My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1115 คำสาปมรณะ !

ตอนที่ 1115 คำสาปมรณะ !
　　ขณะที่ผู้ชายกำลังสูบบุหรี่และดื่มเหล้าอย่างสุขีสาวๆก็แฮปปี้ในแบบของพวกเธอเช่นกันเพราะฉิงเฟิงได้เตรียมไวน์ Rafi 1984 มาให้แขกผู้หญิงโดยเฉพาะ
　　ไวน์แดงRafi เหล่านี้ล้วนแต่นำมาโดยเบอร์นาร์ด ชายผู้ยิ่งใหญ่จากปารีสประเทศฝรั่งเศส
　　เบอร์นาร์ดเป็นเจ้าของโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสเพื่องานแต่งงานของฉิงเฟิง เขาได้นำไวน์ที่ดีที่สุดของเขามาให้
　　ไวน์แดงชนิดนี้หาได้ยากมากในโลกนี้มีเพียงผู้มีชื่อเสียงและผู้ทรงอำนาจเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ ต่อให้มีเงินมากมายเท่าใดก็ไม่สามารถซื้อไวน์ชนิดนี้ได้
　　เบอร์นาร์ดได้เก็บไวน์นี้ไว้ในคอลเล็กชั่นของเขามานานหลายสิบปีแต่สำหรับงานแต่งงานของวูฟคิง เขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะนำมันออกมา ท้ายที่สุดแล้วหากไม่ใช่เพราะวูฟคิงเขาคงตายไปนานแล้ว
　　เหล่าสาวๆไม่เคยดื่มได้ไวน์แดงแสนเลิศรสเช่นนี้มาก่อนตลอดชีวิตใบหน้าของพวกเธอแดงก่ำจากรสชาติของมันและความตื่นเต้น
　　“ฉันเคยไปงานแต่งงานหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้ดื่มไวน์รสเลิศเช่นนี้มาก่อน”
　　“ใช่นี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นที่ได้ดื่มไวน์อร่อยขนาดนี้เช่นกัน”
　　“นี่คือไวน์แดงของปี1984 ซึ่งเป็นไวน์แดงที่ดีที่สุดของทั้งหมด”
　　“ฉันมีความสุขมากเลยวันนี้ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีบุญได้ดื่มไวน์แดงในตำนาน !”
　　ผู้หญิงทุกคนพูดคุยแสดงความคิดเห็นด้วยความรู้สึกพึงพอใจและสนุกสนานอย่างยิ่ง
　　สำหรับผู้หญิงทั้งหมดในงานฉิงเฟิงเป็นเหมือนอัศวินในชุดเกราะที่กำลังส่องแสง เว้นแต่ว่าเขาเป็นอัศวินของหลินเสวี่ย ไม่ใช่พวกเธอ
　　ฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยเดินไปชนแก้วกับแขกเหรื่อทีละโต๊ะซึ่งทำให้งานเลี้ยงดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นทุกคนต่างดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าและมีความสุขกับงานอย่างมาก
　　หลังจากที่ทั้งคู่ดื่มด่ำกับทุกโต๊ะพิธีแต่งงานก็สิ้นสุดลง งานแต่งงานที่มีชื่อเสียงในระดับโลกได้จบลงอย่างประสบความสำเร็จ
　　จากนั้นฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยก็กลับมาถึงบ้านด้วยเฮลิคอปเตอร์
　　เรือนหอของพวกเขาก็คือห้องนอนของหลินเสวี่ยมันได้รับการตกแต่งให้มีความรื่นเริงมากขึ้นด้วยตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่บนผนัง หมอนและผ้าห่มลายนกฟีนิกซ์บนเตียงซึ่งเป็นสีแดงทั้งหมด บนผนังแขวนสายตะเกียงทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและสบาย
　　ห้องหับเต็มไปด้วยเหล่าเพื่อนฝูงและครอบครัวทุกคนพวกเขามาที่นี่ให้กำลังใจในค่ำคืนแรกของพวกเขาในฐานะคู่บ่าวสาว
　　“บอสๆมานี่ครับ มากินแอปเปิ้ล” ลู่ซวนจี๋กล่าวกับฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยในขณะที่ถือแอปเปิ้ลผูกเชือก
　　ฉิงเฟิงนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของเตียงแต่งงานและหลินเสวี่ยนั่งทางขวาใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธอเป็นสีแดงก่ำจากความประหม่า
　　ภายใต้การส่งเสียงเชียร์ของทุกคนฉิงเฟิงกับหลินเสวี่ยก็เข้าไปเล่นเกมกัดแอปเปิ้ลผูกเชือก
　　ระหว่างที่พวกเขากำลังกัดแอปเปิ้ลลู่ซวนจี๋ก็รีบยกแอปเปิ้ลหนีอย่างรวดเร็ว
　　งานฉลองสังสรรค์ในห้องแต่งงานดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยมีทีมเขี้ยวหมาป่าและทุกคนในครอบครัวรวมไปถึงเพื่อนสนิทคอยส่งเสียงเชียร์ทุกคนต่างดูมีความสุขยิ่งกว่าถูกหวยเสียอีก
　　เนื่องจากว่าโดยปกติแล้วฉิงเฟิงเป็นหัวหน้าของพวกเขาแต่คืนนี้ในที่สุดพวกเขาก็สบโอกาสหยอกล้อเล่นหัวบอสของพวกเขาได้แล้ว ดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ยอมพลาดโอกาสไปง่ายๆ
　　แต่แม้ว่าฉิงเฟิงกำลังถูกหยอกล้อเขาก็ยังมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นงานเลี้ยงในวันแต่งงานของเขา มันคุ้มค่าและสมควรฉลอง
　　จนกระทั่งถึงเวลาสามทุ่มทุกคนก็เริ่มทยอยจากไป
　　มีเพียงฉิงเฟิงและหลินเสวี่ยเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้อง
　　“คุณคิดว่าฉันสวยมั้ย” ดวงตาคู่งามของหลินเสวี่ยกระพริบถี่ ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงก่ำ
　　“แน่นอนคุณสวย สำหรับผมคุณสวยที่สุด” ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมหัวเราะ
　　วันนี้หลินเสวี่ยเป็นเจ้าสาวที่สวยเป็นพิเศษใบหน้าที่เดิมงดงามอยู่แล้วกลายเป็นงามยิ่งขึ้นไปอีก มันแดงก่ำเหมือนเธอกำลังมึนเมาไปกับไวน์แดง ดวงตาสีดำขลับของเธอคล้ายกับอัญมณีสีดำที่เปล่งประกายแวววาว
　　“ที่รัก,ผมเริ่มล่ะนะ” ดวงตาของฉิงเฟิงเปล่งประกายด้วยแสงสีเขียวที่กำลังหิวโหย
　　หลินเสวี่ยเขินอายเธอก้มหน้าที่แดงก่ำลงต่ำ เธอกลัวที่จะมองหน้าฉิงเฟิง
　　เมื่อได้เห็นใบหน้าที่งดงามของเธอฉิงเฟิงก็อึ้งและมึนงง
　　“คนบ้า”เมื่อเห็นฉิงเฟิงทำหน้าเซ่อๆ หลินเสวี่ยก็ยิ้มอย่างงดงามด้วยความรู้สึกเอียงอาย
　　ฉิงเฟิงหัวเราะออกมาอีกครั้งในขณะที่สายตากลายเป็นหิวโหยมากขึ้น
　　ในช่วงเวลานี้หลินเสวี่ยได้รับความสุขจากฉิงเฟิงอย่างไม่น่าเชื่อ
　　………….
　　…..
　　…　　วันต่อมาพระอาทิตย์กำลังขึ้นและส่องแสงลงบนพื้นดินและทำให้โลกร้อนขึ้น
　　มันเป็นวันที่มีแดดอีกวันช่วงนี้อากาศนับได้ว่าดีมาก
　　ฉิงเฟิงอ้าปากหาวด้วยร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าเขาเหยียดแขนบิดขี้เกียจและหันไปนั่งที่ขอบเตียง
　　เขาอมยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตื่นเต้นเมื่อคืนที่เพิ่งผ่านมา
　　“ตื่นเถิด”ฉิงเฟิงหันหน้าไปที่เตียงอีกฝั่งและปลุกหลินเสวี่ย
　　อย่างไรก็ตามดวงตาของหลินเสวี่ยปิดสนิท ใบหน้าของเธอซีดขาวอย่างสิ้นเชิงราวกับคนตาย
　　ฉิงเฟิงเรียกชื่อเธอซ้ำหลายครั้งแต่เธอก็ยังไม่ตื่น
　　เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฉิงเฟิงก็ยื่นมือออกมาและวางไว้บนข้อมือของเธอเพื่อตรวจชีพจร　　ชีพจรของเธอเต้นอ่อนมากและไม่คงที่การหายใจของเธอก็อ่อนแอมากราวกับว่าเธอกำลังจะหยุดหายใจในไม่ช้า
　　ใบหน้าของฉิงเฟิงซีดเผือดลงด้วยความตกใจเขารีบถ่ายโอนพลังแท้เข้าไปในร่างหลินเสวี่ยทันที แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ร่างกายของเธอปฏิเสธพลังงานของเขา
　　มีลูกบอลก๊าซสีดำก่อตัวขึ้นที่หน้าผากของหลินเสวี่ยและแพร่กระจายไปทุกทิศทางในไม่ช้าก็ปกคลุมไปทั้งใบหน้าของเธอ
　　“คำสาปมรณะ บ้าน่า มันเป็นคำสาปมรณะไปได้อย่างไร ?!” ฉิงเฟิงตกตะลึงอย่างมาก
　　ฉิงเฟิงนึกขึ้นได้ทันทีในช่วงเวลาที่หลินเสวี่ยรู้ความจริงเรื่องเขากับหลิวหรูหยานจนหนีออกจากบ้านเธอได้ไปยังภูเขาชะตาฟ้าและผู้อาวุโสชะตาฟ้าที่ภายหลังก็คือราชาอสูรเทียนหมิงได้กล่าวว่าหลินเสวี่ยมีร่างของฟินิกซ์เหมันต์อยู่ ร่างกายของเธอถูกคำสาป และตอนนี้ดูเหมือนว่าคำสาปจะแตกออก　　ฉิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและเรียกให้ทั้งราชาอสูรเทียนหมิงและลู่เต๋าชางอาจารย์ของลูซวนจี๋มาที่วิลล่าโดยด่วน
　　ในเวลาไม่นานทั้งสองก็ได้มาถึงและเมื่อได้เห็นสภาพหลินเสวี่ยพวกเขาต่างก็ตกใจมาก
　　“นายน้อยมันเป็นคำสาปมรณะ พวกเราต้องหาทางช่วยเธอโดยเร็วมิฉะนั้นเธอจะตายภายในหนึ่งวัน” ราชาอสูรเทียนหมิงกล่าว
　　เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายฉิงเฟิงก็ดูเป็นกังวลมาก เขาเพิ่งจะแต่งงานกับหลินเสวี่ยและเพิ่งจะได้ใช้เวลาคืนแรกด้วยกัน พวกเขายังไม่มีลูกและหลินเสวี่ยก็เหลือเวลาชีวิตอีกแค่วันเดียว
　　ตึง!
　　เมื่อมองไปที่หลินเสวี่ยที่ไม่ได้สติน้ำตาของฉิงเฟิงก็ไหลออกมาไม่หยุด หัวใจของเขาเจ็บ มันเจ็บปวดมากจริง
　　เขาอยากให้ตัวเองเป็นคนที่โดนคำสาปมรณะเสียมากกว่า
　　นับตั้งแต่พวกเขาพบกันและได้จดทะเบียนสมรสกันหลินเสวี่ยก็พบเจอแต่เรื่องร้ายๆและทุกข์ทรมานมาโดยตลอด
　　“ราชาอสูรเทียนหมิงท่านทำนายอนาคตและดวงชะตาได้ บอกฉันมาฉันจะจัดการกับคำสาปนี้อย่างไร ” ฉิงเฟิงถามอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่แม้แต่จะเช็ดน้ำตาของตัวเอง
　　ฉิงเฟิงได้ถามราชาอสูรเทียนหมิงว่าจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไรเนื่องจากฝ่ายหลังมีความสามารถในการทำนายมากมายรวมไปถึงความลับในการมีชีวิตยืนยาวของคนๆหนึ่ง
　　ซึ่งเขาก็นับว่าโชคดีที่ถามถูกคนเพราะราชาอสูรเทียนหมิงรู้หนทางแก้ไข แต่เวลาที่เหลืออยู่จะเพียงพอหรือ
　　“นายน้อยท่านต้องมีของสามสิ่งในการถอนคำสาปมรณะ หนึ่ง หัวใจเยือกแข็ง สอง วารีแห่งชีวิตในฤดูใบไม้ผลิ สามโลหิตมังกรน้ำแข็ง” ราชาอสูรเทียนหมิงรีบบอกฉิงเฟิงอย่างรวดเร็วและไม่ลังเล