My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1112 เจ้าสาว, หลินเสวี่ย
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1112 เจ้าสาว, หลินเสวี่ย
ตอนที่ 1112 เจ้าสาว, หลินเสวี่ย
“ซิยี้,ฉิงเฟิงมาหรือยัง ” หลินเสวี่ยถามเหมียวซิยี้
ถึงแม้ว่าเธอกับฉิงเฟิงจะมีทะเบียนสมรสด้วยกันแล้วแต่มันเป็นเชิงกฎหมายเท่านั้นพวกเขายังไม่เคยได้จัดงานแต่งงานกันแบบสามีภรรยาจริงๆ
พูดอย่างเจาะจงนี่เป็นครั้งแรกที่หลินเสวี่ยเข้าพิธีแต่งงานสิ่งสำคัญที่สุดสองอย่างในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งก็คือการแต่งงานและให้กำเนิดทายาท
นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญสิ่งแรกของหลินเสวี่ยเธอต้องการให้ฉิงเฟิงได้เห็นเธอที่สวยที่สุด
“พี่สาวเสวี่ยฉันเพิ่งได้ยินว่านายท่านและทีมเจ้าบ่าวของเขาอยู่นอกประตูแล้ว”
เหมียวซิยี้กล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ครืน~
หลินเสวี่ยได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอกเธอถามว่า “เสียงที่ดังมาจากข้างนอกนั่นคืออะไร ”
เหมียวซิยี้เดินออกไปดูข้างนอกเธอกลับมาและแจ้งต่อหลินเสวี่ยว่า “พี่สาวเสวี่ย นั่นเป็นเสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่จะไปรับตัวคุณในวันนี้ นายท่านได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ห้าลำและRolls Royces ห้าคัน”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเหมียวซิยี้หลินเสวี่ยก็ดูมีความสุขมาก
เธอรู้ว่าฉิงเฟิงเตรียมงานแต่งงานระดับโลกให้เธอแต่เธอก็คาดไม่ถึงว่าจะเซอร์ไพรส์ขนาดนี้
เธอรู้ว่าเธอเป็นเจ้าสาวคนแรกในหัวเซี่ยที่ถูกเจ้าบ่าวรับตัวด้วยเฮลิคอปเตอร์มันเป็นเกียรติต่อตัวเธอมาก
ในหัวเซี่ยเมื่อเจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวที่บ้านพ่อแม่ของเธอมันเป็นประเพณีสำหรับฝ่ายชายที่จะต้องแจกซองแดง คนปกติทั่วไปมักจะแจกซองแดงกันประมาณ 500 ถึง 1000 หยวน แต่ฉิงเฟิงแจกถึงซองละ10000-20000 หยวน
เพื่อนฝูงและบรรดาญาติของหลินเสวี่ยทุกคนต่างก็ดีใจที่ได้รับซองแดงมูลค่าสูงจากฉิงเฟิง
คนที่ได้รับซองแดงใส่เงิน20,000 หยวนขบคิดในใจว่าถ้าหากฉิงเฟิงแต่งงานสองครั้งเขาคงกลายเป็นเศรษฐี !
หลังจากแจกซองแดงเสร็จแล้วเขาก็เดินไปที่ห้องเจ้าสาว
ทันทีที่เห็นหลินเสวี่ยฉิงเฟิงก็ชะงักงันและตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
สวยเหลือเกินหลินเสวี่ยวันนี้สวยที่สุด ความงามของเธอเปรียบได้กับจักรพรรดินีนกยูงปีศาจแห่งภูเขาพยัคฆ์มังกร
เมื่อเห็นแววตาตกตะลึงของฉิงเฟิงหลินเสวี่ยก็ก้มหัวน้อยๆของเธอด้วยความประหม่า ใบหน้าของเธอแดงก่ำและหัวใจของเธอเริ่มเต้นแรง
หากคนนอกได้เห็นการแสดงออกในตอนนี้ของหลินเสวี่ยพวกเขาจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน
โดยปกติแล้วเธอเป็นราชินีในโลกธุรกิจของเมืองตงไห่เธอเป็นเทพธิดาที่เยือกเย็น เย็นชาที่แสนทรงเสน่ห์ เธอไม่เคยแสดงความเขินอายให้ใครได้เห็น เธอเย็นชาอย่างที่เธอเป็น แต่ตอนนี้ ต่อหน้าฉิงเฟิงเธอกลับกลายเป็นหญิงสาวน่ารักที่ขี้อาย
“ที่รัก..วันนี้คุณสวยมาก สวยกว่านางฟ้าเสียอีก ผมกำลังจะตาบอดจากความงามที่เจิดจ้าของคุณแล้ว” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างหลงใหล ดวงตาของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความรักถนอม
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาหลินเสวี่ยก็ก้มหัวลงต่ำกว่าเดิม เธอเขินอายเกินกว่าจะมองหน้าฉิงเฟิง แม้แต่ใบหูของเธอก็ยังแดงก่ำราวกับว่าเธอกำลังมึนเมาจากไวน์รสเลิศ
จางเสี่ยวเยวี่ยและเซี่ยอวานชิวต่างก็มองทั้งคู่ด้วยความอิจฉาพวกเธอขบคิดในใจว่า “จะดีแค่ไหนถ้าฉิงเฟิงพูดแบบนี้กับพวกเธอบ้าง” “
หน้าด้าน
,
เจ้าพร่ำเพ้อคำพูดหวานเลี่ยนเช่นนี้ออกได้อย่างไร
“
ลูกหมาสีดำกล่าวกับฉิงเฟิงทางจิตและมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกหมาสีดำดวงตาของฉิงเฟิงก็ดูเย็นชา เจ้าหมาบ้านี่ชอบสอดช่วงสำคัญตลอด
เขาเหยียดเท้าขวาออกไปเตะมันจนกลิ้งและร้องด้วยความเจ็บปวดหลินเสวี่ยกำลังก้มหัวอยู่จึงไม่เห็นและห้ามไม่ทัน
“ไอ้หมาน้อยวันนี้เป็นวันแต่งงานแห่งความสุขของฉันกับหลินเสวี่ย ถ้าแกพร่ำไร้สาระมากกว่านี้ฉันจะฆ่าแก อยู่ให้เรียบๆร้อยๆเลย”
ฉิงเฟิงขู่อย่างเย็นชาผ่านทางจิต เมื่อเห็นดวงตาที่เย็นชาของฉิงเฟิงลูกหมาสีดำก็หุบปากสนิทอย่างรวดเร็ว
มันรู้ว่าฉิงเฟิงกำลังโมโหถ้าหากอีกฝ่ายโกรธขึ้นมาจริงๆมันอาจจะโดนทุบตีได้
ฉิงเฟิงเหยียดมือออกไปและโอบเอวเพียงหยิบมือเดียวของหลินเสวี่ยเขาอุ้มเธอขึ้นและเดินออกไปข้างนอก
แปะแปะ แปะ แปะ !
ทุกคนปรบมือให้กับคู่รักหนุ่มสาวคู่นี้อย่างมีความสุข
ฉิงเฟิงอุ้มหลินเสวี่ยขึ้นเฮลิคอปเตอร์เขายิ้มและพูดว่า “ที่รัก วันนี้ผมจะพาคุณขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อที่คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ของเมืองตงไห่ทั้งหมด”
หลินเสวี่ยพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเขินอายเธอฝังตัวเองไว้ในอ้อมอกของฉิงเฟิง เธออายเกินกว่าจะเสนอหน้า
ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยบินไปรอบๆเมืองตงไห่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ลำแรกและตามมาด้วยเฮลิคอปเตอร์อีกสี่ลำกับRolls Royces ห้าคัน
เฮลิคอปเตอร์บินวนรอบเมืองตงไห่สามครั้งผ่านบริษัท Ice Snow ของพวกเขา, Noble Palace, TV Tower และสถานที่อื่นๆที่สำคัญทั้งหมดจนในที่สุดก็ลงจอดที่โรงแรมจาง
มีคนมากมายรวมตัวกันที่หน้าโรงแรมจางคนเหล่านี้ไม่ใช่ครอบครัวหรือเพื่อนของฉิงเฟิง
ครอบครัวและเพื่อนฝูงของเขาเข้าไปในโรงแรมแล้วผู้คนที่รวมตัวกันด้านนอกเป็นนักข่าวจากทั่วทุกมุมโลก
ฉิงเฟิงเชื้อเชิญทุกคนที่มีชื่อเสียงและยอดฝีมือทั่วโลกที่เขารุ้จักและมีมิตรภาพต่อกัน
ข่าวการแต่งงานของฉิงเฟิงแพร่กระจายไปทั่วโลกผู้สื่อข่าวจากทุกประเทศแห่เข้ามาในบริเวณนอกงานจนครอบคลุมทั่วโรงแรม
มีผู้สื่อข่าวจากกรุงมอสโก,ปารีส,อเมริกา, เกาะแปซิฟิกและประเทศอื่นๆ นับรวมได้ถึงหลายร้อยชีวิต
นอกเหนือจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศเหล่านี้ก็ยังมีคนอื่นๆอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นคนจากเมืองหลวงจิง เมืองเทียนจิน เมืองเทียนจิงและเมืองตงไห่ แม้แต่สถานีโทรทัศน์หลักและเครือข่ายก็ยังมา บริษัทผลิตสื่อขนาดใหญ่เช่น Tencent, Sina Corp, Sohu และสื่ออื่นๆที่สำคัญล้วนมาร่วมงานด้วย (บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน)
ที่โรงแรมจางมีหน้าจอLCD ขนาดใหญ่ร่วม 100 ตารางเมตรที่หน้าทางเข้า
ลู่ซวนจี๋ยืนอยู่หน้าจอLCD และถือไมโครโฟนไว้ในมือ เมื่อแขกมาถึงชื่อของพวกเขาจะปรากฏบนหน้าจอ กระบวนการนี้ถ่ายทอดสดไปทั่วทุกมุมโลกซึ่งทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างก็ได้เห็น
“ประธานสมาคมโบราณวัตถุของเมืองตงไห่ซูหยุนชางมาถึงแล้ว”
ลู่ซวนจี๋เริ่มออกไมค์ประกาศเมื่อชายชราในชุดสูทคนหนึ่งเดินมาถึง
ซูหยุนชางยิ้มเล็กน้อยในขณะที่เขามอบแจกันล้ำค่าจากราชวงศ์ถังเป็นของขวัญแต่งงาน
แจกันจากราชวงศ์ถังนั้นล้ำค่าอย่างมหาศาลและไม่อาจประเมินมูลค่าได้มันเป็นสมบัติที่ซูหยุนชางเก็บรักษาไว้นานกว่าสิบปี
อย่างไรก็ตามเพื่อฉิงเฟิงแล้วซูหยุนชางยินดีมอบมันเพื่อเป็นของขวัญแต่งงาน เห็นได้ชัดว่าประธานสมาคมวัตถุโบราณผู้สูงศักดิ์คนนี้มองฉิงเฟิงสำคัญเพียงใด
“ท่านประธานซูแค่ท่านมาร่วมงานผมก็ยินดีมากแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องนำของขวัญล้ำค่าขนาดนี้มาให้ผมก็ได้” ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขายิ้มอย่างสุภาพ
ซูหยุนชางพยักหน้าและพูดว่า“งานแต่งงานของเธอเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับฉัน”
หลังจากที่พวกเขาพูดคุยกันสักพักฉิงเฟิงก็พาซูหยุนชางเข้าไปในงาน