยแรงเช่นนี้ เธอทำได้แค่นี้เหรอไง ” แน่นอนว่าฉิงเฟิงมีเหตุผลที่กล่าววาจายั่วยุนางเขาต้องการทำให้นางโกรธจัดจนโจมตีด้วยพลังจิตวิญญาณมากขึ้น และเขาจะได้ดูดกลืนมันมาเสริมแกร่งให้ตนเอง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางย่อมโกรธแค้นอย่างยิ่งนางไม่เคยพบผู้ใดที่เหมือนชายหนุ่มตรงนี้มาก่อน เขาพยายามกระตุ้นยุแหย่ให้นางใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดซ้ำๆ
อย่างที่เคยกล่าวไว้,การโจมตีด้วยพลังจิตวิญญาณของนางไม่เคยล้มเหลวในการสังหารผู้ใดมาก่อน แต่ทว่าหลี่ฉิงเฟิงกลับยังมีชีวิตอยู่
“เจ้าคนสารเลวเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้กวนประสาทข้า ข้าจะส่งเจ้าลงนรก”
“
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีจงเบ่งบาน
!
“
ในขณะที่ออกคำสั่งนิ้วมือเรียวงามทั้งสิบของนางก็กรีดกรายไปบนเส้นสายกู่ฉิน พลังจิตวิญญาณของนางก่อตัวขึ้นเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีและพุ่งเข้าไปทำลายสมองของฉิงเฟิง
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษพร้อมกับความสามารถในการกลืนเมื่อมันเข้าสู่ห้วงสมองของฉิงเฟิง มันก็เริ่มดูดกลืนพลังจิตวิญญาณของเขา
ใบหน้าของฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีเทาเนื่องจากถูกโจมตีอย่างรุนแรงด้วยพลังจิตวิญญาณอันมหาศาลสมองของเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีกำลังดูดกินพลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิงอย่างไม่หยุดยั้ง
“
บ้าชิบ…ไม่คิดว่าจะร้ายกาจขนาดนี้ ฉันไม่สามารถปล่อยให้เธอดูดกินพลังจิตวิญญาณได้ต่อไปแล้ว
! “
ฉิงเฟิงพึมพำในขณะที่เขาพยายามระงับความเจ็บปวดในสมองเขากัดฟันคำรามและโจมตีตอบโต้นางด้วยเกลียวคลื่นวิญญาณคู่อีกครั้ง
“
เกลียวคลื่นวิญญาณคู่
!
“
“ฮ่าๆการโจมตีด้วยจิตวิญญาณของเจ้ามันอ่อนแอนัก จงยอมแพ้ซะแล้วปล่อยให้พลังจิตวิญญาณของข้าดูดกลืนก็พอ” สตรีผู้มีใบหน้าเย้ายวนใจหัวเราะ ใบหน้าอันงดงามของนางเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีกลืนกิน
!
“ ในขณะที่กล่าวเย้ยหยันสตรีผู้เย้ายวนใจก็เผยอริมฝีปากสีแดงสดและกลืนกินพลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิง
“
ช่างเป็นพลังงานจิตวิญญาณที่แสนอร่อยนัก
!
ไม่น่าเชื่อว่าพลังของเจ้าหนุ่มผู้นี้จะบริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังงานจิตวิญญาณจากยอดฝีมือในขอบเขตจิตราชันขั้นสูงสุดเสียอีก”
นางคิดในใจด้วยความชื่นชอบและคาดไม่ถึง
“อะไรกัน เธอดูดกินเกลียวคลื่นวิญญาณคู่ของฉันได้ !?”
ฉิงเฟิงหน้าซีดเซียวลงเมื่อเห็นว่านางสามารถดูดกลืนการโจมตีทางจิตวิญญาณของเขาได้
การโจมตีทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของฉิงเฟิงไม่อาจทำอะไรนางได้แม้แต่น้อยฉิงเฟิงตกใจเกินกว่าจะกล่าวอะไรออกมาได้
“ตอนนี้เจ้าก็สามารถตายอย่างสงบได้แล้วเจ้าได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว”
สตรีผู้เย้ายวนใจแย้มยิ้มอย่างสดใสแต่คำพูดของนางไม่มีอะไรมากนอกจากความปรารถนาที่จะฆ่า นางต้องการกลืนกินพลังจิตวิญญาณทั้งหมดของฉิงเฟิง
“ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีจงดูดกลืนให้หมดสิ้น !” นางยิ้มอย่างสงบและเริ่มดูดกลืนพลังจิตวิญญาณของฉิงเฟิงอย่างบ้าคลั่ง
ใบหน้าของฉิงเฟิงซีดจางไร้สีเลือดเขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานทางจิตวิญญาณของเขากำลังลดลงอย่างรวดเร็วและทั้งหมดกำลังถูกครอบงำโดยสตรีนางนี้ แต่เขาก็ไม่อาจต่อสู้ขัดขืนอะไรได้เนื่องจากพลังจิตวิญญาณที่เข้มแข็งของนางมีมากกว่า
ฉิงเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงเขารู้สึกว่ากลิ่นอายชีวิตของเขากำลังถูกสูบออกจากร่างไปด้วย ชู่ววว!
ในขณะนั้นเองฟูกจิตวิญญาณในสมองของเขาก็เริ่มสั่นและเปล่งแสงประกายออกมา
ดูเหมือนว่ามันรับรู้ได้ว่าฉิงเฟิงกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงทันใดนั้นเองมันก็กลายเป็นลำแสงสีดำและพุ่งเข้าใส่สตรีผู้เย้ายวนใจ
แสงสีดำอันแปลกประหลาดห่อหุ้มร่างของนางในทันที
กรี๊ดดดดดด…
นางเปล่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความกลัวอย่างมหันต์ความหวาดกลัวแทนที่ความเย้ายวนใจบนใบหน้าของนาง
ฉิงเฟิงจ้องมองอย่างโง่งมด้วยความตกใจในขณะที่ร่างกายของสตรีผู้เย้ายวนใจกลับกลาบเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
ในที่สุดฉิงเฟิงก็ตระหนักว่าสตรีนางนี้ไม่ใช่ร่างจริงแต่เป็นร่างมายาที่ถ่ายทอดออกมาจากดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีนั่นเอง
“อย่ากินข้า!” นางร่ำร้องคร่ำครวญในขณะที่กำลังมองฟูกจิตวิญญาณ มันราวกับว่านางกำลังมองดูสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้
แต่ถึงกระนั้นฟูกจิตวิญญาณก็ไม่สำแดงอาการใดๆและภายในเวลาไม่นานนางก็ถูกมันดูดซับจนหมดสิ้น
“อะไรกัน! เจ้าสิ่งนี้… มันสังหารเธอได้อย่างรวดเร็ว !” ฉิงเฟิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาได้เห็นสตรีที่เย้ายวนใจหายไปต่อหน้าต่อตา
ฉิงเฟิงได้รับบทเรียนจากความประมาทถึงพลังจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของนางแต่ที่แปลกใจยิ่งกว่าคือมันกลับถูกดูดกลืนโดยฟูกจิตวิญญาณในเวลาไม่นาน !
หลังจากกลืนกินร่างวิญญาณของสตรีผู้เย้ายวนใจฟูกจิตวิญญาณก็เปล่งแสงสีดำอย่างพร่ามัวและปรากฏท่วงทำนองของเคล็ดวิชาบางอย่างออกมา
“นี่มัน…..เคล็ดวิชาลับทางจิตวิญญาณ !” ฉิงเฟิงรุ้สึกยินดีในขณะที่เขาเห็นเคล็ดวิชาลับทางจิตวิญญาณที่ปรากฏอยู่ด้านบนของฟูกจิตวิญญาณ
เขาหลับตาซึมซับท่วงทำนองนั้นและเรียนรู้อย่างรวดเร็วเคล็ดวิชาลับนี้คือ
[ราชสีห์คำราม]มันเป็นเคล็ดวิชาลับโจมตีทางจิตวิญญาณในระดับระดับราชันซึ่งมีทั้งหมดเก้าระดับ หากเขาเชี่ยวชาญทั้งเก้าระดับ เขาจะสามารถทำลายขุนเขาได้ด้วยเทคนิคนี้ !
ฉิงเฟิงเริ่มฝึกฝน[ราชสีห์คำราม] ในขณะที่เขาโคจรพลังจิตวิญญาณ เขาก็เริ่มแผดเสียงคำรามออกมา
ฉิงเฟิงมีความสามารถในการเรียนรู้และรู้แจ้งได้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติมันใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะเรียนรู้ ‘คำรามที่หนึ่ง’ ซึ่งเป็นเทคนิคแรกจากทั้งเก้าระดับของ [ราชสีห์คำราม] – คำรามสะเทือนฟ้า !”
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลามากพอที่จะบ่มเพาะ ‘คำรามที่สอง’ ได้ในขณะนี้ หลังจากฉิงเฟิงเรียนรู้คำรามที่หนึ่งของเคล็ดวิชาลับ[ราชสีห์คำราม], ฟูกจิตวิญญาณก็กลับเข้าไปในส่วนลึกของสมองของเขาและล่องลอยอยู่ที่นั่น
ในห้วงจิตใต้สำนึกฉิงเฟิงมองไปที่มันด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ช่วยชีวิตเขาไว้ จากนั้นเขาก็ออกมาจากห้วงจิตใต้สำนึกในสมอง
ในขณะเดียวกันหลังจากสตรีผู้เย้ายวนใจสูญสลายไป ภาพมายาทั้งปวงก็จางหายและทุกคนก็เริ่มฟื้นคืนสติขึ้น
ในที่สุดจ้าวเกอควาง, ปิงซีเยว่, โซวพั่วเทียน, ฟู่โตวตี้และคนอื่นๆก็ได้สติกลับคืน
เมื่อพวกเขาทั้งหมดได้นึกย้อนไปถึงฉากก่อนหน้านี้ความกลัวก็เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดต่างก็มีพลังในระดับครึ่งก้าวจิตราชันแต่พวกเขาไม่มีใครเลยที่มีพลังจิตวิญญาณแข็งแกร่งพอจะต่อกรกับภาพลวงตาของสตรีนางนั้นได้ หากมิใช่ว่าจู่ๆนางก็ตกตายไป พวกเขาทั้งหมดจะต้องติดอยู่ในภาพลวงตาและโดนสูบพลังจิตวิญญาณจนหมดสิ้น
แน่นอนว่าทุกคนในกลุ่มนั้นไม่รู้ว่านี่เป็นฝีมือของหลี่ฉิงเฟิงพวกเขาต่างก็หันไปมองหน้ากันเลิกลั่กและคาดเดาว่าต้องมีใครสักคนในกลุ่มที่จัดการนาง
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีและพวกเขาก็จำได้ว่ามันเป็นดอกไม้ที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีได้ถูกทำลายไปแล้ว ไม่มีอะไรเหมือนก่อนหน้านี้
เนื่องจากสตรีผู้เย้ายวนในที่เล่นกู่ฉินคือร่างมายาที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีเมื่อนางตายไปมันจึงส่งผลให้สูญเสียพลังวิญญาณของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีตามไปด้วย
“ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสี!ดอกไม้ระดับราชัน ? เป็นไปได้อย่างไร” ใบหน้าอันงดงามของปิงซีเยว่กระตุกเล็กน้อยในขณะที่เธอจำได้ว่าสิ่งที่พวกเธอพบเจอคือดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของปิงซีเยว่ต่างก็ยืนอึ้งและตกใจกลัว
ผู้ฝึกตนทุกคนย่อมรู้เกี่ยวกับดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีดอกไม้นี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความดุร้ายและความรุนแรง รวมไปถึงความสามารถในการสร้างภาพลวงตา
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีสามารถเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ที่เย้ายวนใจและกลืนกินพลังจิตวิญญาณของผู้ฝึกตนการเผชิญหน้ากับดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีย่อมหมายถึงความตายหากผู้ฝึกตนไม่มีพลังจิตวิญญาณที่แข็งกร้าวพอ พวกเขาต่างรู้สึกโชคดีอย่างยิ่งที่รอดพ้นจากมันมาได้
��