My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1109 ส่งคำเชิญแต่งงานไปทั่วโลก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1109 ส่งคำเชิญแต่งงานไปทั่วโลก
ตอนที่ 1109 ส่งคำเชิญแต่งงานไปทั่วโลก
“จ้าวเกอควงกระบี่ของนายหักไปแล้วจะใช้อะไรมาสู้กับฉันอีก ”
ฉิงเฟิงพูดด้วยความรังเกียจในขณะที่หัวเราะอย่างเยือกเย็น
จ้าวเกอควงเป็นคนของนิกายราชันกระบี่ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชากระบี่ดังนั้นเขาจะเก่งที่สุดยามโจมตีด้วยกระบี่ยาวคู่กาย
ตอนนี้กระบี่ยาวของเขาหักไปแล้วซึ่งเปรียบดั่งเสือที่ไร้เขี้ยวเขาสูญเสียพลังโจมตีไปมากกว่าครึ่งและย่อมไม่ใช่คู่มือฉิงเฟิง
“ฮึ่ม! แม้นกระบี่ข้าจะหัก แต่ข้าก็ยังมีเคล็ดบ่มเพาะพลัง” จ้าวเกอควงแสยะยิ้มเย้ยในขณะที่เขาโบกฝ่ามือขวาเข้าหาฉิงเฟิงโดยควบรวมพลังแท้ไปไว้ในนั้น
ถึงแม้ว่าจุดเด่นของจ้าวเกอควงจะเป็นศาสตร์กระบี่แต่เคล็ดบ่มเพาะของเขาก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ฝ่ามือของเขากางออกปิดบังดวงอาทิตย์และท้องฟ้า
ฉัวะ
!
ด้วยการพลิกข้อมือของเขาฉิงเฟิงสะบัดกระบี่แสงสีทองอีกคราด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบและตัดฝ่ามือของอีกฝ่ายก่อนที่ตอบสนองได้ทัน
โลหิตหลั่งไหลหลังจากฝ่ามือถูกฟันและกระดูกสีขาวที่อยู่ข้างใต้ก็เผยออกมาอย่างน่าหวาดผวา
อ้ากกกกก
!
จ้าวเกอควงปิดบาดแผลของเขาและส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นกระบี่ของฉิงเฟิงรวดเร็วมากจนเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะป้องกัน
“หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินไปนอกจากนี้… กระบี่แสงสีทองเล่มนั้นก็รวดเร็วยิ่งนัก แม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถป้องกันได้ !”
หลังจากที่คนอื่นๆเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้วยความหวาดผวา
ฉัวะฉัวะ ฉัวะ
!
หลังจากล้มจ้าวเกอควงในพริบตาฉิงเฟิงก็สะบัดกระบี่ออกไปอีกสามครั้งเข้าใส่ปิงซีเยว่ โซวพัวเทียนและฟู่โตวตี้
แม้ว่าทั้งสามคนจะเป็นยอดฝีมือในระดับครึ่งก้าวจิตราชันที่แข็งแกร่งยิ่งแต่บัดนี้ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่รับมือกับฉิงเฟิงที่เป็นดั่งปีศาจได้
กระบี่แสงสีทองเป็นอุปกรณ์จิตวิญญาณระดับราชันและเคล็ดวิชาแฝงในตัวกระบี่ก็เป็นระดับราชันเช่นกันซึ่งเป็นที่รู้จักกันในด้านความเร็วอันเหนือชั้น
ฉิงเฟิงไม่มีใครเทียบได้ในระดับครึ่งก้าวจิตราชันไปจนถึงจิตราชันขั้นที่หนึ่งในยามที่เขาใช้กระบี่แสงสีทองแม้ว่าคนอื่นๆจะอยู่ในระดับเดียวกับเขา แต่พวกเขาก็ไม่ถึงที่จะติดตามความเร็วของกระบี่แสงสีทองได้ทัน
“บ้าชัดๆหลี่ฉิงเฟิงไม่มีผู้ใดหยุดยั้งได้แล้วในขอบเขตครึ่งก้าวจิตราชัน”
คนอื่นๆโดยรอบต่างก็ตกใจเมื่อเห็นความแข็งแกร่งของเขา
หลังจากการต่อสู้ที่ภูเขาพยัคฆ์มังกรสิ้นสุดลงหลี่ฉิงเฟิงเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในโลกผู้ฝึกตนอีกขั้น เขาได้รับความสนใจและความชื่นชมจากหลายๆคน
หลังจากสยบรุ่นฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งหมดฉิงเฟิงก็ลงจากเขาพร้อมกับเชาเฟิ่งอู่ ดราก้อนคิงและเย่หงตี้ พวกเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และกลับมาที่หัวเซี่ยหลังจากไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
…………………..
ที่เมืองตงไห่,หัวเซี่ย
เมื่อกลับมาถึงฉิงเฟิงก็อำลาเชาเฟิ่งอู่และคนอื่นๆ จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับบ้าน
หลินเสวี่ยยังคงนั่งรอฉิงเฟิงด้วยใบหน้าที่เย็นชาผิวขาวละเอียดอ่อนเธอนั่งรอเขาอย่างใจจดใจจ่อมาตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง
ลูกหมาสีดำก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันมันจ้องมองไปที่หลินเสวี่ยด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อยเพราะเธอไม่มีกะใจจะทำอาหารให้มันกิน
เมื่อฉิงเฟิงเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นและได้เห็นหน้าเศร้าๆของลูกหมาสีดำเขาก็โกรธไม่น้อยแต่พยายามควบคุมอาการไว้เพราะเห็นแก่หลินเสวี่ย
“ที่รักพวกเราจะแต่งงานกันในอีกสองวัน ทุกอย่างพร้อมไหม ” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่เดินไปโอบเอวเรียวบางของหลินเสวี่ย
ใบหน้าของหลินเสวี่ยเริ่มแดงจากการถูกฉิงเฟิงสัมผัสเธอกล่าวว่า “ไม่พร้อมเท่าไหร่ ชั้นกำลังรอให้คุณกลับมาก่อน ชั้นต้องการความเห็นของคุณ”
งานแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่และเนื่องจากพวกเขาก็เป็นสามีและภรรยากันอยู่แล้วหลินเสวี่ยคิดว่าเธอจำเป็นต้องปรึกษาฉิงเฟิงก่อนที่จะตัดสินใจเตรียมงาน ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยนั่งลงบนโซฟาด้วยกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของงานแต่งงาน
สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือตัดสินใจร่วมกันว่าจะจัดงานแต่งงานที่ไหนดีทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะจัดงานบนเกาะนอกประเทศ แต่ฉิงเฟิงไม่ต้องการอะไรแบบนั้น
เขาเป็นชาวหัวเซี่ยและต้องการจัดงานแต่งงานในประเทศบ้านเกิดของเขามีสถานที่มากมายในหัวเซี่ยรวมไปถึงเมืองใหญ่ๆ เช่นเมืองหลวงจิงและเมืองเทียนจิน
อย่างไรก็ตามเมืองเหล่านี้อยู่ไกลจากที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ ทั้งสองปรึกษากันอยู่นานและเห็นตรงกันว่าพวกเขาจะจัดงานที่นี่ เมืองตงไห่
ถึงแม้ว่าเมืองตงไห่จะมีความเจริญน้อยกว่าเมืองอื่นๆแต่มันก็อยู่ใกล้กับบ้านของพวกเขานอกจากนี้ทั้งญาติสนิทและเพื่อนฝูงส่วนมากของพวกเขาก็อาศัยอยู่ที่นี่เช่นกัน
ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยพูดถึงโรงแรมจัดงานหลายแห่งก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำเลที่โรงแรมจาง
จางแกรนด์โฮเต็ลเป็นโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองตงไห่ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมระดับสูงสุด
แน่นอนว่าฉิงเฟิงย่อมเห็นด้วยสำหรับสถานที่นี้แน่นอนเพราะมันเป็นโรงแรมในอำนาจและดำเนินงานโดยจางเทียนชี่ผู้นับได้ว่าเป็น ‘น้องเล็ก’ ของเขา (คุณชายตระกูลจางที่เจี๊ยวเล็กๆท่าทางตุ๊ดโดนดูถูก สุดท้ายฉิงเฟิงฝังเข็มรักษาให้)
ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาจางเทียนชี่ในทันทีและแจ้งอีกฝ่ายว่าเขาต้องการจัดงานแต่งงานกับหลินเสวี่ยที่โรงแรมจางในอีกสองวัน
จางเทียนชี่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดฉิงเฟิงเขาเป็น “น้องชายคนเล็ก” ที่ซื่อสัตย์ที่สุดคนหนึ่งของฉิงเฟิง
มันนานมากแล้วที่ฉิงเฟิงไม่ได้โทรหาจางเทียนชี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจที่ฉิงเฟิงยังเลือกใช้โรงแรมของเขาเป็นสถานที่จัดงาน
จางเทียนชี่สัญญากับฉิงเฟิงว่า“พี่เฟิง พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น โรงแรมจางของผมจะปิดให้บริการเพื่อเตรียมงานของพี่กับพี่สะใภ้เท่านั้นในช่วงสองวันนี้”
ฉิงเฟิงนัดแนะกับจางเทียนชี่อีกเล็กน้อยและวางสายไปหลังจากนั้นเขาก็เริ่มวางแผนอื่นๆเช่นเช่าชุดแต่งงานและแผนกต้อนรับ
ฉิงเฟิงรู้สึกว่าเขาจะต้องส่งคำเชิญและซื้อชุดแต่งงานด้วยตัวเองส่วนเรื่องอื่นๆเช่นของชำร่วย บุหรี่ เหล้า เบียร์ ซิการ์นั้นเขาโทรหาทีมเขี้ยวหมาป่าและให้พวกนั้นเป็นคนจัดการ
ฉิงเฟิงตั้งข้อกำหนดเพียงข้อเดียวเท่านั้นในการให้ทีมเขี้ยวหมาป่าเตรียมสิ่งของนั่นก็คือของที่ซื้อมาใช้ในงานต้อง ‘ดีที่สุด’ ซึ่งมันก็มีค่าใช้จ่ายถึง100ดอลล่าร์(ประมาณ3000บาท) ต่อของชำร่วยหนึ่งชิ้น, 10000 ดอลลาร์สำหรับซิการ์ที่ดีที่สุดในโลกและ20000 ดอลลาร์ต่อไวน์ขั้นเทพหนึ่งขวด
ฉิงเฟิงโอนเงินร่วมหมื่นล้านดอลลาร์ให้ลู่ซวนจี๋และกำชับให้เขาจัดการให้ดีจากนั้นเขากับหลินเสวี่ยก็ไปเข้านอน
……………………
วันถัดมาพระอาทิตย์กำลังส่องแสง
ฉิงเฟิงตื่นแต่เช้าและออกไปแจกการ์ดเชิญสถานที่แรกที่เขาไปก็คือบ้านของพ่อตาแม่ยาย
เขามอบสินสอดให้พ่อตาของเขา,หลินซื่อ สองหมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งทำให้หลินซื่อมีความสุขและยิ้มจนแก้มปริ เขาเอ่ยปากชมไม่หยุดว่าฉิงเฟิงเป็นลูกเขยที่ดีเลิศ
ย้อนกลับไปตอนที่ฉิงเฟิงกวาดล้างตระกูลหวังเขาได้แบล็กเมล์สี่ตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงจิงได้เงินมานับแสนล้าน นอกจากนั้นยังมีเงินที่ได้รับเป็น ‘ค่าทำขวัญ’ จากกองกำลังทรงพลังอื่นๆที่เขาเคยมีเรื่องอีกด้วย ทำให้ทรัพย์สินในโลกฆราวาสของฉิงเฟิงมีมากมายมหาศาลซึ่งเกินพอแล้วสำหรับงานแต่งงานของเขา
หลังจากนั้นฉิงเฟิงก็เดินไปที่ตระกูลหลี่ที่เมืองหลวงจิงเพื่อส่งการ์ดเชิญหัวหน้าตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวงคนปัจจุบันก็คือหลี่เหมยเอ๋อร์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา เมื่อเธอเห็นฉิงเฟิงเธอก็ยินดีเป็นอย่างมากและยืนยันว่าตระกูลหลี่จะไปร่วมงานและมอบของขวัญให้แน่นอน
ฉิงเฟิงออกจากตระกูลหลี่หลังจากพูดคุยกับญาติๆไม่นานเพื่อมอบการ์ดเชิญให้ลุงป้าน้าอาที่เหลือของเขาหลังจากแจกการ์ดเชิญบรรดาญาติจนครบหมดแล้วเขาก็ไล่โทรหาเพื่อนทั่วโลกทีละคน
สายแรกที่เขาโทรไปเชิญก็คือประธานาธิบดีของทวีปหมาป่า(แอฟริกา) ฉิงเฟิงบอกแก่ประธานาธิบดีว่างานแต่งงานของเขาจะจัดขึ้นในอีกสองวันและประธานาธิบดีตอบรับอย่างหนักแน่นว่าเขาจะมาเยือนหัวเซี่ยแน่นอน ฉิงเฟิงเป็นราชันหมาป่าและราชันแห่งโลกใต้ดินมาก่อนเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนมากมายในทวีปหมาป่า พวกเขาทั้งหมดต่างตอบรับและจะมางานแต่งงานของเขาแน่นอน
สายที่สองเขาโทรหาราชินีแห่งประเทศอังกฤษ
สายที่สามโทรหาแคทเธอรีนผู้ดูแลแห่งโลกใต้ดินเธอเป็นผู้จัดการของอารีน่าโลกใต้ดินและยังเป็นเพื่อนที่ดีของฉิงเฟิงมาโดยตลอด
หลังจากนั้นฉิงเฟิงยังติดต่อโพไซดอนหัวหน้ากลุ่มเทพสมุทรผู้ภักดี,ไมเคิล เดอซานต้า บุคลที่แข็งแกร่งที่สุดของอเมริกา, แชมป์มวยไทยกัวซื่อเว่ยและชาโต้ โยชิโกะ จ้าวนิกายตระกูลนินจาคนปัจจุบัน
บรรดายอดฝีมือทั่วทุกมุมโลกต่างรับได้ข่าวของหลี่ฉิงเฟิงเกี่ยวกับงานแต่งงานของเขามันคืองานระดับโลกอย่างแท้จริง !