My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1111 ขบวนรับตัวเจ้าที่ไม่ธรรมดา
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1111 ขบวนรับตัวเจ้าที่ไม่ธรรมดา
ตอนที่ 1111 ขบวนรับตัวเจ้าที่ไม่ธรรมดา
“เมิ่งเหยาเธอ…ร้องไห้….. ” ฉิงเฟิงถอนริมฝีปากออกจากการจูบกับซูเมิ่งเหยา
เขารู้สึกไม่ดีอย่างมากที่ได้เห็นน้ำตาของซูเมิ่งเหยาความยุ่งเหยิงระหว่างความรักและความเกลียดชังของเขากับสาวงามผู้บังคับใช้กฎหมายคนนี้เกิดขึ้นเสมอ ความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนมักจะทำให้เขารู้สึกหนักอึ้งในใจเสมอ
“หลี่ฉิงเฟิงคุณไปได้แล้ว หลินเสวี่ยกำลังรอคุณอยู่” ซูเมิ่งเหยาเช็ดน้ำตาของเธอ เธอไม่ต้องการให้ฉิงเฟิงเห็นความอ่อนแอ
“เมิ่งเหยาดูแลตัวเองด้วย” ฉิงเฟิงถอนหายใจและออกจากร้านกาแฟไปด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง
สถานการณ์ในขณะนี้ของฉิงเฟิงนั้นตรงกับเพลงที่ชื่อว่า‘Say Good-bye to Cambridge Again’ เมื่อมองดูจากฉิงเฟิงจากไปซูเมิ่งเหยาก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เธอตกหลุมรักใครบางคนที่เธอไม่ควรรัก…
……
เมื่อฉิงเฟิงกลับมาถึงวิลล่า13 เขาก็เห็นว่าหลินเสวี่ยกำลังคุยโทรศัพท์กับแม่ของเธอ, มู่เสี่ยวหยุน
งานแต่งงานใกล้เข้ามาแล้วและหลินเสวี่ยก็วิตกกังวลเล็กน้อยความวิตกกังวลก่อนแต่งงานของเธอเป็นจริงอย่างแน่นอน
เธอมีความกลัวที่อธิบายไม่ได้ต่อการแต่งงานอาจเป็นเพราะว่าเธอเคยเกือบจะต้องเสียชีวิตก่อนงานแต่งงานครั้งที่แล้วของเธอ
เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกเป็นกังวลและหวาดกลัวต่องานแต่งงานที่กำลังจะมาถึงเช่นกันนี่คือเหตุผลที่เธอตัดสินใจโทรหาแม่ของเธอ
ทันทีที่เธอเห็นฉิงเฟิงกลับบ้านเธอก็รีบวางสายทันทีเพราะไม่ต้องการให้เขาเห็นความกลัวของเธอ
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงได้ยินทุกสิ่งที่พวกเธอกำลังคุยกันตั้งแต่นอกประตูบ้านแล้ว
เขาเดินไปใกล้ๆและนั่งลงข้างๆเธอพร้อมทั้งกล่าวว่า“คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมทำทุกอย่างให้แน่ใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะไม่มีใครหน้าไหนมารบกวนงานแต่งงานของพวกเราได้”
หลินเสวี่ยพยักหน้า,ใบหน้าที่งดงามของเธอมองดูมีความสุข เธอเชื่อมั่นในตัวฉิงเฟิงหมดทั้งใจ หากเขาบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ต้องเป็นเช่นนั้น
เมื่อถึงเวลา4 ทุ่ม พ่อแม่ของหลินเสวี่ยก็มารับเธอกลับไปที่บ้าน มันเป็นประเพณีสำหรับเจ้าสาวที่จะต้องอยู่บ้านพ่อแม่ของพวกเธอในคืนก่อนงานแต่งงาน
ก่อนที่หลินซื่อและมู่เสี่ยวหยุนจะกลับไปพวกเขาทั้งสองกำชับฉิงเฟิงว่าให้ไปรับเจ้าสาวตอน 8 โมงเช้า
หลังจากทุกคนออกไปก็เหลือฉิงเฟิงเพียงคนเดียวในห้องเพราะแม้แต่เหมียวซิยี้และลูกหมาสีดำก็ตามหลินเสวี่ยกลับบ้านพ่อแม่เพื่อคอยปกป้องเธอ
ฉิงเฟิงยืนอยู่ในห้องเพียงลำพังด้วยอารมณ์ความรู้สึกเขาคิดถึงอดีตและพ่อแม่ของเขา
พ่อของเขาได้จากไปยังพิภพใหญ่ทั้งสามพันเพื่อตามหาแม่ของเขาดังนั้นจึงไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานได้ ความเสียใจที่ใหญ่หลวงที่สุดของฉิงเฟิงในวันสำคัญของเขาก็คือไร้ซึ่งพ่อแม่มาเป็นผู้ใหญ่ในงาน
เขาโรยตัวล้มลงนอนบนเตียงและไม่สามารถข่มตาหลับได้หัวใจของเขาเต้นแรงไม่หยุดด้วยความตื่นเต้นกับงานแต่งงานของตนเองและหลินเสวี่ย
……..
วันรุ่งขึ้นพระอาทิตย์ขึ้นส่องแสงสว่างบนโลกมันเป็นสภาพอากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับพิธีแต่งงาน สมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดมาถึงวิลล่าของฉิงเฟิงแต่เช้าพวกเขาต้องเดินทางพร้อมกับฉิงเฟิงเพื่อไปรับตัวเจ้าสาว
โดยปกติแล้วเจ้าสาวจะถูกรับตัวด้วยทีมงานและรถ10 คันซึ่งหมายถึงโชคลาภที่สมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตามทีมของฉิงเฟิงเล่นใหญ่กว่านั้นขบวนประกอบไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ห้าลำตามด้วย Rolls Royces ห้าคัน เครื่องบินนำทางและตามมาด้วยขบวนรถอย่างใกล้ชิด
“นี่งานแต่งงานของใครกัน เจ้าบ่าวถึงขนาดใช้เฮลิคอปเตอร์ !?”
“ว้าวนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเคยเห็น มีคนใช้เฮลิคอปเตอร์มารับตัวเจ้าสาวของเขา และยังตามมาด้วย Rolls Royces ถึงห้าคัน จัดใหญ่ขนาดนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 100 ล้าน !”
“ถูกต้องมูลค่าขบวนรับตัวเจ้าสาวร่วม 100 ล้านเลย”
ผู้คนบนท้องถนนตกตะลึงไปด้วยขบวนรับตัวเจ้าสาวที่ฟุ่มเฟือยขนาดนี้
พวกเขาไม่เคยเห็นงานแต่งงานที่น่าประทับใจเช่นนี้มาก่อนไม่เพียงแค่วัยรุ่นจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้มีอายุก็ตกใจเช่นกัน
ผู้คนที่เดินไปเดินมาบนท้องถนนต่างก็ถอยไปข้างทางอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกทางให้ทีมรับตัวเจ้าสาวด้วยเฮลิคอปเตอร์และRolls Royces
ทันทีที่พวกเขาเห็นRolls Royces ผู้คนรู้ว่าทีมรับตัวเจ้าสาวต้องมีเบื้องหลังทรงอำนาจอย่างยิ่ง พวกเขาไม่กล้าเข้าไปขวางทางแม้แต่น้อย
ฉิงเฟิงนั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำแรกนำทีมเจ้าบ่าวไปยังบ้านพ่อตาของเขา
ยี่สิบนาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงบ้านของหลินซื่อมันเป็นวิลล่าสามชั้นและหรูหรามาก
ฉิงเฟิงสั่งให้เฮลิคอปเตอร์บินวนไปรอบๆวิลล่าสามครั้งตามด้วยรถยนต์บนภาคพื้นดินในที่สุดยานพาหนะทั้งหมดก็มาจอดที่ด้านหน้าของวิลล่า
ในขณะนี้หลินเสวี่ยกำลังอยู่ในวิลล่าและได้รับการดูแลจากคนสามคนพวกเธอคือแม่ของเธอ มู่เสี่ยวหยุน, จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยอวานชิว
ผู้หญิงสองคนหลังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉิงเฟิงในบริษัทพวกเธอไม่เพียงแค่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุด แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตจริงเช่นกัน
วันนี้หลินเสวี่ยดูสวยเป็นพิเศษโดยปกติเธอจะไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตัวมากนัก แต่วันนี้เป็นวันพิเศษและสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ เธอใช้ความพยายามอย่างมากให้ตนเองดูน่ารักเพื่องานแต่งงานวันนี้
แก้มของเธอถูกเคลือบด้วยบลัชออนสีชมพูอ่อนๆทำให้เธอดูสวยขึ้นราวกับว่าเธอเป็นดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่ง
ดวงตาสุกใสของเธอเหมือนไข่มุกที่เปล่งประกายระยิบระยับริมฝีปากนุ่มนวลของเธอแดงเหมือนลูกเชอร์รี่ที่ถูกทาทับด้วยลิปสติกสีชมพูเปล่งกลิ่นหอมเย้ายวนและทำให้ผู้คนหิวกระหายในรสหวาน
ผมยาวที่ดำขลับของเธอถูกรวบไว้ในปิ่นปักผมรูปฟีนิกซ์โดยมีดอกลิลลี่แซมอยู่ด้านบน
ดอกลิลลี่ไม่ใช่ดอกไม้จริงแต่ทำมาจากเพชรที่ร้อยเรียงกันโซ่รูปดอกลิลลี่ เพชรเหล่านี้เป็นเพชรที่ดีที่สุดจากทวีปหมาป่าทางตอนใต้ ทุกเม็ดเป็นของจริงและมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์
ดอกลิลลี่หมายถึงการครองคู่ที่ยั่งยืนตลอดกาลและเพชรบ่งบอกถึงความรักอันเป็นนิรันดร์
เพชรเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ใดมีเพชรที่นั่นย่อมมีรักแท้ หินชนิดนี้(เพชร)เป็นตัวแทนของความรักนิรันดร์ของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงของเขาเช่นเดียวกับแสงที่ส่องประกายเจิดจ้าเป็นนิรันดร์ของเพชร
นอกเหนือจากเพชรดอกลิลลี่บนผมของเธอเธอยังใส่ตุ้มหูมุก สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ไข่มุกสามัญธรรมดาแต่เป็นไข่มุกพันปีที่เคยถูกใช้สวมใส่โดยจักรพรรดินีบูเช็กเทียนและจักรพรรดินีหยางยาน (อดีตภรรยาของสุมาเอี๋ยนลูกชายสุมาเจียวหลานสุมาอี้ในสามก๊ก) หลังจากฉิงเฟิงได้สมบัตินี้มาเขาก็มอบให้หลินเสวี่ย เธอจึงใช้มันในงานแต่งงานวันนี้
หลินเสวี่ยสวมชุดแต่งงานสีขาวมันเป็นชุดแต่งงานฝังเพชรที่เป่ยเหยียนจื่อมอบเป็นของขวัญให้พวกเขาทั้งสอง
ในชุดแต่งงานล้ำค่าชุดนี้ทำให้รูปร่างที่สง่างามของหลินเสวี่ยดูงดงามและเลอค่ายิ่งขึ้นไปอีก
“พี่สาวเสวี่ยวันนี้คุณงดงามมากๆ” เหมียวซิยี้เอ่ยชมหลินเสวี่ยด้วยรอยยิ้ม
ตัวเธอเองก็นับว่าเป็นสวยงามที่งามเลิศเธอเป็นนักบุญของเหมียวเจียงทำให้มีออร่าแห่งความบริสุทธิ์ธรรมดาไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตามต่อหน้าหลินเสวี่ยในวันนี้ความงามของเธอถูกรัศมีของหลินเสวี่ยบดบังจนหมด คำชมเชยของเหมียวซิยี้ทำให้หลินเสวี่ยเขินอายเธอยิ้มรับเล็กน้อยในขณะที่ใจเต้นแรงไม่หยุดด้วยความรู้สึกตื่นเต้นมาก