My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1104 สาวงามเลิศภพในชุดขาว
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1104 สาวงามเลิศภพในชุดขาว
ตอนที่ 1104 สาวงามเลิศภพในชุดขาว
“หลี่ฉิงเฟิงข้าจับตัวเชาเฟิ่งอู่ไว้แล้ว หากเจ้าต้องการให้นางมีชีวิตรอดก็จงยอมแพ้ซะ! ตัดใจจากดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีและออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
ปิงซีเยว่กล่าวคุกคามฉิงเฟิงอย่างเย็นชา
เธอรู้ว่าทั้งเชาเฟิ่งอู่และหลี่ฉิงเฟิงต่างก็เป็นคนของหน่วยความมั่นคงพิเศษการใช้เธอมาเป็นเครื่องมือข่มขู่ฉิงเฟิงย่อมได้ผลตามที่เธอต้องการ
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีดึงดูดใจอย่างมากมันมากพอที่ปิงซีเยว่จะใช้วิธีการต่ำช้าข่มเหงผู้อำนวยการหน่วยความมั่นคงพิเศษเพื่อให้ได้มา
ใบหน้าของฉิงเฟิงมืดครึ้มด้วยความโกรธแค้นต่อการกระทำที่ชั่วช้าของปิงซีเยว่
เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ายอดฝีมืออย่างเธอจะทำตัวชั่วช้าน่ารังเกียจฉวยโอกาสจับคนเป็นตัวประกันมันทำให้ตอนนี้เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวเนื่องจากกังวลความปลอดภัยของเชาเฟิ่งอู่ในฐานะตัวประกัน
แน่นอนว่าฉิงเฟิงย่อมช่วยเชาเฟิ่งอู่เธอมีบุญคุณต่อเขามากมายในเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นภายในหัวเซี่ย
“ปล่อยผู้อำนวยการเชาไปซะฉันสัญญากับเธอว่าจะไม่ช่วงดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสี”Qฉิงเฟิงยอมตกลงสัญญากับนางด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีนั้นล้ำค่าแต่เชาเฟิ่งอู่มีค่ามากกว่า เพื่อช่วยเหลือเธอ,ฉิงเฟิงต้องยอมถอนตัวชั่วคราว
เชาเฟิ่งอู่รู้สึกประทับใจมากที่ได้ยินฉิงเฟิงสัญญาว่าจะถอนตัวในการแย่งชิงเพื่อช่วยชีวิตเธอ
ฉิงเฟิงหันหลังและเดินลงจากเขาโดยไม่ลังเล
เมื่อลงมาถึงตีนเขาฉิงเฟิงก็ตะโกนออกมาว่า “ปิงซีเยว่ ฉันถอนตัวและลงจากเขามาแล้ว ปล่อยผู้อำนวยการเชาได้แล้ว”
“หึๆมิสเชา หลี่ฉิงเฟิงดีกับท่านมากจริงๆ เอาล่ะท่านลงไปได้แล้ว” ปิงซีเยว่กล่าวพร้อมกับลดกระบี่ที่พาดคอเรียวงามของเชาเฟิ่งอู่ออก
เชาเฟิ่งอู่เหลือบมองปิงซีเยว่ด้วยแววตาที่เดือดดาล
ในฐานะผู้อำนวยการหน่วยความปลอดภัยพิเศษเชาเฟิงอู่ต้องการสั่งสอนบทเรียนให้กับปิงซีเยว่ที่จับเธอเป็นตัวประกัน
แต่เธอก็สำนึกตนดีว่าไม่ใช่คู่มือของปิงซีเยว่และไร้ประโยชน์ที่จะรั้งอยู่ที่นี่เธอพยักหน้าให้กับดราก้อนคิงและเย่หงตี้เพื่อบอกให้พวกเขาลงจากภูเขา
“หลี่ฉิงเฟิงนายไม่ควรช่วยชั้นเลย นายน่าจะฆ่าปิงซีเยว่ซะและนำดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีมา” เชาเฟิ่งอู่กล่าวกับฉิงเฟิงในขณะที่เดินมาข้างๆเขา “ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีมีความสำคัญแต่สำหรับผมแล้วคุณสำคัญกว่า”
ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงเชาเฟิ่งอู่ก็ยิ่งประทับใจ เธอไม่รู้มาก่อนว่าตนเองก็เป็นคนสำคัญในหัวใจของหลี่ฉิงเฟิงเช่นกัน
“พี่หลี่,ในเมื่อตอนนี้ผู้อำนวยการเชากลับมากับพวกเราแล้ว พวกเราควรจะกลับไปต่อสู้กับพวกนั้นเพื่อชิงดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไหม ” เย่หงตี้ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
ฉิงเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า“อย่าไป ที่ฉันยอมถอยง่ายๆก็เพราะฉันสัมผัสได้ถึงอันตรายบนภูเขา ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยโอกาสก็มักจะมีอันตรายใหญ่หลวงเช่นกัน”
เย่หงตี้และคนอื่นๆต่างก็พยักหน้าถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ทราบเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดขึ้นบนภูเขา แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเชื่อฉิงเฟิงเพราะเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม หลังจากที่ฉิงเฟิงลงจากเขาได้ไม่นานจ้าวเกอควงและปิงซีเยว่ต่างก็เริ่มต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ห้าสี
ในเวลาเดียวกันบนเนินเขาประมาณหนึ่งพันเมตรสูงขึ้นไปจ้าวนิกายราชันกระบี่,จ้าวหลิงหวัง จ้าวนิกายราชันเหมันต์, ปิงหยาเฟย, จ้าวนิกายราชันสัตว์, โซวอู่หยาและจ้าวนิกายราชันแห่งยันต์, ฟู่อู่เฟิงก็กำลังต่อสู้เพื่อกระบี่แสงสีทอง
ผู้นำนิกายทั้งสี่ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตจิตราชันและแรงหมัดของพวกเขานั้นมีมากกว่า 50,000 กิโลกรัมซึ่งมากพอที่จะเบิกฟ้าถล่มปฐพี
คลื่นพลังงานมหาศาลแผ่ออกไปด้านนอกและกระแทกกับมนต์ผนึกผนึกบางส่วนระเบิดขึ้นและหินบนภูเขาแตกหล่นลงมาพร้อมกับการระเบิด
ในเวลานี้ปรากฏนิ้วมือเรียวงามขาวหิมะแทงทะลุภูเขาออกมา
นิ้วนั้นบริสุทธิ์และใสเหมือนหยกที่เปล่งแสงสีขาวมันเป็นนิ้วมือของอิตสตรีที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันน่ากลัว
นิ้วสีขาวดั่งหิมะชี้ไปที่กระบี่แสงสีทองจากนั้นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันก็บินมาหานิ้วนั้น
แน่นอนว่าผู้นำนิกายทั้งสี่ย่อมไม่ยอมให้กระบี่แสงสีทองถูกพรากไปจากพวกเขาพวกเขาทุกคนต่างรวมพลังกันและเปิดการโจมตีเข้าใส่นิ้วขาวเนียนดั่งหิมะ
ด้วยการรวมพลังของยอดฝีมือขอบเขตจิตราชันอย่างน้อยก็ 200,000 กิโลกรัม !
มันระเบิดอากาศเข้าไปในกระแสน้ำวนสีดำจำนวนมาก
แรง200,000 กิโลกรัมกระแทกเข้าใส่นิ้วขาวและหินโดยรอบ นิ้วสีขาวยังคงสภาพเดิมในขณะที่หินโดยรอบแตกเป็นหลุมดำขนาดใหญ่
“ฮิๆๆในที่สุดข้าก็ออกมาได้เสียที”
ภายใต้ภูเขาที่แตกสลายเสียงหัวเราะที่คมชัดชวนฟังได้ดังขึ้น
เสียงหัวเราะนี้ดังกว่าตอนที่สตรีผู้เย้ายวนก่อนหน้านี้ส่งเสียงหลังจากเสียงนี้จบลงก็ปรากฏร่างของสตรีในชุดสีขาวที่ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ
เธองดงามอย่างสุดขั้ววงหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ของเธอเหมือนดอกกุหลาบที่บานสะพรั่ง ผิวพรรณของเธอดูสดชื่นเปล่งประกายยิ่งกว่าดอกกุหลาบ ผิวสีขาวเหมือนหิมะของเธอดุจดอกบัวหิมะบนขุนเขาเสียดฟ้า ดวงตาเรียวงามที่เปล่งประกายของเธอราวกับอัญมณีสีดำเปล่งแสงลึกซึ้งและลึกลับ
เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นได้ว่าในดวงตาของเธอมีดวงดาราหมุนวนอยู่
ห้วงอวกาศและเวลาพลิกกลับหัวกลับหางด้วยแววตาของเธอ
แน่นอนว่ามีเพียงหลี่ฉิงเฟิงคนเดียวเท่านั้นที่สังเกตเห็นคุณสมบัติพิเศษนี้เนื่องจากเขาได้บ่มเพาะท่วงทำนองสวรรค์อมตะและสามารถรับรู้สิ่งต่างๆที่คนธรรมดามองไม่เห็น
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างสุดแสนฉิงเฟิงรู้สึกหวาดกลัวมากเพราะจากความรู้ที่เขาสืบทอดมา ผู้ที่มีดวงดาราหมุนวนในดวงตาส่วนใหญ่จะเป็นตัวตนระดับนักบุญหรือไม่ก็ระดับอมตะ !
“เราจะให้พวกเจ้าสามวินาทีเพื่อออกไปจากที่นี่”ผู้หญิงในชุดขาวตะโกนต่อทุกคนทั่วภูเขา
การแสดงออกของผู้นำทั้งสี่นิกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของเธอ
พวกเขาล้วนเป็นสุดยอดฝีมือในขอบเขตจิตราชันและไร้เทียมทานในหัวเซี่ยเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะโกรธเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงในชุดขาวบอกให้พวกเขาออกไป
“ที่นี่คือภูเขาพยัคฆ์มังกรเจ้าเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าให้พวกเราต้องทำตาม ?” จ้าวหลิงหวังถามด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“อย่างเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้จักตัวตนของเราเราจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย จงออกไปจากที่นี่ซะ” ร่องรอยของการไร้ความอดทนปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอโบกมือขวาราวกับปัดแมลงวัน
แน่นอนว่าจ้าวหลิงหวังย่อมไม่ยอมจากไปเพราะเขาต้องการกระบี่แสงสีทองที่กองอยู่แทบเท้าของหญิงสาวในชุดขาวมันเป็นอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันที่ล้ำค่า
จ้าวหลิงหวังปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งและฟาดกระบี่ยาวของเขาใส่ผู้หญิงในชุดขาวทันที
ครืน!!!
กระบี่ฉีกท้องนภาและกวาดผ่านชั้นฟ้าทั้งหลายรวมไปถึงพื้นดิน
โลกทั้งใบมืดลงภายใต้การจู่โจมด้วยกระบี่ในมือของยอดฝีมือระดับจิตราชัน
ผู้หญิงในชุดขาวไม่ได้สนใจการโจมตีของจ้าวหลิงหวังแม้แต่น้อยในสายตาของเธอเขาเป็นเพียงแมลงวันที่น่ารำคาญตัวหนึ่ง